x close

เปิดรายงานชวนหดหู่ เด็กสาวในเคนยาสุดยากไร้ ต้องยอมขายตัวแลกผ้าอนามัย

          ยูนิเซฟเผยรายงานวิจัยที่สะท้อนความจริงน่าหดหู่ พบผู้หญิงมากมายยอมขายตัวเพื่อแลกกับผ้าอนามัย เพราะแทบไม่มีขาย และไม่มีเงินซื้อ เผยรัฐบาลพยายามแก้ไข หวังให้คุณภาพชีวิตผู้หญิงดีขึ้น

YASUYOSHI CHIBA / AFP

          เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2561 เว็บไซต์เมโทร รายงานว่า องค์กรยูนิเซฟ (Unicef) ได้ลงพื้นที่สำรวจคุณภาพชีวิตของสตรีในประเทศเคนยา ผลการเก็บข้อมูลครั้งนี้ได้เผยให้เห็นความจริงที่น่าหดหู่ใจอย่างมาก เพราะ 54 เปอร์เซ็นต์ของเด็กผู้หญิงชาวเคนยา ประสบปัญหาในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์อนามัยสตรี หรือ ผ้าอนามัยต่าง ๆ และประมาณ 22 เปอร์เซ็นต์ของเด็กนักเรียนหญิง ต้องหาซื้อสินค้าเหล่านี้เอง

          แต่นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด เพราะภายในเขตไคเบอรา หนึ่งในสลัมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงไนโรบี เมืองหลวงของประเทศเคนยา ประมาณ 4 กิโลเมตร นั้น ประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่อาศัยอยู่ที่นี่ ต้องขายตัวเพื่อหาเงินซื้อผ้าอนามัย

          แอนดรูว เทรเว็ตต์ หัวหน้าสำนักงานสุขอนามัยและน้ำขององค์กรยูนิเซฟ ประจำประเทศเคนยา กล่าวว่า การขาดแคลนสินค้าอนามัยสตรีเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นทั่วประเทศเคนยา โดย 7 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่นี่ไม่มีผ้าอนามัยใช้ พวกเธอต้องหาข้าวของต่าง ๆ เท่าที่หาได้มาใช้รองรับเลือดประจำเดือน ตั้งแต่ เสื้อผ้าเก่า ๆ ขนไก่ หนังสือพิมพ์ ไปจนถึงนำผ้าอนามัยใช้แล้วกลับมาใช้อีก บางคนยากไร้ยิ่งกว่านั้น เมื่อรอบเดือนมาถึง พวกเธอถึงขั้นต้องขุดหลุม แล้วนั่งอยู่บนนั้นทั้งวัน เพราะไม่สามารถหาอะไรมาใช้ได้


          นอกจากนี้แล้ว ระดูของสตรีก็ถือเป็นเรื่องต้องห้ามที่ไม่มีใครในสังคมพูดถึง เนื่องจากขาดความรู้ และกว่าครึ่งของเด็กผู้หญิงที่นี่ ไม่กล้าพูดเรื่องนี้ให้ใครรู้ แม้แต่คนในครอบครัวของพวกเธอเอง และสิ่งนี้นำไปสู่การใช้ร่างกายแลกกับสิ่งของเล็ก ๆ ที่หาซื้อได้อย่างง่ายดายในหลาย ๆ ประเทศ

          "เด็กสาวมากมายยอมมีเซ็กส์กับคนขับโบดาโบดา (วินมอเตอร์ไซค์) ด้วยเหตุผลหลัก ๆ 2 ข้อ ข้อแรกก็คือ เพื่อเงิน ผู้หญิงมากมายต้องทนกับความยากจน เมื่อไม่มีเงิน ย่อมหมายความว่าพวกเธอไม่สามารถซื้อผ้าอนามัยใช้ได้ ข้อสองก็คือ เพื่อให้ได้มาซึ่งผ้าอนามัยสักชิ้น เพราะมันเป็นสินค้าที่หายากมาก หลายพื้นที่ไม่มีขาย โดยในชนบทนั้น การคมนาคมมันเข้าไม่ถึง หรือต่อให้เข้าถึง ผู้หญิงก็ไม่มีเงินค่ารถเมล์อยู่ดี บางหมู่บ้านอย่าว่าแต่รถเมล์ แม้แต่ถนนยังไม่มีด้วยซ้ำ"
แอนดรูว์ กล่าวถึงความยากลำบากของชีวิตผู้หญิงในเคนยา ซึ่งพวกเธอต้องยอมฝืนทนเพื่อผ้าอนามัย

