แม่ใจแทบขาด เล่าอุทาหรณ์พาลูกอายุ 22 วัน ไปกวาดยาแบบโบราณ สุดท้ายติดเชื้อในกระแสเลือด-เยื่อหุ้มสมองอักเสบ จนมองไม่เห็น
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2561 เฟซบุ๊ก
Bee Sansanee Chanasit
ได้เล่าอุทาหรณ์พาลูกวัย 22 วัน ไปกวาดยาแบบโบราณ โดยเผยว่า
มีคนแก่มาทักว่าให้พาไปกวาดยา บอกว่า กวาดแล้วจะไม่เป็นซาง ไม่เจ็บไม่ป่วย
ตนก็หลงเชื่อพาลูกไป พอตกดึกลูกร้องไห้ไม่หยุด เริ่มมีไข้
จึงรีบพาลูกไปโรงพยาบาลเจาะเลือดหาสาเหตุ พบว่า ติดเชื้อในกระแสเลือด
โดยหมอบอกว่ามีเด็กมากมายที่ไปกวาดยามาแล้วติดเชื้อ
เชื้อนี้อาจจะมาจากมือคนกวาด
หรืออาจจะในยาที่เอามากวาดยากวาดมีส่วนผสมของฝิ่นที่อันตรายมากกับเด็กเล็ก
และในวัยทารกเพดานปากจะอ่อนมาก เชื้อโรคเข้าได้ง่าย ต้องย้ายไปไอซียู
เจาะเอาน้ำกระดูกไขสันหลังมาตรวจเพิ่ม
ผลตรวจออกมาเจอเชื้อเพิ่มอีกตัวเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ก่อนที่ตาซ้ายน้องจะลืมไม่ขึ้นหมอเลยส่งไปสแกนสมอง
เจอน้ำบางอย่างจำนวนมากคลั่งอยู่ในโพรงสมองส่งผลให้ตาน้องลืมไม่ขึ้น
แต่น้องไม่มองหน้าแม่ ไม่มองอะไรเลย หมอบอกว่า
น้องมองไม่เห็นไม่มีวิธีรักษาแล้ว สมองส่วนที่รับภาพถูกเชื้อทำลายไปบางส่วน
เมื่อกลับมาถึงบ้านตนก็คิดเราคิดว่าลูกยังมีหวังเลยหาข้อมูลโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญเรื่องตา
หมอบอกว่าดวงตาน้องปกติดี แต่ปัญหาอยู่ที่สมองไม่สั่งการให้เห็น
หมอให้กระตุ้นตาลูก ซึ่งหมอบอกไม่ได้ว่าเมื่อไรลูกจะมองเห็น
ซึ่งเมื่อตนทำตามที่หมอบอกทุกอย่างในที่สุดสังเกตได้ว่าลูกเริ่มจ้องของ
เริ่มมองตามของที่สีเด่น ๆ การมองเห็นดีขึ้นเองเรื่อย ๆ
จนถึงตอนนี้วันนี้น้องอายุ 11 เดือนแล้ว น้องจ้องมองหน้าแม่ได้แล้ว
แต่ยังเห็นได้ไม่ไกล และยังไปตามนัดของหมอตา
การกวาดยาในเด็กทารก
ถือเป็นสิ่งที่คนเฒ่าคนแก่เชื่อว่าถ้าเด็กได้กวาดยาแล้วจะไม่เป็นโรค
และเด็กจะแข็งแรง ทำให้ในสมัยก่อนมีการกวาดยากันอย่างแพร่หลาย
โดยวิธีกวาดยาคนที่ทำจะใช้นิ้วมือของตัวเองป้ายสมุนไพรเข้าไปในปากของเด็ก
ซึ่งในปัจจุบันนี้หลายครอบครัวยังคงทำตามความเชื่อเดิมว่าควรพาเด็กไปกวาดยา