ผู้ว่าจ้างทำข้าวกล่อง ยืนยันไม่ได้หลอกเพื่อหวังเงินค่าปรับ หลังยกเลิกทั้งที่ทำเสร็จแล้ว เผยฝ่ายแม่ค้าผิดสัญญาเอง ส่งของช้าไปครึ่งชั่วโมง - ไม่รู้จักคู่กรณีอีกรายที่อ้างว่าพ่อเครียดหนักจนตาย
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
สืบเนื่องจากกรณี นางธนิสร กุยแก้ว ร้องเรียนว่าถูกหญิงรายหนึ่งว่าจ้างทำข้าวกล่อง 10,000 กล่อง แต่กลับถูกยกเลิก ทำให้เสียหายเกือบล้านบาท (อ่านข่าว : แม่ค้าสุดช้ำ ถูกหลอกทำข้าวหมื่นกล่อง ลงทุนเหยียบล้าน สุดท้ายโดนโรงงานเบี้ยว)
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะที่ในเวลาต่อว่า นางสาวนภัสวรรณ ยิ้มเจริญ อายุ 26 ปี ออกมาเปิดเผยว่า ตนก็เคยตกเป็นผู้เสียหายของคู่กรณีคนเดียวกัน และถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน คือมาว่าจ้างให้ทำข้าวกล่อง แต่สุดท้ายยกเลิก จนครอบครัวต้องเป็นหนี้หลายล้าน และทำให้พ่อเครียดหนักจนเสียชีวิต ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : พบอีก แม่ค้าถูกแคนเซิลข้าว 2 หมื่นกล่อง โดนปรับ 7 แสน-พ่อเครียดเสียชีวิต)
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (6 พฤศจิกายน 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นางกัญจ์หทัย สุขใส ผู้ว่าจ้างทำข้าวกล่อง เปิดเผยว่า ตนเองและนางธนิสร กุยแก้ว คู่กรณี รู้จักกันมาก่อน เพราะอีกฝ่ายเคยรับทำข้าวกล่องให้ตนมาแล้ว 5,000 กล่อง ครั้งล่าสุดที่เป็นปัญหา อีกฝ่ายเป็นคนเสนอเองว่าจะทำ 10,000 กล่อง และก็มีการทำสัญญากัน โดยในสัญญาระบุชัดเจนว่าหากฝ่ายใดผิดสัญญา สามารถฟ้องร้องได้ ก่อนที่จะมาผิดสัญญาคือส่งข้าวช้า เพราะตามสัญญาระบุว่าของจะต้องเสร็จและมาส่งให้ถึงในเวลา 6-7 โมงเช้า แต่กลับมาส่งในเวลา 7 โมงครึ่ง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นตนเสียหายเพราะตนรับสัมปทานมา จึงจำเป็นต้องเรียกร้องค่าปรับ และค่าปรับดังกล่าวคู่กรณีก็ยังไม่จ่าย ตนอยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายอยู่
ขณะที่ ในส่วนของ นางสาวนภัสวรรณ ยิ้มเจริญ ที่อ้างว่าตกเป็นผู้เสียหายว่าตนว่าจ้างทำข้าวกล่องแล้วยกเลิกจนทำให้พ่อเครียดจนเสียชีวิตนั้น ตนยืนยันว่าไม่รู้จักและไม่เคยว่าจ้าง
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจหลอกเพื่อที่จะเอาเงินค่าปรับ พร้อมยินดีให้ตรวจสอบว่าบริษัทมีจริง และทำทุกอย่างถูกต้อง
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะเดียวกัน นางสาวปรีญา อ่อนน่วมน้อย แม่ค้าขายน้ำส้มเกล็ดหิมะ อ้างว่า เป็นผู้เสียหายอีกราย ถูกนางกัญจ์หทัย เอาชื่อตัวเองและบริษัทไปแอบอ้างกับผู้เสียหายคนอื่น ๆ ว่ารับน้ำส้มจากบริษัทของตน ในราคาแก้วละ 3 บาท แต่ถ้านำไปขายต่อจะได้ในราคาแก้วละ 10 บาท ซึ่งได้กำไร 7 บาท ซึ่งยืนยันว่าตนไม่เคยถูกว่าจ้างหรือทำธุรกิจกับนางกัญจ์หทัยแต่อย่างใด จึงต้องมาแจ้งความเอาไว้ก่อน เพราะก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายที่ จ.นครราชสีมา 2 ราย ต้องสูญเงินไปแล้วกว่า 100,000 บาท หลังจากถูกนางกัญจ์หทัยชวนไปทำสัญญาร่วมลงทุนขายน้ำส้ม ซึ่งหลังจากนั้นตนได้อธิบายกับบริษัทใหญ่ของน้ำส้มไปว่าไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายน้ำส้มให้กับบุคคลดังกล่าว แต่นางกัญจ์หทัย กลับยังนำชื่อไปแอบอ้างหลอกลวงคนอื่นอีก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
