หมอสูติฯ ที่ถูกกล่าวหาข่มขืนคนไข้ เปิดใจ จับนมคนไข้เพื่อตรวจมะเร็ง ยืนยันไม่ได้ข่มขืน เป็นความเข้าใจผิด ที่ผ่านมาจ่ายค่าเสียหายให้คนไข้หลายคน เพราะไม่อยากเสียชื่อเสียงหรือขึ้นศาล เมื่อคนไข้ไม่พอใจการรักษาจึงยอมจ่าย ชี้ ทนายนิด้าไม่น่าทำเป็นข่าวใหญ่ ห่วงวงการแพทย์ทำงานลำบากขึ้น และจะมีผู้ป่วยเพิ่มสูงจากการไม่กล้าหาหมอ
จากกรณี ทนายนิด้า ออกมาแฉพฤติกรรมนายแพทย์สูตินรีเวช
ของคลินิกแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์
เนื่องจากมีหญิงสาวถูกข่มขืนระหว่างตรวจภายใน
และมีการเปิดเผยไลน์ที่หมอคนดังกล่าวโอนเงินให้ผู้เสียหาย 3 แสนบาท
ซึ่งต่อมาทนายนิด้าเผยว่า มีผู้เสียหายกว่า 50 ราย
เข้าให้ข้อมูลว่าถูกกระทำอนาจารในลักษณะเดียวกัน
และมั่นใจว่ามีหลักฐานเอาผิดได้นั้น ส่วนนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
ก็จะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่คลินิกดังกล่าวในวันนี้ (20 พฤศจิกายน)
โดยเผยว่ามีข้อพิรุธหลายจุด แต่จะไม่เข้าข้างฝ่ายใด (อ่านข่าว : อัจฉริยะ
ยันไม่เข้าข้างใคร ปมหมอละเมิดคนไข้ตรวจภายใน แต่มีข้อสงสัยหลายจุด)
ล่าสุด (19 พฤศิกายน 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า แพทย์ที่ถูกกล่าวหา เปิดใจว่า ตอนนี้ตนรู้สึกเครียดนิดหน่อย แต่ยังยืนยันว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด และการที่ทนายนิด้าออกมาเคลื่อนไหวอย่างนี้ ทำให้ตนกลายเป็นคนบาปหนัก แต่หากทนายนิด้าจะดำเนินคดีก็ให้ทำไป แต่บางเรื่องตนคิดว่าคนไข้เข้าใจคลาดเคลื่อนมากกว่า
ขณะนี้ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย มีมาตรการให้ผู้หญิงตรวจมะเร็งปากมดลูก และตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจภายใน และหากข่าวออกไปแบบนี้อาจทำให้ผู้หญิงกลัวเรื่องการตรวจภายใน และเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกสูงขึ้น ส่วนเรื่องการจับเต้านมก็เพื่อตรวจมะเร็งเต้านมเท่านั้น เนื่องจากผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงสูง เมื่อเข้ารับการตรวจร่างกายแล้ว หมอก็จำเป็นต้องตรวจอย่างละเอียด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก อีจัน
ทั้งนี้ เมื่อถูกถามถึงการจ่ายค่าเสียหายให้คนไข้ 4-5 คน ที่ผ่านมา หมอตอบว่า จ่ายเพราะไม่อยากให้กระทบกับชื่อเสียง เนื่องจากคนไข้เข้าใจคลาดเคลื่อนเช่นเดียวกัน และไม่พอใจในการรักษา และไม่ได้เป็นจำนวนเงินมากมายอะไร แต่ไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้มาก เพราะเป็นความลับของคนไข้
เรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้มองว่าเป็นการแบล็กเมล์ และรู้สึกเห็นใจน้องคนไข้ที่ทนายนิด้านำเรื่องออกมาเปิดเผย ส่วนใครจะเชื่อตนหรือไม่ก็ไม่เป็นไร แต่ข่าวที่ออกมาทำให้ตนเป็นห่วงเรื่องการทำงานของสูตินรีแพทย์ทั้งประเทศ จะทำงานยากมากขึ้นและสุดท้ายผลกระทบก็ตกแก่คนไข้ที่ไม่กล้าเข้ารับการตรวจ หรือการรักษา
ขณะนี้ ตนยังไม่คิดฟ้องร้องใครทั้งสิ้น ไม่ได้โกรธที่ใครออกมาแฉ พร้อมฝากไปยังทนายนิด้าด้วยว่า ไม่น่ากระทำอย่างนี้ หากต้องการฟ้องร้องเอาผิดควรดำเนินการส่วนตัว เพราะเมื่อเป็นข่าวดังทำให้เกิดผลกระทบกับตัวผู้เสียหายเอง และชื่อเสียงและการทำงานของวิชาชีพสูตินรีแพทย์
นอกจากนี้
รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า
ถึงแม้จะมีการกล่าวอ้างว่ามีผู้เสียหายกว่า 50 ราย แต่จนถึงขณะนี้
ทางตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายเพียง 1
รายเท่านั้น
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก