สถานีมีหอย แจงดราม่า เอาผู้ชายมาทำท่าสะดีดสะดิ้ง ยันไม่ใช่การเหยียดกะเทย

            ร้าน สถานีมีหอย แจงประเด็น เอาผู้ชายมาแต่งตัวเป็นเพศที่สาม และทำท่าทางล้อเลียน ยันเป็นแค่การสร้างจุดขาย แบบนี้มีให้เห็นเยอะแยะไปในทีวี

            เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2561 จากกรณีที่ร้านสถานีมีหอย ร้านอาหารชื่อดัง ถูกวิจารณ์ถึงกรณีนำผู้ชายมาแต่งตัวเป็นสาวประเภทสอง พร้อมกับทำท่าทางในเชิงล้อเลียน ทำให้หลาย ๆ คนที่มาเห็นเกิดความไม่พอใจ พร้อมกับตำหนิไปที่ร้าน ให้เลิกนโยบายเหล่านี้

            ด้านเฟซบุ๊ก Sikawat Luesopon ซึ่งอ้างว่า ตนเองนั้นรู้จักกับ คุณดี เจ้าของร้าน และบอกว่า การที่นำผู้ชายมาแต่งเป็นสาวประเภทสองนั้น ก็เพื่อเป็นการสร้างจุดขาย สร้างความบันเทิงเท่านั้น จนทำให้ร้านมีคนแน่นทุกวัน และนั่นก็เป็นกลุ่มเป้าหมายของเขา เพื่อนของตนเป็นคนญี่ปุ่น ก็ระบุเลยว่าต้องการมาร้านนี้ และคนที่มีปัญหาก็มักจะไม่ใช่ลูกค้าของร้าน
            นอกจากนี้ การล้อเลียนสาวประเภทสอง ยังมีให้เห็นตามโทรทัศน์เยอะแยะไป เพราะตนมองว่าสาวประเภทสองคือสัญลักษณ์ของความเฮฮาครื้นเครง ไม่แปลกที่คนจะเลียนแบบ คนที่มีทัศนคติต่ำก็จะคิดว่าเหยียด แต่ถ้าใช้หัวใจมองแล้วคิดให้ดี จะเกิดคำถามว่า แบบนี้คือเหยียดตรงไหน

            สิ่งที่ทางร้านทำนั้น ถือเป็นการแสดง และตนก็เป็นสาวประเภทสอง ที่ตนมาโพสต์ก็เพื่อให้กำลังใจเพื่อนเท่านั้น

            อย่างไรก็ตาม ได้มีการแชร์โพสต์นี้ออกไปเป็นจำนวนมาก และตอบคอมเมนต์ว่า ตุ๊ด-กะเทย ไม่ใช่สัญลักษณ์ของความครื้นเครง ไม่ใช่ตัวตลก ทุกคนถือเป็นคนเหมือนกัน และเพศกะเทยก็เป็นเพศหนึ่งเท่านั้น การที่บอกว่า กะเทยเป็นสัญลักษณ์ของความครื้นเครง เหมือนเป็นการนิยามเอง และสิ่งที่ร้านทำนั้น ก็เหมือนการทำให้คนเป็นสาวประเภทสองเป็นตัวตลก

            ด้านเพจ Gthai movie เกย์เว้ยเฮ้ย ก็ได้เผยว่า ทางเพจก็ไม่โอเคกับสิ่งที่ร้านทำ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ขำ ไม่ใช่การแสดงใด ๆ และทำให้ดูน่าเกลียดเกินจริง คนละอย่างกับมิสทิฟฟานี่หรือคาบาเรต์โชว์ ที่ให้สาวประเภทสองมาแสดง ปล่อยมุกตลก หยอกเย้ากับผู้ชมอย่างมีศิลปะ มีการลิปซิง ร้องเพลง แต่งกายอย่างสร้างสรรค์ แต่ก่อนทางร้านแค่เอาชุดผู้หญิงมาใส่ ถ่ายรูป แต่ตอนนี้เป็นโชว์ล้อกะเทยเต็มรูปแบบ มันล้ำเส้นกันเกินไป