ทนายเดชา เผยข้อกฎหมายในการดำเนินคดี คดีสะเทือนสังคม 5 โจ๋ฉุดเด็ก 12 รุมโทรม ลั่นควรดำเนินคดีกับ อบต. ให้เข็ดหลาบ หลังเข้ามาเคลียร์แต่ดันใช้คำพูดข่มเหงเด็กซ้ำ
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ เปิดเผยถึงข้อกฎหมายในคดีสะเทือนขวัญ 5 วัยรุ่น ก่อเหตุฉุดเด็กหญิง อายุ 12 ปี ข่มขืน ที่ จ.สระบุรี โดยระบุว่า...
ข้อ 1) การกระทำชำเรา ในลักษณะเป็นการโทรมหญิง ถ้าเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี มีความผิดตามมาตรา 277 วรรคสี่ มีโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่เมื่อผู้กระทำความผิดอายุต่ำกว่า 18 ปี ถ้าศาลเห็นว่าไม่สมควรพิพากษาลงโทษ ก็ให้จัดการตามมาตรา 74 โดยใช้วิธีการสำหรับเด็ก หรือจะลดมาตราส่วนโทษลงกึ่งหนึ่งก็ได้ ไม่สามารถยอมความได้ ถึงแม้ผู้กระทําความผิดจะเป็นบุคคลอายุไม่เกิน 18 ปี
ข้อ 2) ส่วนบิดาของเด็กผู้เสียหายที่ทำร้ายร่างกายบุคคลอื่น ก็ต้องรับโทษความผิดฐานทำร้ายร่างกาย เป็นการกระทำคนละส่วนกัน ส่วนจะอ้างบันดาลโทสะได้หรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่าเป็นการทำร้ายขณะโกรธและถูกข่มเหงรังแกด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหรือไม่อย่างไร
ข้อ 3) ส่วน อบต. ที่เข้ามาทำหน้าที่คนกลางไกล่เกลี่ย มีการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม เช่น ถามว่ามีใครเสร็จบ้าง เป็นคำพูดที่ข่มเหงรังแกเด็ก มีความผิดตามกฎหมายคุ้มครองเด็ก และถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดวินัยของข้าราชการ ควรที่จะสอบสวนวินัยของทางราชการ และการใส่ร้ายเด็กว่ามั่ว มีความผิดฐานหมิ่นประมาทเด็กหญิงโดยประการที่น่าจะทำให้เสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ควรดำเนินคดีกับ อบต. ให้เข็ดหลาบ
![ข่มขืนเด็ก 12]( "ข่มขืนเด็ก 12")
ข้อ 1) การกระทำชำเรา ในลักษณะเป็นการโทรมหญิง ถ้าเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี มีความผิดตามมาตรา 277 วรรคสี่ มีโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่เมื่อผู้กระทำความผิดอายุต่ำกว่า 18 ปี ถ้าศาลเห็นว่าไม่สมควรพิพากษาลงโทษ ก็ให้จัดการตามมาตรา 74 โดยใช้วิธีการสำหรับเด็ก หรือจะลดมาตราส่วนโทษลงกึ่งหนึ่งก็ได้ ไม่สามารถยอมความได้ ถึงแม้ผู้กระทําความผิดจะเป็นบุคคลอายุไม่เกิน 18 ปี
ข้อ 2) ส่วนบิดาของเด็กผู้เสียหายที่ทำร้ายร่างกายบุคคลอื่น ก็ต้องรับโทษความผิดฐานทำร้ายร่างกาย เป็นการกระทำคนละส่วนกัน ส่วนจะอ้างบันดาลโทสะได้หรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่าเป็นการทำร้ายขณะโกรธและถูกข่มเหงรังแกด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหรือไม่อย่างไร
ข้อ 3) ส่วน อบต. ที่เข้ามาทำหน้าที่คนกลางไกล่เกลี่ย มีการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม เช่น ถามว่ามีใครเสร็จบ้าง เป็นคำพูดที่ข่มเหงรังแกเด็ก มีความผิดตามกฎหมายคุ้มครองเด็ก และถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดวินัยของข้าราชการ ควรที่จะสอบสวนวินัยของทางราชการ และการใส่ร้ายเด็กว่ามั่ว มีความผิดฐานหมิ่นประมาทเด็กหญิงโดยประการที่น่าจะทำให้เสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ควรดำเนินคดีกับ อบต. ให้เข็ดหลาบ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก เฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์
