รัฐบาลฝรั่งเศสเลื่อนการขึ้นภาษีน้ำมัน หวังประนีประนอมประชาชน พร้อมเร่งหาทางแก้ไข ด้านกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองขู่ฆ่าแกนนำ สั่งห้ามเจรจารัฐบาล
วันที่ 4 ธันวาคม 2561 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส พร้อมด้วย นายเอดูอาร์ด ฟิลลิป นายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงของฝรั่งเศส ได้ประชุมหารือกันเป็นการฉุกเฉิน เพื่อวางมาตรการแก้ปัญหาการประท้วงของประชาชนกลุ่มฌิเลต์ โชนส์ (Gilet Jaunes) หรือกลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง จำนวนกว่า 300,000 คน ที่ออกมารวมตัวกันทั่วประเทศ ประท้วงขับไล่รัฐบาล เนื่องจากปัญหาน้ำมันแพงและการขึ้นภาษีคาร์บอนให้สูงขึ้นไปกว่าเดิม
แม้ว่าการประท้วงในหลายพื้นที่จะเป็นไปอย่างสงบ แต่สถานการณ์ในกรุงปารีสดุเดือดรุนแรงมาก ฝูงชนพยายามบุกทำเนียบรัฐบาล บุกพระราชวัง และเผาทำลายอาคารสำคัญหลายแห่ง สร้างความโกลาหลและเสียหายอย่างมาก
อ่านข่าว
- น้ำมันแพง-ขึ้นภาษี เป็นเหตุ ฝรั่งเศสระดมพลทั่วประเทศ สวมกั๊กเหลือง ประท้วงรัฐบาล
- ฝรั่งเศสลุกเป็นไฟ ! ปชช. นับแสนเผาปารีส-ถล่มพระราชวัง ประท้วงไล่ประธานาธิบดี
การประท้วงครั้งนี้ได้สร้างผลกระทบอย่างหนักไปทั่วประเทศในทุก ๆ ด้าน สถานที่สำคัญหลายแห่งได้รับความเสียหาย ทั้งจากการถูกทุบทำลาย และถูกไฟเผา ประตูสวนสาธารณะตุยเลอรีได้ถูกรื้อออก ประตูชัย อาร์ก เดอ ทรียงฟ์ เดอ เลตวล (Arc de triomphe de l'Etoile) อนุสรณ์สถานสำคัญแห่งชาติ ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยรูปปั้นบริเวณฐานถูกทุบทำลาย และมีการพ่นสีสเปรย์เป็นข้อความประท้วง
บริเวณด้านหน้าพระราชวังเอลิเซ่ ซึ่งทำเนียบประธานาธิบดีต้องมีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหนาแน่น เพราะผู้ประท้วงพยายามบุกเข้าไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้แก๊สน้ำตา ระเบิดแสง และฉีดน้ำเพื่อสลายการชุมนุม
คลังน้ำมันที่บริเวณท่าเรือฟอส-ซู-แมร์ ใกล้กับเมืองมาร์กเซย ซึ่งเป็นคลังน้ำมันหลักของฝรั่งเศส ได้ถูกกลุ่มผู้ประท้วงประมาณ 50 คน กีดขวางทางเข้า-ออก ส่งผลให้ไม่สามารถกระจายน้ำมันออกไปยังปั๊มต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ และในขณะนี้ ปั๊มน้ำมันหลายแห่งก็ไม่เหลือน้ำมันไว้ให้บริการประชาชนแล้ว
นอกจากนี้แล้ว การประท้วงที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้มีแค่กลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองเท่านั้น โดยโรงเรียนมัธยมกว่า 100 แห่งทั่วฝรั่งเศสก็ได้ประท้วงการปฏิรูปการศึกษาและระบบการสอบด้วยเช่นกัน กลุ่มผู้ให้บริการรถพยาบาลก็ร่วมประท้วงด้วย เพื่อแสดงความจำนงต่อต้านการปฏิรูประบบประกันสังคมและระบบสาธารณสุข เนื่องจากมองว่านโยบายใหม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของพวกเขา
ประธานาธิบดีมาครงได้ยกเลิกการเดินทางเยือนประเทศเซอร์เบียตามกำหนดการเดิม เพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาความรุนแรงจากการประท้วง ส่วนนายกรัฐมนตรีจะมีการเรียกสมาชิกสภาเข้าหารืออีกครั้ง ขณะที่นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเปิดโต๊ะเจรจากับตัวแทนภาคธุรกิจและภาคเอกชน เพื่อวางแนวทางฟื้นฟูความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงการประท้วง โดยยอดขายจากร้านค้าต่าง ๆ ลดลงไปมากถึง 20-40 เปอร์เซ็นต์ ร้านอาหารก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน และมีรายได้ลดลงไปตั้งแต่ 20-50 เปอร์เซ็นต์
สำหรับการประชุมฉุกเฉินที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั้น นางมารี เลอแปง ตัวแทนพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามที่เป็นฝ่ายขวาจัด ได้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีมาครงที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม เธอยังกล่าวอีกว่า เขาอาจได้เป็นผู้นำฝรั่งเศสคนแรกในรอบ 50 ปี ที่หันกระบอกปืนยิงใส่ประชาชนของตัวเอง
ทั้งนี้รัฐบาลลงมติว่าจะเลื่อนการขึ้นอัตราภาษีคาร์บอน หรือภาษีน้ำมันออกไปก่อน และนัดหมายพูดคุยกับตัวแทนผู้ประท้วง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้ การนัดหมายดังกล่าวมีขึ้นในวันนี้ ที่โอเตล เดอ มาติญง ซึ่งเป็นสำนักนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตาม การพูดคุยครั้งนี้ได้ถูกยกเลิกออกไป เนื่องจากตัวแทนกลุ่มถูกเหล่าผู้ประท้วงหัวรุนแรงขู่ฆ่าและสั่งห้ามไม่ให้ไปเจรจาใด ๆ กับรัฐบาล
จาคลีน มูโรด์ โฆษกของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง เปิดเผยว่า ผู้ประท้วงหลายคนได้สั่งตัวแทนกลุ่มว่าไม่ให้เดินทางไปพบรัฐบาล ทางตัวแทนกลุ่มจึงระงับการเข้าไปพูดคุย เพราะถ้าหากพวกเขาเดินทางขึ้นรถไฟ จะมีความเสี่ยงมากที่กลุ่มผู้ประท้วงจะพบเห็นแล้วจำได้ ซึ่งมันอันตรายเกินไป
