เจ้าของที่พัก เผยสาวฝรั่งอ้างถูกข่มขืนจริง แต่ไม่ยอมรีบแจ้งความ อ้างต้องไปฟูลมูนปาร์ตี้ที่เกาะพะงัน พบวงจรปิดถูกลบอัตโนมัติหลังผ่าน 7 วัน
ภาพจาก springnews
จากกรณีสื่ออังกฤษตีข่าว นักท่องเที่ยวสาว วัย 19 ปี
มาเที่ยวเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนถูกปล้น วางยา และข่มขืน
บริเวณหาดทรายรี ไม่ไกลกับจุดที่เคยเกิดเหตุ 2
นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษถูกฆาตกรรม โดยหลังแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน
ทางตำรวจกลับไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องการข่มขืน
แถมกล้องวงจรปิดที่บาร์กลับเสีย ลักษณะคล้ายมีการปิดข่าวนั้น (อ่านข่าว :
เกาะเต่าฉาวอีก เพจดัง-สื่อนอก ตีข่าว นทท. อังกฤษถูกข่มขืน
แต่ตำรวจปิดข่าว)
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 27 สิงหาคม 2561 สปริงนิวส์ รายงานว่า พล.ต.ต. อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พล.ต. เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผบ.กองบัญชาการช่วยรบที่ 4 กองทัพภาค 4 ในฐานะหัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบส่วนหน้า กองทัพภาค 4 ได้เดินทางไปร่วมประชุมและสอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้อง น.ส.อีสเบล วิคตอเรีย กล่าวอ้างว่าถูกชายชาวเอเชียข่มขืนที่เกาะเต่านั้น
จากการสอบถาม น.ส.ภัทรา อายุ 32 ปี เจ้าของที่พัก ซึ่ง น.ส.อีสเบล
ได้เดินทางเข้าพักพร้อม นายมาติน ในระหว่างวันที่ 21-26 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เล่าว่า ก่อนเช็กเอาต์ น.ส.วิคตอเรีย และนายมาติน แจ้งกับตนว่า
เมื่อคืนที่ผ่านมา มีอาการคล้ายถูกวางยาในเครื่องดื่ม และข่มขืน
รวมทั้งเอาทรัพย์สินเป็นเงินสดและโทรศัพท์มือถือไป
ตนจึงได้แนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ทั้งสองไม่ยอมไป อ้างว่าต้องรีบเดินทางไป
อ.เกาะพะงัน เพื่อไปเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้ต่อ
แม้ตนจะพยายามโน้มน้าวหลายครั้งก็ตาม
ภาพจาก springnews
ด้าน พล.ต.ต.
อภิชาติ กล่าวว่า ได้แต่งตั้งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง
โดยให้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ทราบว่า
มีเหตุกรณีดังกล่าวหาเกิดขึ้นจริงหรือไม่
หากเกิดขึ้นจริงก็จะพยายามจับกุมคนร้ายแล้วแจ้งไปยังผู้เสียหาย
แต่หากพบว่าไม่มีมูลความจริง
ก็จะเสนอไปยังฝ่ายกฎหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการต่อไป
ภาพจาก springnews
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก