อดีตปลัดเอี่ยวฆ่าหมีขอ เจตนาโกหกเข้าเขตหวงห้าม - พบหลักฐานเพิ่ม กราม-ขนสัตว์

          คืบคดีจับแก๊งออฟโรดพร้อมซากหมีขอ ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค พบหลักฐานเพิ่มเป็นชิ้นเนื้อ ขน เศษกระดูก และกรามล่างของสัตว์ - เผยอดีตปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย จงใจโกหกเข้าเขตหวงห้าม
ฆ่าหมีขอ
ภาพจาก ทีมพญาเสือ

          ความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจพญาเสือ อุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี จับกุมนายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย พร้อมคณะออฟโรดบริเวณป่าเหมืองเต่าดำ เส้นทางเขาปลาน้อย-เขาพลู ม.7 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค พบของกลางเป็นอาวุธปืนและกระสุนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งซากอุ้งเท้าหมีขอ 4 ข้าง เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา และเบื้องต้นมีคำสั่งไล่ นายวัชรชัย ออกจากราชการแล้ว แม้เจ้าตัวและพวกจะยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เข้ามาล่าสัตว์ อ้างว่าขาหมีที่พบซื้อมาจากข้างนอกป่า ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : มท.1 สั่งให้ออกราชการ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย เอี่ยวแก๊งล่าหมีขอไทรโยค)


          เกี่ยวกับเรื่องนี้ (8 ตุลาคม 2561) มีรายงานว่า นางสาวเนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เข้ารวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เพิ่มเติม ใน 2 จุดเกิดเหตุที่เข้าจับกุมกลุ่มออฟโรด โดยจุดแรกในพื้นที่ป่าเขาพลู หมู่ที่ 8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค ภายในป่าสงวนแห่งชาติวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค 1.289 กิโลเมตร พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวนหนึ่ง และจุดที่ 2 ตรงจุดพักแรมภายในสำนักสงฆ์เต่าดำ จากการสอบปากคำนายตาต้า ชายชาวมอญ (ผู้ดูแลสำนักสงฆ์) เผยว่า วันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขบวนออฟโรดได้เข้ามาพักที่นี่จริง ก่อนจะออกไปในวันรุ่งขึ้น (7 ตุลาคม)

          ทั้งนี้ จากการกระจายกำลังค้นหาหลักฐานในบริเวณโดยรอบสำนักสงฆ์ พบร่องรอยการก่อกองไฟเพื่อใช้ในการประกอบอาหาร พบเศษซากชิ้นเนื้อ ขนสัตว์ เศษกระดูก และกรามล่างของสัตว์ไม่ทราบชนิด เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บรวบรวมเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอว่าตรงกับซากอุ้งเท้าหมีขอ จำนวน 4 ข้าง หรือไม่


          ขณะเดียวกัน นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงการสอบสวนเบื้องต้น พบว่ากลุ่มของนายวัชรชัย ได้มีการโกหกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค โดยแจ้งด้วยวาจาว่า ได้รับการอนุญาตจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยคแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่เปิดด่านให้เข้าไป แต่เมื่อสอบถามไปยังหัวหน้าอุทยาน พบว่ายังไม่ได้รับการประสานขอเข้าไปตามที่กล่าวอ้าง จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 17 นาย ติดตามเข้าไปเพื่อจับกุมตัวได้ในวันที่ 7 ตุลาคม ดังกล่าว


          คดีนี้ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ก่อนจากพยานและหลักฐานต่าง ๆ ว่ากลุ่มของนายวัชรชัย ที่ถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืนนั้น มีการเตรียมการนำเข้าไปเพื่อเจตนาอะไร ซึ่งหากตรวจสอบแล้วยืนยันแน่ชัดว่ากระทำความผิดจริง ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอนตามบรรทัดฐาน

          อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะสั่งกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ให้มีความเข้มงวดในการตรวจรถเข้า-ออก ด่านอุทยานแห่งชาติให้มากขึ้น เพื่อป้องกันกลุ่มคนใช้ช่องว่างที่เป็นจุดสัญจรไป-มาของชาวบ้านและผู้ที่มาปฏิบัติธรรมของสำนักสงฆ์เหมืองเต่าดำ ทำให้ไม่ได้มีการตรวจค้นอย่างละเอียด ลักลอบเข้าไปก่อเหตุลักษณะนี้ได้อีก

ฆ่าหมีขอ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ฆ่าหมีขอ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนังสือพิมพ์ใต้สันติสุข

ฆ่าหมีขอ
ภาพจาก ทีมพญาเสือ

ฆ่าหมีขอ
ภาพจาก ทีมพญาเสือ

ฆ่าหมีขอ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนังสือพิมพ์ใต้สันติสุข

ฆ่าหมีขอ
ภาพจาก ข่าวเวิร์คพอยท์

ฆ่าหมีขอ
ภาพจาก ข่าวเวิร์คพอยท์

ฆ่าหมีขอ
ภาพจาก ข่าวเวิร์คพอยท์

ฆ่าหมีขอ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนังสือพิมพ์ใต้สันติสุข

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อดีตปลัดเอี่ยวฆ่าหมีขอ เจตนาโกหกเข้าเขตหวงห้าม - พบหลักฐานเพิ่ม กราม-ขนสัตว์ อัปเดตล่าสุด 10 ตุลาคม 2561 เวลา 18:24:02 15,199 อ่าน
TOP
x close