พบเหยื่อคดีหนุ่มใหญ่ลวงพยาบาลกักขังรีดเงินอีกเพียบ เป้าหมายเป็นสาวสูงวัย-แม่หม้าย เจ้าตัวสารภาพหาเหยื่อผ่านเว็บหาคู่ ก่อนลวงไปข่มขืนถ่ายคลิปแบล็กเมล
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 เว็บไซต์อีจัน รายงานว่า พ.ต.ท. เศรษฐภัทร เรือวานิช รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมตำรวจสืบสวน เข้าค้นภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังพบเบาะแสของชายต้องสงสัยที่ลักพาตัวนางสนองไป จากการเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบ นายเอราวัน คุมภวิภาษ อายุ 53 ปี พร้อมของกลางเป็นเงินสด จำนวน 190,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สมุดธนาคาร อาวุธค้อน และ รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊ก จึงคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมยึดของกลางทั้งหมดไว้ตรวจสอบ
จากการสอบสวน
นายเอราวัน ให้การรับสารภาพว่า ตนเองรู้จักกับ นางสนอง ผู้เสียหาย
ซึ่งมีอาชีพเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลสูงเนิน ผ่านเว็ปไซต์หาคู่ Thai dating
โดยได้ทำความสนิทสนมกับผู้เสียหายมานานกว่า 7 เดือน
ซึ่งระหว่างนี้ก็ได้มีการนัดเจอพูดคุยกันบ่อยครั้งที่ อ.สูงเนิน
จ.นครราชสีมา
ก่อนจะตีสนิทและออกกลอุบายบังคับข่มขู่พาตัวนางสนองออกจากบ้านเมื่อช่วงเย็นวันที่
13 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยพานางสนองไปเปิดโรงแรมนอนที่ จ.สระบุรี
โดยนายเอราวัณได้พาลูกชายทั้ง 2 คน ติดรถมาด้วย
นางสนอง
ผู้เสียหาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนถูกนายเอราวัน ทำร้ายร่างกาย
ทั้งทุบที่ท้อง ศีรษะ และจุดอื่น ๆ ตามร่างกายโดยใช้ค้อน
เนื่องจากนายเอราวันคิดว่าตนอายัดบัตรเอทีเอ็ม
จึงโกรธที่ไม่สามารถกดเงินได้ จากนั้นพาไปที่สมุทรสาคร กักขังหน่วงเหนี่ยว
ระหว่างนั้นตนได้พยายามหลบหนี แต่ไม่รอด จึงถูกทุบตี
และไม่กล้าเรียกให้ใครช่วยกลัวจะโดนทุบหัวจนตาย
ภาพจาก เว็บไซต์อีจัน
จากกรณีนายนรินทร์ ถ่ายสูงเนิน อายุ 32 ปี ชาว อ.สูงเนิน
จ.นครราชสีมา ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนให้ช่วยตามหาผู้เป็นแม่คือ นางสนอง
ถ่ายสูงเนิน หลังจากหายตัวไปตั้งแต่ 13 ธีนวาคม ที่ผ่านมา
และพบว่าเงินในบัญชีของแม่ได้ถูกกดเงินสดออกไป 150,000 บาท เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับผู้เป็นแม่ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.สูงเนิน
เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 เว็บไซต์อีจัน รายงานว่า พ.ต.ท. เศรษฐภัทร เรือวานิช รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมตำรวจสืบสวน เข้าค้นภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังพบเบาะแสของชายต้องสงสัยที่ลักพาตัวนางสนองไป จากการเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบ นายเอราวัน คุมภวิภาษ อายุ 53 ปี พร้อมของกลางเป็นเงินสด จำนวน 190,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สมุดธนาคาร อาวุธค้อน และ รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม๊ก จึงคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมยึดของกลางทั้งหมดไว้ตรวจสอบ
วันรุ่งขึ้นได้นำบัตร ATM ของนางสนองไปกดเงินที่ตู้ ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.
ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท
แล้วใช้ค้อนทุบตีผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บ
ก่อนจะทิ้งนางสนองไว้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร
เพื่อไปหาผู้เสียหายอีกรายที่จังหวัดอื่นต่อ
ภาพจาก เว็บไซต์อีจัน
พล.ต.ท.
อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ระบุว่า
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเคยหลอกเหยื่อมาแล้ว 6 ราย
โดยจะใช้วิธีหาคู่ผ่านเว็บไซต์ Thai dating และนัดเจอกันกับเหยื่อ
ก่อนจะออกอุบายล่อลวงเหยื่อให้ตายใจออกมาพบ จากนั้นก็จะทำร้ายร่างกายตบตี
และบังคับข่มขืนเหยื่อเกือบทุกราย
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการถ่ายคลิปไว้เพื่อแบล็กเมลหากเหยื่อไปแจ้งความ
และบังคับให้เหยื่อบอกรหัส บัตรเอทีเอ็มเพื่อไปกดเงิน
ภาพจาก เว็บไซต์อีจัน
ทั้งนี้ อยากฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระวังตัว ผู้ที่เข้ามาพูดจาดี ทำดี
แต่ไม่รู้จักกันมาก่อน อาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นมิจฉาชีพ หากสงสัยให้โทร 1155
หรือ 191 ก่อนที่จะสูญเงินแสน และเสียใจภายหลัง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







