แม่ชีหอบหลักฐานบุกสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ยันมีสัมพันธ์ลับเจ้าอาวาสวัดเขาสุกิม วอนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แฉเคยร้องเรียนไปแล้ว แต่เรื่องเงียบ
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีที่ พระอธิการทองพูน นะทยาลุโก เจ้าอาวาสวัดเขาสุกิม อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ถูกร้องเรียนเนื่องจากนำมวลชนมาทำร้ายร่างกายพระรูปหนึ่ง และเคยบังคับแม่ชีคนหนึ่งให้ร่วมหลับนอนด้วย และได้มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับแม่ชีคนนี้เป็นเวลาหลายปี ซึ่งต่อมาพระอธิการทองพูน ได้ออกมาระบุว่า เป็นการสร้างข่าวทำให้เสียชื่อเสียงจากกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์จากวัด ลั่นแม่ชีมีพฤติกรรมตีสนิทพระผู้ใหญ่ แถมชอบยืมเงิน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : แม่ชีแฉเจ้าอาวาสวัดเขาสุกิม บังคับร่วมหลับนอน คบกันนาน แถมให้เงินส่งเสียทุกเดือน คลิก]
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 6 สิงหาคม 2561 เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายปรเมษฐ เนติธรรมรักษ์ ประธานชมรมเนติธรรมรักษ์ ได้เดินทางไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วยแม่ชีที่ถูกพาดพิงว่ามีความสัมพันธ์กับพระอธิการทองพูน เพื่อนำหลักฐานมายื่นให้ตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าอาวาสดังกล่าว
นายปรเมษฐ เปิดเผยว่า ได้นำหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพฤติกรรมของพระอธิการทองพูน ในเรื่องความสัมพันธ์กับแม่ชี รวมทั้งตรวจสอบเรื่องที่พระอธิการทองพูน ระบุว่ามีพระผู้ใหญ่ 2 รูป ทุจริตเงินทอนวัด
นายปรเมษฐ เปิดเผยว่า ได้นำหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพฤติกรรมของพระอธิการทองพูน ในเรื่องความสัมพันธ์กับแม่ชี รวมทั้งตรวจสอบเรื่องที่พระอธิการทองพูน ระบุว่ามีพระผู้ใหญ่ 2 รูป ทุจริตเงินทอนวัด
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ด้านแม่ชี ระบุว่า ตนมีข้อมูลและหลักฐานยืนยันว่าเจ้าอาวาสมีความสัมพันธ์กับตนจริง และได้นำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ เพราะต้องการให้สังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่าเข้าข่ายอาบัติปาราชิกหรือไม่ ซึ่งเมื่อปี 2548 ตนเคยร้องเรียนไปแล้ว แต่เรื่องไม่คืบ กระทั่งเมื่อปี 2559 ก็มีคำสั่งไม่ให้ตนเข้าวัดที่พระรูปดังกล่าวเป็นเจ้าอาวาส โดยตนสงสัยว่าทำอะไรผิด ทั้งที่เคยเป็นลูกศิษย์วัดนี้มาตั้งแต่ปี 2516 ตนไม่ขอให้รายละเอียด เนื่องจากเป็นเรื่องที่หน่วยงานต้องไปตรวจสอบ ขอให้ทางหน่วยงานออกมาให้รายละเอียดเอง
ด้านนายสิปป์บวร แก้วงาม ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เปิดเผยว่า จะรับเรื่องไว้ก่อน แล้วจะตรวจสอบพยานหลักฐาน แต่เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดก่อน แบ่งเป็นเรื่องการทุจริต และเรื่องธรรมวินัย จึงต้องขอเวลาในการตรวจสอบให้รอบคอบและรัดกุม พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้านนายสิปป์บวร แก้วงาม ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เปิดเผยว่า จะรับเรื่องไว้ก่อน แล้วจะตรวจสอบพยานหลักฐาน แต่เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดก่อน แบ่งเป็นเรื่องการทุจริต และเรื่องธรรมวินัย จึงต้องขอเวลาในการตรวจสอบให้รอบคอบและรัดกุม พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