สืบเนื่องจากกรณี นางธนิสร กุยแก้ว ร้องเรียนว่าถูกหญิงรายหนึ่งว่าจ้างทำข้าวกล่อง 10,000 กล่อง แต่กลับถูกยกเลิก ทำให้เสียหายเกือบล้านบาท (อ่านข่าว : แม่ค้าสุดช้ำ ถูกหลอกทำข้าวหมื่นกล่อง ลงทุนเหยียบล้าน สุดท้ายโดนโรงงานเบี้ยว)
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะที่ในเวลาต่อว่า นางสาวนภัสวรรณ ยิ้มเจริญ อายุ 26 ปี ออกมาเปิดเผยว่า ตนก็เคยตกเป็นผู้เสียหายของคู่กรณีคนเดียวกัน และถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน คือมาว่าจ้างให้ทำข้าวกล่อง แต่สุดท้ายยกเลิก จนครอบครัวต้องเป็นหนี้หลายล้าน และทำให้พ่อเครียดหนักจนเสียชีวิต ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : พบอีก แม่ค้าถูกแคนเซิลข้าว 2 หมื่นกล่อง โดนปรับ 7 แสน-พ่อเครียดเสียชีวิต)
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (6 พฤศจิกายน 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นางกัญจ์หทัย สุขใส ผู้ว่าจ้างทำข้าวกล่อง เปิดเผยว่า ตนเองและนางธนิสร กุยแก้ว คู่กรณี รู้จักกันมาก่อน เพราะอีกฝ่ายเคยรับทำข้าวกล่องให้ตนมาแล้ว 5,000 กล่อง ครั้งล่าสุดที่เป็นปัญหา อีกฝ่ายเป็นคนเสนอเองว่าจะทำ 10,000 กล่อง และก็มีการทำสัญญากัน โดยในสัญญาระบุชัดเจนว่าหากฝ่ายใดผิดสัญญา สามารถฟ้องร้องได้ ก่อนที่จะมาผิดสัญญาคือส่งข้าวช้า เพราะตามสัญญาระบุว่าของจะต้องเสร็จและมาส่งให้ถึงในเวลา 6-7 โมงเช้า แต่กลับมาส่งในเวลา 7 โมงครึ่ง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นตนเสียหายเพราะตนรับสัมปทานมา จึงจำเป็นต้องเรียกร้องค่าปรับ และค่าปรับดังกล่าวคู่กรณีก็ยังไม่จ่าย ตนอยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมายอยู่
ขณะที่ ในส่วนของ นางสาวนภัสวรรณ ยิ้มเจริญ ที่อ้างว่าตกเป็นผู้เสียหายว่าตนว่าจ้างทำข้าวกล่องแล้วยกเลิกจนทำให้พ่อเครียดจนเสียชีวิตนั้น ตนยืนยันว่าไม่รู้จักและไม่เคยว่าจ้าง
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจหลอกเพื่อที่จะเอาเงินค่าปรับ พร้อมยินดีให้ตรวจสอบว่าบริษัทมีจริง และทำทุกอย่างถูกต้อง
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะเดียวกัน นางสาวปรีญา อ่อนน่วมน้อย แม่ค้าขายน้ำส้มเกล็ดหิมะ อ้างว่า เป็นผู้เสียหายอีกราย ถูกนางกัญจ์หทัย เอาชื่อตัวเองและบริษัทไปแอบอ้างกับผู้เสียหายคนอื่น ๆ ว่ารับน้ำส้มจากบริษัทของตน ในราคาแก้วละ 3 บาท แต่ถ้านำไปขายต่อจะได้ในราคาแก้วละ 10 บาท ซึ่งได้กำไร 7 บาท ซึ่งยืนยันว่าตนไม่เคยถูกว่าจ้างหรือทำธุรกิจกับนางกัญจ์หทัยแต่อย่างใด จึงต้องมาแจ้งความเอาไว้ก่อน เพราะก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายที่ จ.นครราชสีมา 2 ราย ต้องสูญเงินไปแล้วกว่า 100,000 บาท หลังจากถูกนางกัญจ์หทัยชวนไปทำสัญญาร่วมลงทุนขายน้ำส้ม ซึ่งหลังจากนั้นตนได้อธิบายกับบริษัทใหญ่ของน้ำส้มไปว่าไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายน้ำส้มให้กับบุคคลดังกล่าว แต่นางกัญจ์หทัย กลับยังนำชื่อไปแอบอ้างหลอกลวงคนอื่นอีก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก