สื่อนอกตีข่าวแก๊งวัยรุ่นชาวอังกฤษถูกจับ หลังก่อเหตุพ่นสีใส่กำแพงประตูท่าแพ เมืองเชียงใหม่ จ่อเจอโทษหนัก ปรับ 1 ล้าน และจำคุก 10 ปี ทำโลกออนไลน์ถกเถียงยกใหญ่ โทษหนักเกินไปหรือไม่ ?
สืบเนื่องจากคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.เมืองเชียงใหม่ สามารถติดตามจับกุมตัว นายลี เฟอร์ลอง ชาวอังกฤษ อายุ 23
ปี และนางสาวบริทนีย์ ชไนเดอร์ ชาวแคนาดา อายุ 23 ปี
หลังก่อเหตุใช้สีสเปรย์ฉีดพ่นกำแพงเมืองลานประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่
ซึ่งเป็นโบราณสถานเก่าแก่ อายุร่วม 800 ปี จนได้รับความเสียหาย
โดยถูกแจ้งข้อหา กระทำการอันเป็นผลให้โบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้วเสียหาย
หรือเสื่อมค่า ตามมาตรา 32 พระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ
และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1
ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : สื่อนอกตีข่าว หนุ่มอังกฤษพ่นสีกำแพงเชียงใหม่ จ่อคุก 10 ปี ซัดไร้สมอง-สมควรแล้ว)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (22 ตุลาคม 2561) ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า หลังจากที่สำนักข่าวต่างประเทศ อาทิ บีบีซี และรอยเตอร์ส ได้มีการนำเสนอข่าวดังกล่าวไป โดยระบุว่านักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนไม่มีทนายที่รับผิดชอบคดีให้ แม้สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย จะมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนแล้วก็ตาม ซึ่งก็ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเครือข่ายสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ที่แสดงความคิดเห็นพร้อมติดแฮชแท็ก #ScouserLee ที่มีทั้งที่เห็นด้วยกับโทษดังกล่าว และเห็นต่าง
- @Jen_Dodgson ระบุว่า บทลงโทษที่สมเหตุสมผลสำหรับกรณีนี้ไม่น่าจะเกินจำคุก 6 เดือน
แต่บทลงโทษรุนแรงที่เพิ่มมา อาจจะเป็นเพราะเขาประกาศตัวเป็น Scouser
ซึ่งเป็นคำเรียกตัวเองของผู้ที่มีสำเนียงชาวเมืองลิเวอร์พูลและละแวกใกล้เคียงในสหราชอาณาจักร
- @DysonMarkA ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการกระทำของเขาเอง
พร้อมเรียกร้องให้กระบวนการขอหนังสือเดินทางในแต่ละประเทศมีความเข้มงวดกวดขันมากขึ้น
โดยเสนออย่างประชดประชันว่า
ผู้ที่ขอหนังสือเดินทางควรจะต้องผ่านการทดสอบความรู้รอบตัวด้วย
ทั้งนี้ พ.ต.อ. ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การดำเนินคดีจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท แก่ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนนั้น เป็นโทษที่หนักกว่าการกระทำโดยทั่วไป เนื่องจากกำแพงประตูท่าแพเป็นโบราณสถาน จึงถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายในการทำลายและทำให้เสื่อมค่า จะต่างจากการนำสีสเปรย์ไปพ่นตามบ้านเรือนหรือกำแพงทั่วไป ซึ่งจะมีความผิดเพียงทำให้เสียทรัพย์ธรรมดา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (22 ตุลาคม 2561) ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานว่า หลังจากที่สำนักข่าวต่างประเทศ อาทิ บีบีซี และรอยเตอร์ส ได้มีการนำเสนอข่าวดังกล่าวไป โดยระบุว่านักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนไม่มีทนายที่รับผิดชอบคดีให้ แม้สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย จะมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนแล้วก็ตาม ซึ่งก็ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเครือข่ายสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ที่แสดงความคิดเห็นพร้อมติดแฮชแท็ก #ScouserLee ที่มีทั้งที่เห็นด้วยกับโทษดังกล่าว และเห็นต่าง

อย่างเช่น ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @F0LL0W_F0LL0W ระบุว่า การทำลายกำแพงเมืองโบราณ อายุกว่า 800 ปี กับบทลงโทษจำคุก 10 ปี เป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว


ทั้งนี้ พ.ต.อ. ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การดำเนินคดีจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท แก่ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนนั้น เป็นโทษที่หนักกว่าการกระทำโดยทั่วไป เนื่องจากกำแพงประตูท่าแพเป็นโบราณสถาน จึงถือว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายในการทำลายและทำให้เสื่อมค่า จะต่างจากการนำสีสเปรย์ไปพ่นตามบ้านเรือนหรือกำแพงทั่วไป ซึ่งจะมีความผิดเพียงทำให้เสียทรัพย์ธรรมดา