แม่ เบนซ์ ร่ำไห้ กราบเท้าขมาเมียคนโดดศาล-พ่อ เบนซ์ ฉะ โจ้ โยนบาปให้ลูกตน

          แม่เต้ เผย วันพิพากษา แม่เบนซ์ ร่ำไห้ กราบเท้าขอขมาตนแทนลูก ส่วนตัว อโหสิให้ เบนซ์ เชื่อกลับตัวดีได้ ขณะที่ พ่อ เบนซ์ ยันลูกไม่ใช่มือแทง ขนาดพ่อ "เต้" ชายโดดศาลยังเชื่อ ฉะ "โจ้" รู้ดี กลับโยนบาปให้ลูกตน

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ (28 กรกฎาคม 2561) อมรินทร์ ทีวี ได้เผยบทสัมภาษณ์ของ นางเรวดี ทัฬหสุนทร แม่ของเต้ คนเสียชีวิต เกี่ยวกับเรื่องที่อีกฝ่ายอ้างว่า เบนซ์ เป็นคนแทงลูกชายตนจนเสียชีวิตว่า ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่อยากให้พยานหรือผู้ที่เห็นเหตุการณ์ออกมาให้ข้อมูลตามความเป็นจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวตน ส่วนกรณีของเบนซ์นั้น วันที่ศาลตัดสิน แม่ของเบนซ์ก็ร้องไห้และเข้ามาก้มกราบเท้าตน เพื่อขอโทษแทนเบนซ์ ด้วยความสงสารตนจึงอโหสิกรรมให้ และบอกให้เบนซ์กลับตัวเป็นคนดี
          โดยคดีของเบนซ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุ ศาลสั่งให้ครอบครัวตนเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง ซึ่งนายศุภชัย ทัฬหสุนทร สามีของตน ได้ขอให้อีกฝ่าย ชดใช้เงินจำนวน 200,000 บาท โดยเงินส่วนนี้ให้ผ่อนจ่ายด้วยการบริจาคให้มูลนิธิพระดาบส ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เดือนละ 1,000 บาท จนครบตามจำนวน เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ลูกชายตนที่เสียชีวิตไป รวมถึงให้บริจาคเลือด จำนวน 45 ครั้ง เนื่องจากลูกชายตนเป็นคนที่ชอบบริจาคเลือด

          ส่วนเรื่องที่ลูกชายมือเปื้อนเลือด เป็นเพราะลูกตนไปต่อยหลังจากที่นายเต้ถูกแทงแล้ว ทำให้เลือดผู้ตายมาติดเสื้อลูกชายตน ส่วนเรื่องที่แฟนของนายโจ้ อ้างว่า ลูกตนขอติดรถไปด้วยเพราะก่อเหตุแทงนายเต้มานั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากลูกชายเอารถจักรยานยนต์ไปเอง แล้วจะไปขอกลับกับอีกฝ่ายได้อย่างไร รวมถึงลูกชายไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนีด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมาตามลูกชายตนถึงที่บ้าน เพื่อไปให้ปากคำ
          ทั้งนี้การที่นายโจ้และแฟนสาวออกมาแถลงข่าว ทำให้ตนรู้สึกว่าเขากำลังปรักปรำลูกตน อีกทั้ง พอทราบข่าวนายศุภชัย พ่อของผู้ตายกระโดดศาลอาญา ตนรู้สึกตกใจและรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะที่ผ่านมา พ่อนายเต้เป็นคนที่เขียนบันทึกลำดับเหตุการณ์คดีนี้ทั้งหมด และเขาเชื่อว่าลูกชายตนไม่ใช่คนก่อเหตุ ซึ่งภายหลังจากคำพิพาษาในคดีลูกตน พ่อของเต้ ยังเข้ามาพูดกับลูกตนให้ตั้งใจเรียน และให้อภัยในสิ่งที่ลูกตนทำ

          ส่วนการแถลงการณ์ของคู่กรณี ตนไม่ขอแสดงความเห็น แต่ความจริงก็คือความจริง การโยนความผิดให้ผู้อื่นจะกลายเป็นตราบาปเสียเปล่า ตอนนี้ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะฝ่ายตนพร้อมที่จะให้มีการรื้อคดี และไม่มีการคิดหนีคดี