ภาพจาก Oliveira Fernandes / Shutterstock.com

          การขาดแคลนสินค้าอนามัยสตรีไม่ได้เป็นปัญหาแค่ในเคนยาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทั่วทวีปแอฟริกา โดย 1 ใน 10 ของเด็กผู้หญิงแอฟริกา ต้องยอมขาดเรียนในช่วงวันนั้นของเดือน ทุก ๆ เดือน เพราะพวกเธอไม่มีผ้าอนามัยใช้ และห้องน้ำในสถานศึกษาก็ไม่สะอาด หรือไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กผู้หญิง ตัวอย่างของเรื่องนี้คือชีวิตจริงของเด็กผู้หญิงชาวเคนยาคนหนึ่ง เธอเล่าว่า ประจำเดือนของเธอมาเป็นครั้งแรก ตอนที่เธอกำลังทำกิจกรรมวันกีฬาสีที่โรงเรียน เธอจึงบอกกับเพื่อน และได้จ้างคนขับรถโบดาโบดา 2 คัน เพื่อพาพวกเธอกลับบ้าน ในระหว่างทาง คนขับรถได้แวะพัก และยื่นถุงใบเล็กให้เธอ 2 ใบ ในนั้นมีกางเกงและผ้าอนามัย เพื่อนของเด็กหญิงกล่าวว่าอย่าบอกให้พ่อแม่รู้ และพวกเธอก็ขอบคุณพวกเขาทั้งสอง

          หลังจากวันนั้น เด็กหญิงเรียกใช้บริการผ้าอนามัยจากคนขับรถโบดาโบดาทุกเดือน เพราะเห็นว่าเพื่อนของเธอก็ทำ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามันต้องแลกมากับอะไร โดยในวันหนึ่ง คนขับรถโบดาขอมีเซ็กส์ด้วย เพื่อนของเธอก็บอกให้เธอทำ เพื่อแลกกับผ้าอนามัย เด็กหญิงจึงยอม ซึ่งมันเป็นการตัดสินใจที่ทำให้เธอเสียใจไปตลอดชีวิต เพราะเธอตั้งครรภ์หลังจากนั้น และคลอดลูกชายในเวลาต่อมา รายงานจากเว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ ระบุว่า ครอบครัวของเด็กหญิงยากจนมาก เธอมีพี่น้อง 8 คน พ่อเป็นชาวนา ส่วนแม่ก็เป็นแม่บ้าน การเป็นแม่ตั้งแต่วัยใสได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเธออย่างมาก เธอตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้ครูฟัง และโชคดีอย่างมากที่ครูเข้าใจ คอยดูแล ให้คำปรึกษา จนเธอได้กลับไปเรียนอีกครั้ง

ภาพจาก Anton_Ivanov / Shutterstock.com

          ข้อมูลจากการสำรวจวิจัยยังบอกอีกว่า นอกจากการขาดแคลนผ้าอนามัย เรื่องน้ำและความสะอาดก็เป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นควบคู่กัน โดย 76 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงและเด็กผู้หญิงเคนยา ประสบปัญหาในการหาน้ำสะอาดมาใช้ชะล้างร่างกายขณะเป็นประจำเดือน สำหรับสถานศึกษานั้น มีเพียงแค่ 17.5 เปอร์เซ็นต์ ที่มีการติดตั้งอ่างล้างมือ สบู่ล้างมือ รวมทั้งก๊อกน้ำใกล้ ๆ กับห้องน้ำ และจากโรงเรียนที่สำรวจนั้น มีเพียงแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ที่มีผ้าอนามัยเอาไว้ให้นักเรียน แต่ก็ไม่ได้ให้ทุกคน หรือให้ตลอดเวลา ต้องเฉพาะในเวลาฉุกเฉินเท่านั้น

          แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเคนยาก็พยายามแก้ไขปัญหานี้ โดยการร่วมมือกับยูนิเซฟ และในปัจจุบันนั้น โรงเรียน 335 แห่ง มีการติดตั้งห้องน้ำที่สะอาดปลอดภัย รวมทั้งผ้าอนามัยสำหรับเด็กหญิงแล้ว และเด็กหญิงประมาณ 90,000 คน จากโรงเรียนเหล่านี้ ก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงผ้าอนามัยได้ ไม่ต้องลำบากเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดรายงานชวนหดหู่ เด็กสาวในเคนยาสุดยากไร้ ต้องยอมขายตัวแลกผ้าอนามัย อัปเดตล่าสุด 18 กันยายน 2561 เวลา 17:25:21 50,270 อ่าน
TOP