กรมอุตุฯ แถลงยืนยัน 12.45 น. พายุปาบึกขึ้นฝั่งแล้ว ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ด้วยความเร็วลม 75 กม./ชม. และกำลังเคลื่อนตัวไปยัง อ.ท่าศาลา ด้าน ทบ. ส่งเฮลิคอปเตอร์ พร้อมขนชุดรบพิเศษไปช่วยพี่น้องชาวใต้
วันที่ 4 มกราคม 2562 ครอบครัวข่าว 3 รายงานว่า นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
แถลงยืนยันพายุโซนร้อนปาบึก ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งแล้วที่ อ.ปากพนัง
จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 12.45 น. ที่ผ่านมา ด้วยความเร็วลม 75 กม./ชม.
จากนั้นจะเคลื่อนต่อไปยัง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
โดยคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ
จ.นครศรีธรรมราช มีฝนตกหนัก
ด้วยความเร็วของลม 75 กม./ชม. อาจส่งผลกระทบให้หลังคาบ้านเรือนประชาชนพัดปลิว ต้นไม้หักโค่น ประชาชนรูปร่างเล็กไม่ควรอยู่กลางที่แจ้ง ในขณะที่มีลมพายุ เพราะอาจทำให้ไม่สามารถประคองตัวอยู่ได้
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย รายงานว่า กองทัพบก ได้มีคำสั่งจัดอากาศยาน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุปาบึก ประเภท ฮท.17 (Mi17) จำนวน 1 เครื่อง และ ฮท.60 (Blackhawk) อีก 1 เครื่อง ออกจากศูนย์การบินทหารบกลพบุรี ในวันนี้เวลา 15.00 น.
โดยจะมีการส่งชุดปฏิบัติการช่วยชีวิตจากหน่วยรบพิเศษ 13 นาย, ชุด RESCUE
และชุดปฏิบัติการพิเศษทางการแพทย์ (SMOT) จากหน่วยรบพิเศษ
พร้อมด้วยอุปกรณ์ช่วยชีวิต Rescue platform และตะกร้ากู้ภัย
รวมถึงกำลังพลรวมกว่า 30 นาย บินไปยังศูนย์การทหารราบ จ.ประจวบคีรีขันธ์
เพื่อตั้งหน่วยบินกู้ภัยเฉพาะกิจ ซึ่งหากพายุปาบึกมีความรุนแรง
ก็พร้อมส่งกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทันที
ขณะที่ เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam รายงานเพิ่มเติมว่า กำลังของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ และศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี ได้เตรียมความพร้อมในการลงพื้นที่ เพื่อสนับสนุนกำลังเพิ่มเติมทันที หากมีการร้องขอกำลังสนับสนุนเพิ่มเติมอีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก









