2 นักท่องเที่ยวสาวชาวเดนมาร์กและนอร์เวย์ เดินทางไปเที่ยวโมร็อกโก ตั้งแคมป์กันบนเขา สุดท้ายถูกพบเป็นศพ โดนฆ่าปาดคอ ครอบครัวช็อก ทำใจไม่ได้
![ฆ่าปาดคอ]( "ฆ่าปาดคอ")
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมพิสูจน์หลักฐานทางนิติเวช เดินทางไปตรวจสอบจุดตั้งแคมป์แห่งหนึ่ง ประมาณ 10 กิโลเมตรจากหมู่บ้านอิมลิล ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลบนเทือกเขาแอตลาส สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,800 เมตร ทางตอนกลางของประเทศโมร็อกโก หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านท้องถิ่นว่าพบศพในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อทีมเจ้าหน้าที่ไปถึง พวกเขาก็พบศพหญิงสาวผิวขาว ผมบลอนด์ 2 คน นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพสยดสยอง และทั้งสองถูกฆ่าปาดคอ จนคอเกือบขาด
![ฆ่าปาดคอ]( "ฆ่าปาดคอ")
หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองเป็นนักท่องเที่ยวแบ็กแพ็ก ทราบชื่อคือ ลุยซา เยสเปอร์เซน หญิงชาวเดนมาร์ก วัย 24 ปี และ มาเรน อูลันด์ หญิงสาวชาวนอร์เวย์ วัย 28 ปี พวกเธอเป็นเพื่อนกัน และเรียนจบจากภาควิชากิจกรรมนอกสถานที่และไกด์ทางวัฒนธรรม จากมหาวิทยาลัยเซาท์อีสเทิร์น ประเทศนอร์เวย์ ทั้งสองออกเดินทางจากบ้านเกิดมาร่วมทริปยาว 1 เดือน และหลังจากที่แบกเป้ตะลุยตอนเหนือของทวีปแอฟริกามาหลายประเทศ พวกเธอก็มาต่อกันที่โมร็อกโก
![ฆ่าปาดคอ]( "ฆ่าปาดคอ")
ขณะที่มาเรนกับลุยซากำลังตั้งแคมป์กันอยู่นั้น ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้นเอง ก็มีผู้ชาย 3 คน ขึ้นไปตั้งแคมป์บนนั้นด้วย พวกเขามาจากเมืองใกล้เคียง และกางเต็นท์นอนกันบนเขา ไม่ไกลจากจุดตั้งแคมป์ของสาว ๆ ชาวบ้านในหมู่บ้านอิมลิลเล่าว่า พบเห็นชายกลุ่มนี้ขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดตั้งแคมป์ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งมีคนมาพบลุยซาและมาเรน นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณจุดตั้งแคมป์ของผู้ชายกลุ่มดังกล่าว
หลังพบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พุ่งเป้าผู้ต้องสงสัยไปที่ผู้ชายทั้งสามทันที และสามารถติดตามจับกุมทั้งหมดได้ในเวลาไม่นาน โดยหนึ่งในนั้นลืมบัตรประชาชนทิ้งเอาไว้ในจุดเกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดของร้านค้าท้องถิ่นก็สามารถบันทึกภาพพวกเขาเอาไว้ได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีครั้งนี้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงการสืบสวน จึงไม่ทราบได้ว่าทำไมลุยซาและมาเรนถึงถูกฆ่า และเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น ข้อมูลเดียวที่ถูกเปิดเผยก็คือ ทั้งสองถูกฆ่าปาดคอ
ข่าวการเสียชีวิตของทั้งสองได้สร้างความตกใจและโศกเศร้าแก่ครอบครัวเป็นอย่างมาก
โดยข้อมูลจากสำนักข่าวอัลจาซีรา
ระบุว่า แม่ของลุยซาเจ็บปวดมาก
และเตือนไม่ให้คนเดินทางไปเที่ยวที่โมร็อกโกอีก
เพราะเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก
ขณะที่แม่ของมาเรนเปิดเผยว่า ลูกสาวของเธอเป็นคนที่อบอุ่นและเป็นที่รัก มาเรนให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวเองเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอและลุยซาจะออกไปเที่ยวด้วยกัน ทั้งสองสาวต่างก็วางแผนกันมาอย่างรอบคอบและเตรียมตัวกันมาอย่างดี เพื่อให้ตัวเองปลอดภัย แต่กลับเกิดเรื่องร้ายขึ้น
ทั้งนี้ก่อนที่ลุยซาจะเสียชีวิต เธอได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก เล่าว่ากำลังจะเดินทางไปเที่ยวที่โมร็อกโก และขอคำแนะนำจากเพื่อน ๆ เกี่ยวกับทริป สำหรับจุดที่เธอและมาเรนเข้าไปตั้งแคมป์ ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นได้ประกาศปิดพื้นที่ ไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาตั้งแคมป์ หรือปีนเขาแล้ว และไม่สามารถระบุได้ว่าจะกลับมาเปิดให้ขึ้นไปท่องเที่ยวได้ตามปกติเมื่อใด
