x close

โตโยต้า จับมือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดโครงการ “เที่ยวเมืองรองกับไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่”



          บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรม “เที่ยวเมืองรองกับไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่”  เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยใน 55 จังหวัดเมืองรองของประเทศ ภายใต้ โครงการ อเมซิ่ง ไทยเท่ กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและการกระจายรายได้ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับศักยภาพของเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

          โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เลือกนำไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ จัดเป็นคาราวานท่องเที่ยว พาผู้ที่สนใจร่วมเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 จาก 5 เส้นทางของปีนี้ มุ่งสู่จังหวัดสุพรรณบุรี - ชัยนาท – สิงห์บุรี - อ่างทอง  ระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม2561 ทำกิจกรรมหลากหลาย สัมผัสสเน่ห์ภาคกลาง ประกอบไปด้วย

          ทำกิจกรรมที่บ้านดงเย็น ต.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ ตามศาสตร์พระราชา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีการปลูกผัก ผลไม้ปลอดสารพิษ และเลี้ยงสัตว์ จุดเด่นของบ้านดงเย็นคือ ความเข้มแข็งในการรวมตัวของชาวบ้านอย่างแท้จริง ไม่มีผู้นำ ไม่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เข้ามาดูแล ชาวบ้านตั้งกลุ่มออมทรัพย์ รวมตัวกันทำเกษตรอินทรีย์ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในคาราวทริปครั้งนี้ ได้ร่วมทำกิจกรรมกับชุมชน เรียนรู้การเกษตรพื้นฐานและยังมีโอกาสส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ด้วยการมอบบ่อน้ำเพื่อชุมชนเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ชาวบ้านสามารถผลิตสินค้าเกษตรทั้งบริโภคค้าขายได้มากขึ้นอีกด้วย




          พาเยี่ยมชมวัดเขาทำเทียม และกราบนมัสการพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือ หลวงพ่ออู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผา ตั้งอยู่ใกล้วัดเขาทำเทียม ที่หน้าผามังกรบิน ณ พุทธมหาสถานเมืองโบราณอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี  องค์หลวงพ่ออู่ทอง มีความสูง 108 เมตร ฐานกว้าง 88 เมตร หน้าตักกว้าง  65 เมตร อยู่ในพื้นที่ราว 100 ไร่ เป็นพระพุทธรูป แกะสลักหน้าผาใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แต่ด้วยความสวยงามแปลกตาและหน้าผาหินที่รายล้อมองค์พระ พุทธรูป

          ชมศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทยที่ หรือ นาเฮียใช้ จ.สุพรรณบุรีถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่รวบรวมเรื่องราวที่น่าสนใจและองค์ความรู้ใหม่ ๆ ในวิถีของเกษตรกรที่ทรงคุณค่าให้ได้ศึกษาและเรียนรู้ นาเฮียใช้สร้างขึ้นจากความจงรักภักดีและสำนึกในคุณงามความดีของในหลวง พระมหากษัตริย์ที่ทรงงานอย่างหนักเพื่อประชาชนคนไทย ก่อตั้งโดย คุณนิทัศน์ เจริญธรรมรักษา ที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับชาวนาและข้าว ใช้ชีวิตภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร พร้อมเล็งเห็นความสำคัญของการให้ความรู้และการทำนาอย่างถูกวิธี ซึ่งจะมีประโยชน์แก่ส่วนรวมและสมาชิกของสมาคม ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ให้บุคคลทั่วไปที่เห็นความสำคัญของข้าวและชาวนา อีกทั้งยังเป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวให้ผู้สนใจได้เข้าชม ส่วนไฮไลท์ในการเข้าชมภายในศูนย์เรียนรู้คือการชมแปลงนาสวย ๆ ที่ปลูกให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ อาทิ แผนที่ประเทศไทย หรือการปลูกข้าวสีเขียวสลับกับต้นข้าวสีดำด้วยการแปลงเป็นอักษรรูปร่างต่าง ๆ อีกด้วย

          ล่องเรือไหว้พระ วัดคู่บ้านคู่เมืองชัยนาท: วัดปากคลองมะขามเฒ่า สาเหตุที่เรียกว่า วัดปากคลองมะขามเฒ่า เนื่องจากเดิมมีต้นมะขามเก่าแก่อยู่ต้นหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัด วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่มีทิวทัศน์ที่สวยงามน่ารื่นรมย์ และมีชื่อเสียงด้านพระเครื่องด้วยหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของวัดนี้ คือ ภาพเขียนฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ในพระอุโบสถติดอยู่ตามผนังเป็นภาพพุทธประวัติ ที่ทรงวาดร่วมกับข้าราชบริพาร ทั้งหมดเขียนด้วยอักษรขอมผนังด้านใต้มีภาพเขียนบอกเวลาที่เขียนไว้คือปี พ.ศ. 2433 เพื่อถวายหลวงปู่ศุข เมื่อครั้งสร้างพระอุโบสถซึ่งทางวัดยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี




          วัดธรรมามูลสร้างอยู่บนไหล่เขา ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เขตเมืองชัยนาท ในพระวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อธรรมจักร” ...ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ เป็นศิลปะประยุกต์สมัยเชียงแสนตอนปลายถึงสุโขทัยตอนต้นผสมกับสมัยอยุธยา พุทธลักษณะ...เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ประทับยืนบนฐานรูปดอกบัว พระหัตถ์ขวาทรงยกขึ้นเสมอพระอุระหันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ “หลวงพ่อธรรมจักร” สูง 4.5 เมตร กลางฝ่าพระหัตถ์มีรอย “ธรรมจักร” ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว คาดกันว่าเป็นความคิดของช่างยุคนั้นที่ตั้งใจสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ให้มีเครื่อง หมายแห่ง “มหาปุริสลักษณะ” หรือลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการตามคติอินเดีย เช่น ในฝ่าเท้ามีจักร...มีลายตาข่ายในฝ่ามือฝ่าเท้า ข้อเท้า เหมือนสังข์ที่ตั้งขึ้น คางเหมือนคางราชสีห์

          ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน จ.สิงห์บุรี ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน  จัดตั้งขึ้นโดยพระครูวิชิตพุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เก้าต้นจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ โดยการจัดทำตลาดรูปแบบโบราณย้อนยุคสมัยบางระจัน โดยมีคณะลูกศิษย์เป็นผู้ช่วยเหลือดูแล ปัจจุบันมีร้านค้าภายในตลาด มากกว่า 160 ร้านค้าตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ถูกจัดขึ้นบริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ภายในวัด บรรยากาศจึงร่มรื่นน่าเที่ยวชม มีการจัดแต่งซุ้มจำหน่ายสินค้าด้วยวัสดุธรรมชาติในรูปแบบพื้นบ้าน ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ชาวบ้านจะแต่งตัวย้อนยุคมานั่งจำหน่ายสินค้า พูดจาขอรับ/เจ้าค่ะ พาให้บรรยากาศยิ่งคล้ายกับตลาดในยุคโบราณ

          ชมพิพิธภัณฑ์ และสาธิตการทำตุ๊กตาชาววังที่ศูนย์ตุ๊กตาชาววังที่บ้านบางเสด็จ จ.อ่างทอง เป็นโครงการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2519 เพื่อเป็นอาชีพเสริมเพิ่มพูนรายได้ให้แก่ราษฎรภายในหมู่บ้านบางเสด็จนี้ ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดท่าสุทธาวาส ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งมีทัศนียภาพโดยรอบร่มรื่นและสวยงาม เป็นอาคารทรงไทย 2 ชั้น ชื่อว่า “คุ้มสุวรรณภูมิ” ชั้นบนแสดงนิทรรศการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ชั้นล่างเป็นที่ทำการของกลุ่มปั้นตุ๊กตาชาววัง มีการจัดแสดงผลงานและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตุ๊กตาชาววัง พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดอ่างทอง ในราคาที่ย่อมเยา เป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนแห่งนี้ได้อย่างยั่งยืน และเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ที่ นักท่องเที่ยวสามารถชมการสาธิตปั้นตุ๊กตาชาววัง เรียนรู้การปั้นตุ๊กตาด้วยดินเหนียวที่แสดงให้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนและ วัฒนธรรมประเพณีไทยต่าง ๆ

          นอกจากสถานที่และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจแล้ว อาหารการกินก็เป็นอีกอย่างที่ทางทีมงานใส่ใจเช่นกัน ผู้ร่วมทริปจะได้ลิ้มลองอาหารขึ้นชื่อในแต่ละจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม แกงคั่วหอยขม ปลาช่อนเผาบ้านสวน ต้มยำปลาคัง ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนผักบุ้ง รวมถึงอาหารเกษตรอินทรีย์ปลอดสาร ที่ทำจากผลผลิตในชุมชนบ้านดงเย็นที่ผู้ร่วมทริปได้รับความรู้และทำกิจกรรมไป




          โดยตลอดการเดินทางทั้งสามวันผู้ร่วมกิจกรรมได้สัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่ของ ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ได้อย่างเต็มที่ ถือได้ว่าเป็นรถกระบะที่ ห้ความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่และผู้ร่วมเดินทางในระยะทางไกลและยังมีปุ่ม ECO Mode ช่วยเรื่องประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น ทั้งความหนึบของช่วงล่างในการยึดเกาะถนน การเข้าโค้งได้อย่างดีเยี่ยม ห้องโดยสารที่เงียบและกว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางทั้งใช้งานและท่องเที่ยวด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน มาพร้อมดีไซน์ภายนอก แกร่งดุดัน เหมาะกับผู้ใช้รถที่มีสไตล์ท้าทายทุกรุปแบบ 

ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ชวนคุณเปิดโลกการท่องเที่ยวทั่วไทย กับกิจกรรมสุดพิเศษ ทั้ง 5 เส้นทางดังต่อไปนี้

ภาคใต้  จังหวัดตรัง– สตูล  11-13พฤษภาคม 2561

ภาคตะวันออก  จังหวัดจันทบุรี– สระแก้ว – ปราจีนบุรี  8 - 10 มิถุนายน 2561

ภาคกลาง  จังหวัดสุพรรณบุรี– ชัยนาท – สิงห์บุรี-อ่างทอง  24 - 26 สิงหาคม 2561

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  จังหวัดหนองคาย– บึงกาฬ  26 - 28 ตุลาคม 2561

ภาคเหนือ  จังหวัดเชียงราย – แพร่ – น่าน  14 – 16 ธันวาคม 2561

          สำหรับผู้ที่สนใจร่วมเดินทางในทริปต่อไปที่ยังเปิดรับสมัครอยู่คือทริปที่ 5 ภาคเหนือ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ http://www.golocalbyrevorocco.com หรือ สอบถามได้ที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ หรือ โทร Call center ที่เบอร์ 081-934-5610



“โตโยต้า ขับเคลื่อนความสุข”

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โตโยต้า จับมือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดโครงการ “เที่ยวเมืองรองกับไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่” อัปเดตล่าสุด 4 กันยายน 2561 เวลา 15:53:23 1,043 อ่าน
TOP