x close

มือตบสาวเจ้าของคลินิกแฉ อึดอัด โดนเหยียดหยามสารพัด แถมยังถูกลอยแพ


          สาวเจ้าของคลินิก ปะทะมือตบ ชี้อีกฝ่ายพาพวกมารุม มือตบโต้ไม่ได้ยกพวกไป รับที่จิกหัวเพราะอึดอัด โดนเหยียดหยามสารพัด แถมยังถูกลอยแพ

รุมตบเจ้าของคลินิกเสริมความงาม

          จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเจ้าของคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง เผยคลิปเหตุการณ์ที่มีกลุ่มหญิงบุกมายืนโต้เถียงหน้าร้านของเธอที่เพิ่งเปิดวันแรก ก่อนจะมีหญิงรายหนึ่งฉวยโอกาสกระชากผมเธอและสั่งให้พวกที่มาด้วยรุมกระทืบจนบาดเจ็บ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : สาวแฉนาที คู่กรณีบุกร้าน เล่นทีเผลอกระชากหัว-รุมกระทืบ วันเปิดคลินิก]

          ล่าสุด วันที่ 27 สิงหาคม 2561 รายการโหนกระแส ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ คุณปริม ปริมระตา ใจสุข เจ้าของคลินิก และ คุณโอ คู่กรณี พร้อมด้วย ฟิล์ม มือตบอีกคน ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

รุมตบเจ้าของคลินิกเสริมความงาม

- คุณปริมอายุเท่าไหร่ ?

          ปริม : 30 ปีค่ะ ตอนนี้มีโรงงานน้ำดื่ม โรงงานเสื้อยืด และเพิ่งมาเปิดคลินิก

- อาการคุณเป็นยังไง ?

          ปริม : ข้อมือซ้นและช้ำที่แขน และบ่า หัวโน ถ้าเป็นแผลถลอก สะโพกจะเยอะที่สุด

- ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือวันเปิดคลินิก ?

          ปริม : ใช่ค่ะ จริง ๆ คลินิกเปิดแต่ไม่ได้เปิดให้การรักษา เปิดทำทรีตเมนต์ แต่วันนั้น 23 สิงหาคม เราประกาศออกไปว่าคุณหมอจะเข้าให้การรักษา มาฉีดมาอะไรได้

- เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณโอมาทำร้ายคุณ ?

          ปริม : คือตอน 5 โมงเย็น เรามีลูกค้าเข้าร้านแล้ว ค่อนข้างเยอะ มีลูกค้ามารอคิวที่จะพบคุณหมอ ก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา เป็นเสียงแจ๊ด ๆ โทร. มาด่าเลย ไม่ได้ตั้งใจที่จะสอบถาม คนที่โทร. ปริมไม่รู้จัก แต่เพิ่งจะรู้ว่าเขาเป็นใคร

- กับคุณโอคุณรู้จัก ?

          ปริม : ใช่ค่ะ โอเขาเป็นเซลส์ของคลินิกศัลยกรรมที่นึงที่ปริมไปใช้บริการ เจอกัน 4 ครั้ง ในรอบ 2 ปี วันนึงโอก็โทร. หาปริมว่าเขาจะลาออกจากที่ทำงาน จะไปขายเสื้อยืดให้ปริมได้มั้ย ปริมก็ถามว่าทำไมจะมาขายเสื้อยืด เขาบอกว่าเขาติดสัญญาข้อนึงถ้าออกแล้วห้ามไปทำซ้ำ ซึ่งเราก็ว่ามันไม่แฟร์ เราดูแลให้มั้ย เดี๋ยวเราให้ทนายเราไปดูแล เพราะไม่เป็นธรรม เหมือนคนขายหมูปิ้งแล้วจะให้ไปขายอะไร เราอยากจีบเขาด้วย เขามีประสบการณ์ที่เราชอบ ก็เลยบอกว่าเรามาดูแลด้วยกันมั้ย เราลงทุนเธอก็เหมือนดูแลลูกค้า เราให้หุ้นเธอ 25 เปอร์เซ็นต์ ถ้า 1 ปีเราคืนทุน เราจะเปลี่ยนให้เธอเป็น 40-60

- เขาบอกคุณหลอกให้เขาออกมา ?

          ปริม : ไม่ใช่ค่ะ เขาไม่ได้พูดว่าปริมหลอก สื่อตีความไปผิด เขาจะพูดว่าเขาโทร. มาปรึกษาปริมว่าเขาจะออกจากที่ทำงาน เพราะเจ้านายเก่าเขาหาว่าเขาร่วมกันทุจริตแต่เขาไม่ได้ทำ เขาไม่พอใจว่าเจ้านายมาเปลี่ยนกฎ แต่แรกเริ่มเจ้านายให้ลูกค้าโอนเงินจองกับเซลส์ได้เลย แต่พอมีการเกิดทุจริตในทีมเกิดขึ้นเจ้านายก็เปลี่ยนว่าให้โอนเงินจองทั้งหมดเข้าคลินิก

- คุณให้เขา 25 เปอร์เซ็นต์ ตัวคุณ 75 เปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเกิดอะไรขึ้น ?

          ปริม : ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างดำเนินมาแบบนั้น ร่วมกันทำมาตลอด ปริมลงทุนทั้งหมด

- เหมือนเขาถือหุ้นลม ?

          ปริม : ค่ะ เอาประสบการณ์ความสามารถมาใช้ ทุกอย่างโอเค ดี ปริมเป็นนางฟ้า เป็นผู้ให้ตลอด แต่พอวันคลินิกปิดงบ ทุกอย่างพร้อมเปิด โอเดินมาหาปริม บอกว่าเราไม่ชอบทุกอย่างที่เป็นปริม ไม่อยากให้ปริมเข้ามาบริหาร ไม่ชอบการตกแต่ง ไม่ชอบเคาน์เตอร์ ไม่ชอบผนัง ไม่ชอบทุกอย่าง เราอึดอัด

          ปริมก็ถามว่าแล้วจะเอายังไง เขาก็บอกว่าปริมให้หุ้นเรา 25 เปอร์เซ็นต์ ให้เราบริหารได้มั้ย เราก็คิดว่าทำไมเธอคิดอย่างนั้น เธอทำเป็นเหรอ ก็ปริมยังทำคอลลาเจนเจ๊งเลย ทำไมไม่ให้เราบริหาร เราก็บอกว่าเฮ้ย คอลลาเจนเจ๊งเป็นสิ่งที่เราเล่าให้เธอฟังนะ เราเล่าขำ ๆ ไม่ได้อายว่าต้องเป็นความลับ เราแค่สต็อกของไว้เยอะ เราขายไม่หมด เราก็เลยบอกว่าเจ๊ง แค่นี้ แต่ตัวปริมเองมีโรงงานเสื้อยืด โรงงานน้ำดื่ม ซึ่งปริมบริหารเอง ปริมไม่เคยเรียนด้านบริหารมาแต่ก็ทำให้มันอยู่รอดได้

          การบริหารไม่ใช่แค่อยากจะทำ แล้วมีลูกค้าแล้วบริหารได้ มีเรื่องระบบ มีเรื่องประสานงาน ติดต่อ มีเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับทั้งหมดเธอทำได้มั้ย เขาก็อึ้งไปนิดนึงแล้วบอกว่าขอไปปรึกษาพี่ราม ซึ่งเป็นสามีเขาก่อน

- เงินลงทุนได้ทำสัญญาไหม ?

          ปริม : มีค่ะ ถ้าปริมได้ผลประกอบการจะเปลี่ยนเป็น 60-40 ยังไม่ได้เซ็น แต่โอเห็นสัญญานี้ตลอด มีการปรับปรุงแก้ไขจนเป็นที่พอใจของเขา เพราะทุกครั้งที่มีสัญญา เสมียนปริมจะอ่านสัญญาให้โอฟัง ไม่พอใจก็แก้แล้วพิมพ์ใหม่

รุมตบเจ้าของคลินิกเสริมความงาม

- ปัญหาเกิดอะไร ?

          ปริม : พี่รามเขาได้โทร. มาคุยกับปริม โทร. มาต่อว่าว่าทำไมจะทิ้งภาระค่าใช้จ่าย แค่ขอบริหาร มึงก็ทำไปสิ เป็นคำพูดไม่ดี คุกคามหยาบคาย พูดด้วยวาจาที่กระแทก พูดไม่ดี พูดคำหยาบ พี่รามโทร. มาแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้โอเขาไม่พอใจเรื่องสัญญาเพิ่มเติมระหว่างปริมกับโอ ข้อนึงโอทำงานไม่มีวันหยุด แต่ปริมไม่มีวันทำงานตายตัว ถ้าโอจะหยุดวันไหนต้องแจ้งล่วงหน้า แล้วปริมจะเข้าไปดูแลแทน ไม่สามารถหยุดติดกันเกิน 3 วัน

- วันตบกันเกิดอะไรขึ้น ?

          ปริม : วันเกิดเหตุมีคนของเขาโทร. เข้าคลินิกมาด่าปริมเสียหาย ว่าปริมส่งคนไปสืบราคาและโปรโมชั่นกับคลินิกเขา ซึ่งปริมพยายามชี้แจงว่าไม่จริง ปริมไม่ได้ทำ มากล่าวหาปริม ลูกค้าคนที่เขากล่าวหาว่าเป็นสายสืบที่ปริมส่งไปยังอยู่ในคลินิกทุกคน ปริมมั่นใจว่าเขาดูจากเฟซบุ๊กปริมเพราะลงในเฟซบุ๊กให้รู้ว่าเรามีลูกค้า

          พอปริมลงรูปปุ๊บโทรศัพท์มาเลย บอกว่าไอ้คนที่นั่งข้าง ๆ มึง มึงส่งมาทำไม ด่าอี ด่าเ-ย ด่าสารพัด โทร. มาสร้างความวุ่นวายก่อกวนในวันที่ปริมเปิดร้านวันแรก ซึ่งปริมมั่นใจว่าปริมไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น แล้วลูกค้าปริมก็ยังอยู่ครบ ปริมเลยบอกว่าให้เข้ามาดูเลยก็ได้ ปริมยินดีให้ตรวจสอบว่าลูกค้าคนไหนคือคนที่คุณหมายถึง

- เขามาไหม ?

          ปริม : เขามาตอนที่ปริมส่งคุณหมอกลับไป และเรียกประชุมงาน ปิดงานในวันนั้น ก็บอกว่าให้รอแป๊บนึง เขาก็ตะโกนให้ออกมา ปริมก็อาย

- รู้จักทุกคนไหม ?

          ปริม : รู้จักโอคนเดียว ไอ้สามคนที่มาด้วยกับโอ เคยมาสัมภาษณ์งานตอนเปิดคลินิกครั้งเก่า เขาเป็นน้องของโอนี่แหละ แต่ไม่เคยรู้จักส่วนตัว เคยเจอในวันสัมภาษณ์งาน ปริมไม่ได้ตั้งรับว่าจะตัวเองจะต้องโดนอะไรแบบนี้

- สุดท้ายคือฝั่งเขาและคุณทำงานร่วมกันต่อไหม ?

          ปริม : ไม่ได้ทำค่ะ เพราะคลินิกปิดไปแล้ว โอไปเปิดคลินิกใหม่ และปริมคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว ปริมเลยมาเปิดของตัวเองอีกที่นึง ไม่ได้เปิดใกล้กันมาก เขาเปิดก่อน

- มีแหล่งข่าวว่าคุณส่งสปายเข้าไปดู ?

          ปริม : ไม่ใช่ค่ะ ปริมต้อนรับลูกค้าอยู่ในวันแรกที่เปิดคลินิก ปริมถ่ายรูปกับลูกค้าลงเฟซบุ๊ก พอลงปุ๊บก็มีโทรศัพท์มาต่อว่าปริม ว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ ปริมเป็นคนที่สอบถามราคาเขา ก็ชี้แจงว่าไม่ใช่ ให้มาตรวจสอบได้เลย เขามาตอนกลางคืนซึ่งลูกค้ากลับไปหมดแล้ว

- คุณโอ สรุปคุณไปตบเขา ?

          โอ : ใช่ค่ะ

รุมตบเจ้าของคลินิกเสริมความงาม

- วันนั้นคุณเปิดร้านของคุณเอง ทางนี้ส่งสปายไปสืบจริงไหม ?

          โอ : อันนี้โอไม่ทราบค่ะว่าเขาส่งมาสืบจริงหรือเปล่า เป็นทางพนักงานได้บอกกับโอไว้ค่ะ แต่ตัวโอไม่ทราบในเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เลยค่ะ พนักงานเป็นผู้หญิงอีกคนนึงค่ะ เขาได้บอกเรา บอกว่าพี่โอมีคนนึงเข้ามาถามโปรโมชั่นถามเยอะมาก ๆ เลย

          ระหว่างที่พนักงานคนนั้นขออนุญาตดูไอแพดจะกดเข้าไปกดถูกใจให้ ระหว่างนั้นปริมได้ไลน์เข้ามาหาลูกค้าคนนั้นว่าถึงหรือยัง อันนั้นพนักงานบอกกับโอ ไลน์เด้งมาหน้าไอแพดว่าถึงหรือยัง

          ปริม : ชื่อว่าอะไร

          โอ : โอไม่ทราบค่ะ

- ทำไมพนักงานรู้ว่าเป็นปริม ?

          โอ : เขาบอกว่าชื่อปริมขึ้นมาค่ะ ไม่รู้ไลน์ หรือแชต หรือเฟซบุ๊ก ไลน์มาว่าถึงหรือยัง

- ทางคุณปริมว่าไง ?

          ปริม : ไลน์ปริมไม่ได้ชื่อปริม ชื่อสู้เพื่อลูก

- เป็นไปได้ไหมอีกฝ่ายเซฟชื่อคุณว่าปริม ?

          ปริม : อันนี้ไม่รู้ค่ะ

- กรณีนี้ทำไมคุณโอเดือดถึงขนาดบุกไปหาเขาที่ร้าน ?

          โอ : เขาโทร. เข้ามาหาโอค่ะ ตอนสองทุ่มสามนาที คุยกันประมาณหกนาที ว่าทำไมเธอให้พนักงานมาด่าเรา เราก็บอกว่าเราเหรอ เราให้โทร. ไปเหรอ เขาให้เราไปเคลียร์ดีกว่า เราเลยออกไปจริง โดยไม่ได้ตั้งตัวอะไรทั้งสิ้นเพราะเราจะนอนอยู่แล้ว ระหว่างนั้นเราอยู่ที่บ้าน ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย เราไปหาเขาถึงที่คลินิก เราไปเคาะประตูเรียกเขา ไม่ได้ไปพูดไม่ดี

- เขาบอกคุณโวยวายหน้าร้าน ?

          โอ : ไม่จริงค่ะ โอพูดดีกับปริมทุกอย่างค่ะ

- การที่คุณไปจิกหัวเขาเกิดอะไรขึ้น ?

          โอ : เกิดจากที่เขายั่ว เหยียดหยามเรามานานมากแล้ว เช่น ใครให้เธอออกจากงาน ใครไปขโมยความรู้ของเธอ ซึ่งเรารับไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีเรา เธอก็ทำคลินิกไม่เป็นเลย เพราะเธอไม่ได้มีพื้นฐานตรงนี้มา เราไม่ได้เก่งนะคะ แต่เราให้คนที่เคยทำคลินิกกับเรามาร่วมทำ ถึงสำเร็จ

รุมตบเจ้าของคลินิกเสริมความงาม

- คุณจะบอกว่าคุณปริมขอให้คุณออกจากงานเหรอ ?

          โอ : ใช่ค่ะ เขาเป็นฝ่ายโทร. หาโอค่ะ

- ทางคุณปริมบอกว่าคุณจะลาออกเอง ปริมเลยไปจีบเขามา ?

          โอ : โอพูดหลังจากนั้นค่ะ เพราะโอจะให้หลานโอไปขายเสื้อ แต่ตัวโอไม่คิดจะไปขายเสื้ออยู่แล้ว โอจะให้หลานไปขายเสื้อ

- คุณปริมขอให้คุณออกมา ?

          โอ : ปริมไม่เชิงขอ แต่ปริมโทร. มาและชักชวนโอถึง 3 ครั้ง เขาก็บอกว่าทำไมล่ะ เดี๋ยวเปิดคลินิกให้เอามั้ย มันมีโอกาสเจริญก้าวหน้า เราก็ไปเพราะโอคิดว่าต้องเจริญก้าวหน้า

          ปริม : พอเขาโทร. มาบอกเรื่องปัญหาที่เขาจะออก ปริมก็เลยเอาตรงนี้ไปจีบเขา

- แล้วพูดไหม ออกมาสิเดี๋ยวมาเปิดคลินิกให้ ?

          ปริม : ก็เขาบอกว่าเขาจะออกจากที่ทำงานมาขายเสื้อยืดปริมได้มั้ย ถ้าเกิดไม่บอกว่าจะออก แล้วเราจะพูดเรื่องติดสัญญาห้ามไปทำซ้ำแบบนั้นได้ยังไง

          โอ : ไม่จริงอย่างที่เขากล่าวหา เขาโทร. หาโอเอง 3 ครั้งค่ะ มีรายละเอียดลึก ๆ อีกหลายอย่างค่ะ

- คุณบันดาลโทสะยังไง ถึงไปจิกเขาก่อน ?

          โอ : มันเป็นปมในใจค่ะ ตลอดระยะเวลา 3 เดือนเราทำงานให้เขาเต็มที่หมดทุกอย่าง สุดท้ายมาลอยแพ ตรงนั้นเป็นต้นเหตุอยู่แล้ว วันนั้นเขาพูดว่าใครไปขโมยความรู้เธอ ซึ่งเราทนไม่ได้ค่ะ เขาไม่ได้ใช้คำพูดที่หยาบคายเขามีฝีปากที่ดีค่ะ ยอมรับ วุฒิภาวะโอสู้เขาไม่ได้แน่นอนค่ะ

รุมตบเจ้าของคลินิกเสริมความงาม

- เลยใช้มือสู้เลย ?

          โอ : ใช่ค่ะ ยอมรับตรงนี้ และขอโทษจริง ๆ จุดนี้ที่เราทำ แต่ประเด็นที่เขาบอกว่ามีผู้ชายไปรุม 8-9 คน ไม่มีเลยค่ะ

          ปริม : มีผู้ชายค่ะ รวมแล้ว 8 คน ทั้งหญิงและชาย

          โอ : ผู้ชายมีแค่คนเดียวคือแฟนคนที่ท้อง และไม่ได้รุมทำร้ายคุณปริมอย่างที่คุณปริมกล่าวหา ผู้หญิงมีแค่ 4 คนค่ะ นอกนั้นเป็นฝั่งเขาค่ะ

- วันนั้นที่มีทะเลาะกันยืนยันว่ามีผู้ชายคนเดียว ?

          โอ : ไม่มีการรุมค่ะ เพราะโอเป็นคนกอดผู้ชายใส่หมวกกันน็อกว่าอย่าไปทำแฟนเขา ห้ามไว้ ยืนยันค่ะ

- แต่ในภาพทำไมเหมือนไปรุมเขา ?

          โอ : อันนั้นเป็นภาพผู้หญิง มีฝั่งเขาและฝั่งเราค่ะ ผู้ชายเสื้อแดงก็ฝั่งเขาค่ะ

          ปริม : ผู้ชายเสื้อแดงเป็นแฟนน้องพนักงานที่มาตอนหลังแล้วไม่ได้อยู่ตอนเกิดเหตุ ไม่ใช่คนของปริมค่ะ เป็นแฟนพนักงาน

          โอ : รุมทำร้ายใครคะ

          ปริม : รุมทำร้ายคือ ไม่จำเป็นต้องมาทำปริมทั้งหมด 4 คนในครั้งเดียว แต่แวะเวียนมาที่วงของปริม

          โอ : ไม่จริงค่ะ ตามคลิปเลยค่ะ ไม่มีผู้ชายคนไหนไปแวะเวียนทำอะไรเขาเลยค่ะ แต่หัวข้อที่เขาพาดพิงคือเขาโดนรุมทำร้าย 8-9 คน โดนผู้ชายลากไปกระทืบ 8-9 คน ในไลฟ์สด ดูตามคลิปเลยค่ะ คนใส่หมวกกันน็อกเป็นคนเดียวที่โอรู้จัก นอกนั้นโอไม่รู้เลยว่าเป็นใคร แล้วเขาอยู่ในละแวกนั้นหรือเปล่า

- ยืนยันไม่ใช่คนของคุณ ?

          โอ : ไม่ใช่แน่นอนค่ะ

          ฟิล์ม : ไม่ใช่ค่ะ มากันแค่ 4 คน และผู้ชายอีกคนใส่หมวกกันน็อก

- 5 คนรุมทำร้ายเขาไหม ?

          ฟิล์ม : ไม่ได้รุมค่ะ หนูตบกับเขาตัวต่อตัว แต่ที่เห็นเยอะ ๆ เป็นพนักงานของเขาทั้งหมด

          ปริม : แล้วปริมได้ตบหรือเปล่าคะ ตัวต่อตัว

          ฟิล์ม : ก็มีรอยจิกค่ะ ก็สู้เหมือนกันค่ะ

รุมตบเจ้าของคลินิกเสริมความงาม

- เขาก็ต้องสู้ไหม ?

          ฟิล์ม : ใช่ค่ะ ก็ตัวต่อตัว

          ปริม : แล้วตัวต่อตัว ปริมสมัครใจหรือเปล่าคะ

          ฟิล์ม : พี่โอกับหนูมีแผนในใจมาก่อนแล้ว พี่โอกระชาก แต่หนูบอกว่าพี่โอไม่ต้อง เดี๋ยวกูเอง หนูก็เลยกระชากมาตบตัวต่อตัว ไม่มีการรุมแต่อย่างใดค่ะ

          ปริม : แผนในใจคืออะไร

          ฟิล์ม : ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา เราทำงานกับเขา ทำความสะอาดรวมถึงแบกของ ไปกระทรวง เหนื่อยกับพี่โอ ไม่ได้เงินสักบาทเลย

          ปริม : แล้วเราจ้างคุณเหรอคะ

          ฟิล์ม : ก็คือช่วยกันมา ไหน ๆ ไม่ได้เงิน ก็ยอมที่จะรีบเปิดเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาเร็ว ๆ

รุมตบเจ้าของคลินิกเสริมความงาม

- เขาบอกว่าเขาไม่ได้รู้จักคุณนะ ?

          ฟิล์ม : จะไม่รู้จักได้ไง คุณเคยสัมภาษณ์งาน และคุยกัน เจอกันหลายครั้งแล้วค่ะ

          ปริม : อันนี้คือน้องมาช่วยทางโอ ทางปริมมีคนมาช่วยไม่เห็นต้องเอามาพูดเลย

- คุณอยากจะพูดอะไร ?

          โอ : ที่โอจิกผมก็ยอมรับว่าผิด และขอโทษ แต่มันเป็นปมในใจจริง ๆ ที่เขามายั่วเรา กล้องจะไม่เห็นอีกมุมตอนเขายั่ว กล้องเห็นแค่มุมที่เรากระชาก อันนี้ขอโทษค่ะ

- คุณปริมว่าไง ?

          ปริม : ก็แจ้งความแล้วค่ะ

          โอ : ก็แจ้งความดำเนินคดี โอก็ไปรับสารภาพทำร้ายเรียบร้อย 2 คน นอกนั้นไม่เกี่ยวข้องค่ะ

          ปริม : ปริมจะบอกว่าปริมไม่ได้มีปัญหากับคำขอโทษของคุณนะ แต่คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับใครนะคะ (ร้องไห้) ปริมไม่เคยคิดจะทำอะไรแบบนี้กับใครด้วยซ้ำ

          โอ : โอก็ไม่ได้คิดที่จะทำร้ายค่ะ คือเลี่ยงแล้วจริง ๆ แต่มีใครถามโอบ้างว่าเราเจออะไรมาบ้าง ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่เราอึดอัด (เสียงเครือ) อยู่ดี ๆ เรามาโดนลอยแพ ใครมาถามโอมั้ย ยังไม่มีใครมาถามโอเลย

รุมตบเจ้าของคลินิกเสริมความงาม


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มือตบสาวเจ้าของคลินิกแฉ อึดอัด โดนเหยียดหยามสารพัด แถมยังถูกลอยแพ อัปเดตล่าสุด 28 สิงหาคม 2561 เวลา 14:39:14 32,131 อ่าน
TOP