ศาลพิพากษา อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โกงเงินอาหารกลางวันเด็ก มีความผิด 14 กระทง สั่งจำคุก 70 ปี พร้อมลดโทษกึ่งหนึ่ง เนื่องจากเจ้าตัวรับสารภาพ แต่ไม่รอลงอาญา แม้จะคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยแล้วก็ตาม

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 กรณีนายเฉลิม พละสิทธิ์ ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและเจ้าพนักงานตามกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่อนุมัติการเบิกจ่ายและควบคุมกำกับการใช้จ่ายเงิน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และความถูกต้องตามกฎหมาย
จำเลยใช้โอกาสที่ตนเองมีหน้าที่ดังกล่าว
ทำบันทึกขอยืมเงินประเภทเงินอุดหนุนอื่น
และประเภทเงินโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนบ้านมะรือโบตก
โดยไม่ได้ระบุวัตถุประสงค์ของการยืมเงินว่าจะนำไปใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมใดของโรงเรียน
ซึ่งขัดต่อระเบียบของทางราชการ
จำเลยใช้อำนาจโดยมิชอบอนุมัติให้ตนเองยืมเงินดังกล่าว
เมื่อจำเลยได้รับเงินที่ยืมไปแล้วได้เบียดบังเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตน
ไม่ได้นำเงินไปใช้จ่ายในโครงการหรือแผนงานใดของโรงเรียน
ทั้งยังไม่ส่งใช้เงินยืมตามกำหนดเวลา
คำพิพากษาของศาลระบุว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 (เดิม) เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 14 กระทง เป็นจำคุก 70 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 35 ปี
ส่วนที่จำเลยขอให้รอการลงโทษ โดยอ้างว่าได้นำเงินที่ยืมไปใช้ในกิจกรรมของโรงเรียนบ้านมะรือโบตก หลายกิจกรรม และบางส่วนนำไปใช้ปรับปรุงห้องพักครู ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ทางราชการ รวมทั้งจำเลยได้จ่ายเงินคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยแล้วนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานว่านำเงินดังกล่าวไปใช้ในกิจกรรมใดของโรงเรียนตามที่กล่าวอ้าง
ซึ่งหากนำไปใช้ในกิจกรรมใดจริง จำเลยย่อมสามารถแสดงหลักฐานการใช้เงินดังกล่าวได้ไม่ยาก การกระทำของจำเลยกระทบต่อระเบียบแบบแผนการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินอันเป็นการกระทำที่ร้ายแรง แม้จำเลยจะชดใช้คืนเงินยืมพร้อมดอกเบี้ยแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นภายหลังจากที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและเป็นเรื่องทางแพ่งเท่านั้น กรณีนี้จึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษ
นอกจากนี้ ให้ยกคดีข้างต้นยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด และยังอยู่ภายใต้สิทธิการอุทธรณ์ ซึ่งการพิจารณาวินิจฉัยของศาลสูงตามลำดับ จำเลยยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 สปริงนิวส์ รายงานว่า นายสนั่น
ทองจีน ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภาค
9 (ป.ป.ช.) ได้แถลงผลการดำเนินงานด้านป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วยสำนักงาน ป.ป.ช.ยะลา, สำนักงาน
ป.ป.ช.ปัตตานี และสำนักงาน ป.ป.ช.นราธิวาส
โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 ได้พิพากษาคดีแล้ว 1 คดี ดังนี้..
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 กรณีนายเฉลิม พละสิทธิ์ ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและเจ้าพนักงานตามกฎหมาย มีอำนาจหน้าที่อนุมัติการเบิกจ่ายและควบคุมกำกับการใช้จ่ายเงิน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และความถูกต้องตามกฎหมาย
คำพิพากษาของศาลระบุว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 (เดิม) เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 14 กระทง เป็นจำคุก 70 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 35 ปี
ส่วนที่จำเลยขอให้รอการลงโทษ โดยอ้างว่าได้นำเงินที่ยืมไปใช้ในกิจกรรมของโรงเรียนบ้านมะรือโบตก หลายกิจกรรม และบางส่วนนำไปใช้ปรับปรุงห้องพักครู ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ทางราชการ รวมทั้งจำเลยได้จ่ายเงินคืนทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยแล้วนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานว่านำเงินดังกล่าวไปใช้ในกิจกรรมใดของโรงเรียนตามที่กล่าวอ้าง
ซึ่งหากนำไปใช้ในกิจกรรมใดจริง จำเลยย่อมสามารถแสดงหลักฐานการใช้เงินดังกล่าวได้ไม่ยาก การกระทำของจำเลยกระทบต่อระเบียบแบบแผนการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินอันเป็นการกระทำที่ร้ายแรง แม้จำเลยจะชดใช้คืนเงินยืมพร้อมดอกเบี้ยแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นภายหลังจากที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและเป็นเรื่องทางแพ่งเท่านั้น กรณีนี้จึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษ
นอกจากนี้ ให้ยกคดีข้างต้นยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด และยังอยู่ภายใต้สิทธิการอุทธรณ์ ซึ่งการพิจารณาวินิจฉัยของศาลสูงตามลำดับ จำเลยยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก