หนังคนละม้วน ! ร่างทรงลั่นไม่มีพิธีสวิงกิ้ง ฝ่ายเมียอ้างกินเจมา 15 ปี ไม่มีแรงสวิงกิ้ง

          เมียร่างทรงชี้แจงชัด ไม่เคยหลอกใครไปทำพิธีสวิงกิ้ง เผยสามีกินเจมา 15 ปี ไม่มีแรงทำเรื่องบนเตียง ด้านร่างทรงเผย อีกฝ่ายพาเข้าโรงแรมเอง เชื่อเป็นมารผจญจะมาปิดตำหนัก แต่ถ้ามารไม่มี บารมีไม่เกิด
          จากกรณีมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อร่างทรง ถูกหลอกให้ไปมีเซ็กส์แบบสวิงกิ้ง อ้างว่าเป็นการทำพิธีแก้เคล็ด เพื่อให้แม่หายป่วย ซึ่งในระหว่างพิธี ผู้เสียหายถูกจับขึงพืดให้ร่างทรงข่มขืน ระหว่างสอดใส่ก็มีการพร่ำสอนศาสนา นอกจากนี้แล้ว ผู้เสียหายรายนี้ก็พึ่งพาร่างทรงมาหลายปี และเสียเงินค่าสะเดาะเคราะห์ต่าง ๆ รวมแล้วนับล้านบาท (อ่านข่าว : เหยื่อเล่าพิธีอุบาทว์ ถูกหลอกสวิงกิ้งกับร่างทรง-สาวก พร่ำสอนศาสนา ตอนสอดใส่)


          สำหรับความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายวิษณุ หรือ ปู่น้อง ร่างทรงที่ถูกกล่าวหา ยืนกรานว่าตนไม่เคยหลอกนางแก้มไปสวิงกิ้งอย่างที่เป็นข่าว โดยในวันที่ 1 พฤศจิกายน ตนเดินทางไปที่บ้านนางเอ ที่ จ.อุตรดิตถ์ จริง แต่ไปเพื่อขนศิวลึงค์กลับมาที่ จ.แม่ฮ่องสอน และในวันนั้น นางแก้มเป็นคนชักชวนตนและทีมงาน คือ นางต้อย ภรรยาของตน พร้อมกับ แม่หนมและแม่จัน สาวก 2 คน ว่าจะเอารถไปตรวจเช็กสภาพที่ศูนย์ ในระหว่างรอ นางแก้มบอกว่าอากาศร้อน และชวนพวกตนไปพักที่โรงแรม โดยตนเป็นคนขับรถ แต่ไม่รู้เส้นทาง นางแก้มจึงเป็นคนบอกทางไป และออกค่าใช้จ่ายที่พักทั้งหมด


          เมื่อขึ้นไปถึงห้องในโรงแรม ทั้ง 5 คน ต่างก็นั่งเล่นกันในแต่ละมุมห้อง นายวิษณุยืนยันว่าไม่ได้มีพิธีสวิงกิ้งอย่างที่นางแก้มกล่าวหาแน่นอน เพราะตนอายุมากแล้ว ทุกคนที่ไปก็มีอายุกันทุกคน ไม่ได้แข็งแรงมากพอที่จะร่วมเพศแบบสวิงกิ้ง การที่นางแก้มมากล่าวหาตนและครอบครัวแบบนี้ ทั้งที่ไม่เคยบาดหมางอะไรกัน ตนคิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นมารมาผจญที่จะมาปิดตำหนักตน เพราะตนเดินสายธรรมมาหลายปี ก็เคยเจอมารแบบนี้มามาก และคิดว่า "ถ้ามารไม่มี บารมีก็ไม่เกิด" และอุปสรรคเหล่านี้จะเป็นบททดสอบตน
          อย่างไรก็ตาม นายวิษณุยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยไปพักอาศัยที่บ้านของนางแก้มจริง เพราะนางแก้มขอให้ไปเฝ้าบ้านให้ ขณะไปอยู่ต่างประเทศ เมียของตนก็เคยเข้าไปอยู่ในบ้านนั้น ทั้งนี้ตนมีภรรยา 2 คน คือนางต้อย และอีกคนหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยมีการสวิงกิ้งกัน ส่วนยาไวอากร้า เกิดมาในชีวิตนี้เคยเห็นแค่เม็ดเดียว เป็นยาของสามีนางแก้ม และตนก็ไม่เคยกิน


          ด้านนางต้อย เมียของร่างทรง ก็ยืนยันอีกเสียงว่า ไม่ได้มีการทำพิธีสวิงกิ้งกันแต่อย่างใด เพราะตนกินเจมา 13 ปี สามีก็กินเจมา 15 ปี คนกินเจจะไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศ และไม่มีแรงไปสวิงกิ้งได้ ตอนที่อยู่โรงแรม พวกตนแค่ไปพักผ่อนเพื่อรอรถของนางแก้ม ไม่ได้ไปขึงพืดนางแก้มแล้วให้สามีข่มขืนอย่างที่กล่าวหา

          ตนคิดว่านางแก้มคงเข้าใจผิดไปว่าตนโกงเงินค่าสร้างศิวลึงค์ ซึ่งตนยืนยันว่ามีหลักฐานค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมกว่า 3 แสนบาท แต่นางแก้มกลับไม่ยอมดูเอกสารส่วนนี้ และตนก็ขอยืนยันอีกครั้งว่าสามีไม่เคยไปข่มขืนหรือร่วมเพศกับนางแก้มแน่นอน อีกทั้งยังไม่เคยกินยาไวอากร้าเพื่อกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศด้วย


          ขณะที่ นางสุธิษา หรือนางหนม ลูกศิษย์ของร่างทรง ก็ได้ยืนยันอีกคนว่าไม่ได้มีพิธีสวิงกิ้งกัน สิ่งที่ทุกคนทำคือ นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือของใครของมัน ไม่มีการแก้ผ้าอย่างที่นางแก้มบอก ไม่มีพิธีกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้แล้ว ตนก็ไม่ได้เป็นสนมหรือข้ารับใช้ร่างทรงอย่างที่นางแก้มเคยพูด เพราะพวกตนอยู่กันแบบพี่น้อง และตนมีหน้าที่แค่ทำบายศรีเท่านั้น

          นางหนม กล่าวอีกว่า นางแก้มเคยโชว์ของบูชาเป็นสายคาดเอวให้ดู บอกว่าซื้อมาจากร่างทรงคนใหม่ที่ไปเชื่อ ในราคาสูงถึง 1 แสนบาท ร่างทรงคนใหม่นี้บอกว่าถ้านำสายคาดเอวไปขายที่ต่างประเทศ จะมีราคาสูงถึงหลักล้าน นางแก้มได้เอามาให้ตนลองจับดูว่าจะมีของเข้าใส่หรือไม่ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

          ด้าน พ.ต.อ. ดิษญเดช ภัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้ส่งตัวนางแก้มไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์แล้ว เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบว่ามีการร่วมเพศกับร่างทรงอย่างที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ ขณะนี้กำลังรอผลการตรวจสอบ และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมดำเนินการออกหมายเรียกคู่กรณี มาทำการสอบปากคำต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก