พยาน แฉนาทีเมล์ 113 ขับทับหัวนักเรียนกะโหลกแตก แล้วชิ่ง อ้างไม่เห็น ด้านพ่อนักเรียน อึ้ง รอยล้อรถติดเสื้อนักเรียนลูก ยังกล้าปฏิเสธ
ล่าสุด (25 สิงหาคม 2561) อมรินทร์ ทีวี ได้สอบถามไปยัง นายเลิศสินชัย อายุ 52 ปี พ่อของนักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุ เผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 สิงหาคม ตนได้รับโทรศัพท์จากครูของลูกสาว ว่าลูกตนประสบอุบัติเหตุ ตนจึงไปที่ สน.บางชัน ก็ได้พบคนขับรถเมล์คู่กรณี นั่นคือรถเมล์สาย 113 โดยทราบว่ารถเมล์คันดังกล่าวชนลูกตนแต่คู่กรณีไม่ยอมรับ อ้างว่าไม่มีรอยเฉี่ยวชน และลูกตนล้มไปเอง แต่จากที่ตนสังเกตสภาพชุดนักเรียนของลูกสาว พบว่า มีรอยล้อรถบริเวณเสื้อด้านหลัง และกระเป๋าก็มีรอยเหยียบจนแบน
สำหรับอาการของลูกสาว ตอนนี้พ้นขีดอันตราย แต่ยังคงต้องพักอยู่ในห้องไอซียู และติดตามอาการอีก 72 ชั่วโมง เนื่องจากศีรษะแตก กะโหลกมีรอยร้าว
ด้านหนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเห็นเด็กนักเรียนคนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์ชิดซ้าย และช่วงที่กำลังจะเบี่ยงขวาเพื่อขึ้นสะพาน จู่ ๆ รถเมล์สาย 113 ซึ่งขับตามหลังมาได้เบียดไม่ให้น้องเข้าขวา ทำให้น้องเสียหลักจนรถล้มลงไป จากนั้นรถเมล์ก็ได้ขับผ่านโดยล้อหน้าเฉี่ยวชนศีรษะน้อง และล้อหลังเหยียบบริเวณไหล่ขวา ก่อนที่จะขับไปโดยไม่หยุดลงมาดู ตนเห็นว่าศีรษะน้องมีเลือดออกมาก และไม่ได้สติ
นอกจากนี้ ยังมีพลเมืองดีได้ขับรถตามรถเมล์คันดังกล่าวให้กลับมารับผิดชอบ ซึ่งคนขับรถเมล์ อ้างว่า ไม่ทราบเรื่อง และยืนยันว่าไม่ได้ขับชน แต่ย้อนแยงกับคำพูดของกระเป๋ารถเมล์ที่บอกประมาณว่า คิดว่าไม่โดน ซึ่งตนเชื่อว่าคนขับเห็นเด็กนักเรียน และยินดีไปเป็นพยานให้
เบื้องต้น จากการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน ระบุว่า คนขับรถเมล์ยังให้การปฏิเสธว่าขับชน อ้างไม่เห็นเหตุการณ์ ตอนนี้ต้องรอสอบปากคำคนเจ็บ และหากมีพยานก็ต้องสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อนจะสามารถสรุปคดีได้ต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพเด็กนักเรียนหญิงประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ล้ม โดยที่ศีรษะมีเลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก พร้อมระบุว่า รถเมล์สาย 113 ชนแล้วหนี ผู้เห็นเหตุการณ์ต้องขับตามเพื่อขอให้มารับผิดชอบนั้น

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ล่าสุด (25 สิงหาคม 2561) อมรินทร์ ทีวี ได้สอบถามไปยัง นายเลิศสินชัย อายุ 52 ปี พ่อของนักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุ เผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 สิงหาคม ตนได้รับโทรศัพท์จากครูของลูกสาว ว่าลูกตนประสบอุบัติเหตุ ตนจึงไปที่ สน.บางชัน ก็ได้พบคนขับรถเมล์คู่กรณี นั่นคือรถเมล์สาย 113 โดยทราบว่ารถเมล์คันดังกล่าวชนลูกตนแต่คู่กรณีไม่ยอมรับ อ้างว่าไม่มีรอยเฉี่ยวชน และลูกตนล้มไปเอง แต่จากที่ตนสังเกตสภาพชุดนักเรียนของลูกสาว พบว่า มีรอยล้อรถบริเวณเสื้อด้านหลัง และกระเป๋าก็มีรอยเหยียบจนแบน

ทั้งนี้ ตนมีอาชีพเป็นพนักงานขับรถของ ขสมก. จึงทราบดีว่า รถเมล์สายดังกล่าวค่อนข้างจะขับเร็ว ซึ่งขณะนี้ตนได้ติดต่อผู้เห็นเหตุการณ์ให้เข้ามาเป็นพยาน เพื่อช่วยเหลือตนด้านคดีแล้ว

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เบื้องต้น จากการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน ระบุว่า คนขับรถเมล์ยังให้การปฏิเสธว่าขับชน อ้างไม่เห็นเหตุการณ์ ตอนนี้ต้องรอสอบปากคำคนเจ็บ และหากมีพยานก็ต้องสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อนจะสามารถสรุปคดีได้ต่อไป

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
