โอละพ่อ?! แม่ค้าโดนทหารบังคับอมนกเขาคา รพ. ไกล่เกลี่ยแล้ว ที่แท้แค่เรื่องเข้าใจผิด

          แม่ค้าขายของออนไลน์ วัย 32 ปี ผู้แจ้งความว่าถูกผู้ชายอ้างตัวเป็นทหารยศพันโท ที่พบกันในแอพฯหาคู่ บังคับอมนกเขา ไม่โผล่ให้ปากคำเพิ่ม หายเงียบติดต่อไม่ได้ แต่สุดท้ายไกล่เกลี่ยคู่กรณีแล้ว เรื่องทั้งหมดแค่เข้าใจผิด

          สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นนี้ ในวันที่ 10 ธันวาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ทีวี รายงานว่า ในช่วงที่ น.ส.ต่าย หญิงสาวผู้เสียหาย พูดคุยกับผู้ชายคู่กรณีบนแอพฯหาคู่นั้น เธอได้ยอมรับว่าไม่ได้ใช้รูปภาพจริง ๆ ของตัวเองเป็นรูปโปรไฟล์ อีกฝ่ายก็ไม่ได้ใช้รูปจริงของตัวเองเช่นกัน หลังจากคุยกันได้ประมาณ 3 สัปดาห์ น.ส.ต่ายล้มป่วยด้วยโรคลำไส้อักเสบ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ โดยในวันที่ 5 ธันวาคม เวลาประมาณ 21.00 น. คู่กรณีได้เดินทางมาเยี่ยมไข้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ได้เห็นหน้าจริงกันเป็นครั้งแรก

          ชายคู่กรณีได้ให้ น.ส.ต่ายดูรูปภาพเก่า ๆ ของตน ที่แต่งเครื่องแบบทหารยศพันโทแบบเต็มตัว หลังจากคุยกันไปสักพัก ชายคู่กรณีก็เอ่ยปากขอขึ้นไปนอนบนเตียงด้วย เพื่อจะได้เฝ้าไข้ให้ แต่พอขึ้นไปนอนบนเตียงก็ไม่ได้อยู่เฉย ได้เอื้อมมือไปกอด น.ส.ต่าย พร้อมขอมีเซ็กส์ด้วย แต่ น.ส.ต่ายปฏิเสธ บอกว่าไม่สามารถทำได้เพราะตนกำลังปวดท้อง ชายคู่กรณีก็รบเร้า จะขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยให้ได้ น.ส.ต่ายก็ยืนกรานปฏิเสธ ชายคู่กรณีจึงขอให้ น.ส.ต่ายใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้ ซึ่ง น.ส.ต่ายก็ทำให้ตามที่ขอ หลังจากเสร็จแล้ว คู่กรณีก็บอก น.ส.ต่ายว่า หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะพาไปเที่ยวงานกาชาด จ.ลำพูน เพราะตัวเองทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ที่นั่น และจะพาไปดูฟุตบอล

          น.ส.ต่าย เล่าว่า หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตนไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้เลย และรู้สึกว่าตัวเองอาจจะถูกหลอก จึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ และมีกำหนดเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีกับชายผู้ล่วงละเมิดทางเพศ แต่อย่างไรก็ตาม น.ส.ต่ายกลับไม่ได้เดินทางเข้าให้ปากคำแต่อย่างใด ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวก็พยายามติดต่อไปหา น.ส.ต่าย แต่ก็พบว่าไม่สามารถติดต่อได้เลย

          ทางด้าน พ.ต.อ. ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ล่าสุดทางผู้เสียหายติดต่อผู้ชายคู่กรณีได้แล้ว ทั้งสองได้เจรจาและทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว โดยเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น และจะมีการนัดหมายมาพบกันที่โรงพักอีกครั้ง เพื่อตกลงยอมความกัน แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการระบุวันเวลา ว่าจะเป็นเมื่อไหร่

          สำหรับผู้ชายคู่กรณีนั้น รายงานระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นทหารจริง แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามียศพันโทตามที่กล่าวอ้างหรือไม่

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก