แม่พลทหารเก่ง ชี้คดีมีเงื่อนงำ ทหารโทร. มาต่อว่าทำไมไม่อยู่เฉย ๆ - อาจมีการสลับตัวคนผิด

          ญาติพลทหารเก่ง ชี้คดีมีพิรุธ เกรงมีเบื้องลึกเบื้องหลัง เผยตอนแรกมีนายทหารจะให้เงิน 200,000 ก่อนหาย บอกได้หลักฐานใหม่ที่ไม่ใช่เพื่อนทหารเกณฑ์ 2 นายที่ถูกจับ ส่วนเพื่อนที่เป็นพยานกลับคำ บอกไม่รู้ไม่เห็น
          จากกรณีแม่ของพลทหารบุญฤทธิ์ เอี่ยมสิริลักษณ์ หรือ เก่ง อายุ 21 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดกองทัพภาคที่ 1 เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่กองปราบปราม กรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของลูกชาย ภายหลังจากออกไปสังสรรค์กับเพื่อนทหารเกณฑ์ด้วยกัน ก่อนจะถูกแทงเสียชีวิต แต่คดีความไม่มีความคืบหน้า

          ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานว่า นางรัชนก แซ่ลิ่ม อายุ 61 ปี แม่ของพลทหารเก่ง ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นว่า ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ลูกชายได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนในละแวกบ้านแถวปิ่นเกล้า กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. เพื่อนของลูกชายได้ขับรถมารับไปส่งที่ร้านอาหาร พอเวลาประมาณ 01.00 น. ตนได้ออกไปตามหาลูกชายแถวบ้าน แต่ไม่พบ จึงโทรศัพท์ไปหาหลายครั้ง จนได้ยินเสียงหลุดเข้ามาว่ากำลังปั๊มหัวใจช่วยชีวิตอยู่ ก่อนจะทราบว่าลูกชายถูกแทง แต่เมื่อไปถึงที่โรงพยาบาลลูกชายก็หมดลมหายใจไปแล้ว

          นางรัชนก เผยว่า สภาพของลูกชายมีบาดแผลลึกและกว้างบริเวณลำคอถึงไหปลาร้า ไม่เห็นรอยฟกช้ำที่บริเวณอื่น ส่วนตนเองยังไม่ทราบผลการชันสูตรพลิกศพ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมเพื่อนทหารเกณฑ์ 2 นายที่ก่อเหตุ ทั้งนี้ นางรัชนกยังได้เล่าว่า หลังจากลูกชายเสียชีวิต มีทหารนายหนึ่งเข้ามาพูดคุยแสดงความเสียใจและบอกจะมอบเงินให้จำนวน 200,000 บาท แต่ต่อมาก็บ่ายเบี่ยง พร้อมบอกว่ามีหลักฐานใหม่ที่ไม่ใช่ 2  นายที่ถูกจับกุมไป

          ขณะที่ทางด้าน นางรัชนี ศิริทรัพย์ น้าของพลทหารเก่ง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หนึ่งในเพื่อนของหลานชายเล่าว่า เหตุเริ่มจากมีทหารรุ่นน้อง ตบหัวรุ่นพี่ในร้านอาหาร ก่อนเพื่อนจะมารับตัวหลานชายไปที่ร้านดังกล่าว ลักษณะคล้ายกับว่าให้มีพรรคพวกเยอะขึ้น จากนั้นมีการยั่วยุกันจนเกิดเรื่องขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนของหลานชายคนหนึ่งซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว เคยบอกกับทางญาติว่าพร้อมจะให้ข้อมูลและเป็นพยานให้ แต่หลังจากนั้นเกิดกลับคำพูด บอกไม่รู้ไม่เห็นเพราะคืนนั้นมืดมาก ส่วนตัวรู้สึกว่ามีพิรุธเกิดขึ้น และน่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังในคดีนี้ 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก