ตำรวจ สภ.พระประแดง เปลี่ยนแผนนำตัวนายพูล้า ผู้ต้องหาชาวลาว คดีฆ่าปาดคอยาย-หลาน 2 ศพ ไปฝากขังที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพราะเกรงว่าจะถูกชาวบ้านในพื้นที่เกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ ชี้ การทำแผนฯ อาจใช้วิธีจำลองเหตุการณ์ ด้านญาติเรียกร้องให้นำตัวมาขอขมาศพ
ความคืบหน้าหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายพูล้า อายุ 22 ปี สัญชาติลาว ผู้ต้องหาคดีฆ่าปาดคอ นางมะลิ อิ่มสวัสดิ์ อายุ 67 ปี และด.ญ.อิสยา เพิกเฉย อายุ 12 ปี เสียชีวิต ส่วน ด.ญ.อาภารัตน์ สำรวย อายุ 9 ปี อาการสาหัส โดยนายพูล้ารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ซึ่งทางญาติของผู้เสียชีวิตก็ต้องการให้มาขอขมาศพ และหวังให้ลงโทษประหารชีวิต (อ่านข่าว : ญาติยาย-หลาน ถูกฆ่าปาดคอ หวัง ไอ้พูล้า ขอขมาศพ ลั่นต้องประหารเท่านั้น)
ล่าสุด (18 กันยายน 2561) รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้เปลี่ยนแผนการควบคุมตัวนายพูล้า ไปฝากขังที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เนื่องจากเกรงว่าหากนำไปที่ สภ.พระประแดง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ที่มีชาวบ้านและญาติผู้ตายมารอหน้าโรงพัก อาจเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย
ด้าน พล.ต.ต. ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ขณะนี้นายพูล้าถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหายาเสพติด และเตรียมตั้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือทารุณกรรมสัตว์ เนื่องจากนายพูล้ายอมรับว่าปาดคอแมวตายไป 1 ตัว ส่วนพนักงานรถโดยสารที่ให้ขึ้นรถหลบหนีไปด้วยนั้น ต้องพิจารณาและให้ความเป็นธรรม เพราะเชื่อว่าไม่ทราบว่านายพูล้าก่อเหตุฆ่าคนตายแล้วหลบหนี
ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะนี้เตรียมไว้ 2-3 แนวทาง ต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง ซึ่งการทำแผนสามารถทำที่อื่นได้ โดยไม่ใช่ที่เกิดเหตุ และอาจใช้แนวทางการจำลองวิธีการก่อเหตุ ซึ่งต้องพิจารณากันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนเดินทางกลับมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ตำรวจได้นำตัวนายพูล้าตระเวนชี้จุดต่าง ๆ ที่ลงรถทัวร์และร้านทอง ใน จ.ยโสธร แต่เมื่อไปถึง บขส. พบว่ามีผู้สื่อข่าวรออยู่จำนวนมาก จึงได้พาผู้ต้องหาออกไปทันที
ทั้งนี้ ตำรวจชุดจับกุม เปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วนายพูล้าไม่ได้นำสร้อยทองไปขายที่ จ.ยโสธร โดยช่วงแรกให้การวกวน แต่เมื่อคาดคั้นก็ทราบว่านำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ใน อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โดยแวะขายก่อนแล้วจึงเดินทางต่อไปที่ จ.มุกดาหาร
นอกจากนี้ ญาติและชาวบ้านก็ได้เรียกร้องให้ตำรวจพานายพูล้ามาขอขมาศพที่วัด โดยได้ให้เวลาถึงวันพฤหัสบดีนี้ พร้อมระบุว่า ถ้าไม่พาตัวนายพูล้ามาขอขมา จะไม่เผาศพและจะแห่ศพผู้ตายไปตั้งที่หน้าโรงพัก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์
