พ่อแม่ใจสลาย ลูกไปท่องเที่ยวต่างแดนก่อนถูกพบเป็นศพตายปริศนา แถมส่งร่างกลับมาโดยไร้อวัยวะสำคัญ ภายในแทบว่างเปล่า แถมไม่ระบุสาเหตุการตายที่แน่ชัด
โดยจากรายงานของเว็บไซต์ ladbible.com เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2561 เผยว่า เด็กหนุ่มเดินทางไปถึงประเทศมอลตา ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ก่อนที่เขาจะหายตัวไปไม่กลับบ้านตามกำหนดเดิม ทางครอบครัวจึงได้แจ้งความคนหาย ขอให้เจ้าหน้าที่ในมอลตาออกติดตามหาเขา กระทั่งมีผู้พบศพของเด็กหนุ่มในวันที่ 26 กรกฎาคม ปีนั้น
ท่ามกลางความไม่ชัดเจน ในที่สุดร่างของเด็กหนุ่มก็ถูกส่งคืนกลับสู่ครอบครัวที่เยอรมนี ซึ่ง เบิร์นด์ และ ซูซานน์ แมนชอล์ต พ่อกับแม่ของเด็กหนุ่ม ได้ส่งร่างของลูกชายไปชันสูตรอีกครั้งที่ศูนย์การแพทย์ฮานโอเวอร์ ด้วยความหวังจะได้ทราบว่าลูกชายเสียชีวิตอย่างไรกันแน่ ในตอนนั้นเองที่พวกเขาเพิ่งได้รู้ความจริงชวนช็อกว่าร่างของลูกชายที่ดูจะมีน้ำหนักเบากว่าปกตินี้ ภายในแทบจะว่างเปล่า อวัยวะภายในชิ้นสำคัญส่วนมากได้หายไปจากร่างของเขา
โดย เบิร์นด์ เผยว่า ศพของลูกชายเขานั้นเริ่มเน่า มันไม่ได้เน่าจากการอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์เป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า หัวใจ สมอง อวัยวะในลำคอ ตับ ปอด ตับอ่อน ต่อมหมวกไต ไตด้านขวา กระเพาะปัสสาวะ กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก ล้วนหายไปจากศพ อวัยวะภายในที่หลงเหลืออยู่มีเพียง ไตด้านซ้าย กะบังลม ม้าม และลำไส้ใหญ่ เท่านั้น
นอกจากนี้ ภายในตัวศพไม่มีร่องรอยกระดูกหัก ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นไปได้ว่าจะตกจากที่สูง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเต็มไปด้วยปริศนา ทีมชันสูตรที่มอลตาไม่ยอมส่งรายงานผลการชันสูตรมาให้ทางเยอรมนี แถมการที่อวัยวะสำคัญหายไปก็ทำให้การชันสูตรซ้ำที่เยอรมนีเป็นไปได้อย่างจำกัด
ไม่มีหลักฐานใด ๆ บ่งชี้ว่าศพของไมค์ถูกสัตว์เข้ามากัดกิน ดังนั้นเพื่อที่จะหาความจริงว่าลูกชายของพวกเขาเสียชีวิตได้อย่างไร รวมถึงต้องการรู้ว่าอวัยวะเหล่านั้นหายไปไหน ล่าสุดทางครอบครัวจึงตัดสินใจยื่นฟ้องศาลเพื่อขอให้มีการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อไขคำตอบที่ทางครอบครัวยังคงคาใจอยู่ในขณะนี้
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2559 ไมค์ แมนชอล์ต เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ได้เดินทางออกจากบ้านในประเทศเยอรมนี เพื่อมุ่งไปท่องเที่ยวดูโลกกว้างที่ประเทศมอลตา พร้อมความหวังว่าจะได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ชวนประทับใจ ในทริปเที่ยวเดี่ยวครั้งแรกโดยไม่มีพ่อแม่ตามไปดูแล แต่น่าเศร้าที่พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่านั่นจะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของเด็กหนุ่ม และครั้งสุดท้ายที่พ่อแม่ได้เห็นเขา เมื่อเด็กหนุ่มถูกพบในสภาพไร้วิญญาณ พร้อมกับปริศนาที่ยังวนเวียนอยู่รอบ ๆ การเสียชีวิตของเขา
โดยจากรายงานของเว็บไซต์ ladbible.com เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2561 เผยว่า เด็กหนุ่มเดินทางไปถึงประเทศมอลตา ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ก่อนที่เขาจะหายตัวไปไม่กลับบ้านตามกำหนดเดิม ทางครอบครัวจึงได้แจ้งความคนหาย ขอให้เจ้าหน้าที่ในมอลตาออกติดตามหาเขา กระทั่งมีผู้พบศพของเด็กหนุ่มในวันที่ 26 กรกฎาคม ปีนั้น
ผลการชันสูตรในมอลตาชี้ว่าเด็กหนุ่มเสียชีวิตมาแล้ว 7-8 วัน ไม่พบกระดูกหัก แต่ไม่ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิต นอกจากนี้ตอนที่พบศพ เด็กหนุ่มไม่ได้สวมรองเท้าวิ่ง จักรยานเช่าที่อยู่ห่างจากศพอีกหลายเมตรก็มีร่องรอยความเสียหายที่ดูไม่เหมือนการร่วงลงมาจากที่สูง
โดย เบิร์นด์ เผยว่า ศพของลูกชายเขานั้นเริ่มเน่า มันไม่ได้เน่าจากการอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์เป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า หัวใจ สมอง อวัยวะในลำคอ ตับ ปอด ตับอ่อน ต่อมหมวกไต ไตด้านขวา กระเพาะปัสสาวะ กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก ล้วนหายไปจากศพ อวัยวะภายในที่หลงเหลืออยู่มีเพียง ไตด้านซ้าย กะบังลม ม้าม และลำไส้ใหญ่ เท่านั้น
นอกจากนี้ ภายในตัวศพไม่มีร่องรอยกระดูกหัก ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นไปได้ว่าจะตกจากที่สูง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเต็มไปด้วยปริศนา ทีมชันสูตรที่มอลตาไม่ยอมส่งรายงานผลการชันสูตรมาให้ทางเยอรมนี แถมการที่อวัยวะสำคัญหายไปก็ทำให้การชันสูตรซ้ำที่เยอรมนีเป็นไปได้อย่างจำกัด
ไม่มีหลักฐานใด ๆ บ่งชี้ว่าศพของไมค์ถูกสัตว์เข้ามากัดกิน ดังนั้นเพื่อที่จะหาความจริงว่าลูกชายของพวกเขาเสียชีวิตได้อย่างไร รวมถึงต้องการรู้ว่าอวัยวะเหล่านั้นหายไปไหน ล่าสุดทางครอบครัวจึงตัดสินใจยื่นฟ้องศาลเพื่อขอให้มีการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อไขคำตอบที่ทางครอบครัวยังคงคาใจอยู่ในขณะนี้