ทางด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของนอร์เวย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกระทรวงรับทราบข่าวร้ายดังกล่าวแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงประสานงานไปยังสถานทูตนอร์เวย์ในโมร็อกโก เพื่อติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้ รวมทั้งขอข้อมูลว่ามันเกิดอะไรขึ้น และได้ติดต่อไปยังตำรวจโมร็อกโกด้วยเช่นกัน คาดว่าจะทราบความคืบหน้าได้ในเร็ว ๆ นี้
ลุยซา เยสเปอร์เซน ภาพจาก เฟซบุ๊ก Louisa Vesterager Jespersen
หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองเป็นนักท่องเที่ยวแบ็กแพ็ก ทราบชื่อคือ ลุยซา เยสเปอร์เซน หญิงชาวเดนมาร์ก วัย 24 ปี และ มาเรน อูลันด์ หญิงสาวชาวนอร์เวย์ วัย 28 ปี พวกเธอเป็นเพื่อนกัน และเรียนจบจากภาควิชากิจกรรมนอกสถานที่และไกด์ทางวัฒนธรรม จากมหาวิทยาลัยเซาท์อีสเทิร์น ประเทศนอร์เวย์ ทั้งสองออกเดินทางจากบ้านเกิดมาร่วมทริปยาว 1 เดือน และหลังจากที่แบกเป้ตะลุยตอนเหนือของทวีปแอฟริกามาหลายประเทศ พวกเธอก็มาต่อกันที่โมร็อกโก
มาเรน อูลันด์ ภาพจาก เฟซบุ๊ก Maren Ueland
ขณะที่มาเรนกับลุยซากำลังตั้งแคมป์กันอยู่นั้น ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้นเอง ก็มีผู้ชาย 3 คน ขึ้นไปตั้งแคมป์บนนั้นด้วย พวกเขามาจากเมืองใกล้เคียง และกางเต็นท์นอนกันบนเขา ไม่ไกลจากจุดตั้งแคมป์ของสาว ๆ ชาวบ้านในหมู่บ้านอิมลิลเล่าว่า พบเห็นชายกลุ่มนี้ขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดตั้งแคมป์ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งมีคนมาพบลุยซาและมาเรน นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณจุดตั้งแคมป์ของผู้ชายกลุ่มดังกล่าว
หลังพบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พุ่งเป้าผู้ต้องสงสัยไปที่ผู้ชายทั้งสามทันที และสามารถติดตามจับกุมทั้งหมดได้ในเวลาไม่นาน โดยหนึ่งในนั้นลืมบัตรประชาชนทิ้งเอาไว้ในจุดเกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดของร้านค้าท้องถิ่นก็สามารถบันทึกภาพพวกเขาเอาไว้ได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีครั้งนี้ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงการสืบสวน จึงไม่ทราบได้ว่าทำไมลุยซาและมาเรนถึงถูกฆ่า และเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น ข้อมูลเดียวที่ถูกเปิดเผยก็คือ ทั้งสองถูกฆ่าปาดคอ
ขณะที่แม่ของมาเรนเปิดเผยว่า ลูกสาวของเธอเป็นคนที่อบอุ่นและเป็นที่รัก มาเรนให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวเองเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอและลุยซาจะออกไปเที่ยวด้วยกัน ทั้งสองสาวต่างก็วางแผนกันมาอย่างรอบคอบและเตรียมตัวกันมาอย่างดี เพื่อให้ตัวเองปลอดภัย แต่กลับเกิดเรื่องร้ายขึ้น
ทั้งนี้ก่อนที่ลุยซาจะเสียชีวิต เธอได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก เล่าว่ากำลังจะเดินทางไปเที่ยวที่โมร็อกโก และขอคำแนะนำจากเพื่อน ๆ เกี่ยวกับทริป สำหรับจุดที่เธอและมาเรนเข้าไปตั้งแคมป์ ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นได้ประกาศปิดพื้นที่ ไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาตั้งแคมป์ หรือปีนเขาแล้ว และไม่สามารถระบุได้ว่าจะกลับมาเปิดให้ขึ้นไปท่องเที่ยวได้ตามปกติเมื่อใด
ทางด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของนอร์เวย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกระทรวงรับทราบข่าวร้ายดังกล่าวแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงประสานงานไปยังสถานทูตนอร์เวย์ในโมร็อกโก เพื่อติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้ รวมทั้งขอข้อมูลว่ามันเกิดอะไรขึ้น และได้ติดต่อไปยังตำรวจโมร็อกโกด้วยเช่นกัน คาดว่าจะทราบความคืบหน้าได้ในเร็ว ๆ นี้
