x close

ทนายตั้มจ่อฟ้องอัจฉริยะ แม้รักแต่ต้องทำ อีกฝ่ายท้าทันควัน ฟ้องเลยอย่ามัวโม้

          ทนายตั้ม เตรียมฟ้อง นายอัจฉริยะ ฐานทำหลักฐานเท็จ ทำให้เสื่อมเสีย และยังร้องเรียนให้สภาทนายความถอดถอนใบวิชาชีพ เผยอยากให้เลิกพฤติกรรมนี้ ยันยังรักอยู่ ด้านอัจริยะโต้ทันควัน อย่ามัวแต่โม้ พร้อมท้าให้ฟ้อง ไปเจอกันที่ศาล ไม่พูดเยอะ เจ็บคอ !

          จากกรณี นายเศรษฐ์ เดชสุภา อายุ 37 ปี และ น.ส.รักชนก เจริญมากสุข อายุ 42 ปี สองสามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า นายอัจฉริยะ ให้ตำรวจสืบค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ และนำข้อมูลของพวกตนไปเปิดเผยบนสังคมออนไลน์ โดยกรณีนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้ทำหน้าที่เป็นทนายความให้กับทั้งสอง ซึ่งจะมีการแจ้งความในข้อหาทำเอกสารเท็จเพิ่มนั้น (อ่านข่าว : ทนายตั้ม เตรียมเปิดศึกไฟต์ อัจฉริยะ เตรียมแฉทำเป็นขบวนการ สร้างหลักฐานเท็จ)

          ดูเหมือนว่าปัญหาระหว่าง ทนายตั้ม กับ นายอัจริยะ ยังไม่จบสิ้นกันง่าย ๆ เพราะล่าสุดนั้น วันที่ 19 มกราคม 2562 เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ของทนายตั้ม ได้มีการโพสต์ข้อความว่า ในเร็ว ๆ นี้ ตนจะดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ ฐานหมิ่นประมาท รวมทั้งทำพยานหลักฐานเท็จ จนสร้างความเดือดร้อน ซึ่งไม่เป็นความจริง รวมทั้งในเรื่องที่นายอัจฉริยะเข้าไปร้องเรียนที่สภาทนายความ เพื่อให้ถอดถอนตนจากวิชาชีพ สำหรับข้อเท็จจริงนั้น ก่อนหน้านี้ตนรับหน้าที่เป็นทนายความให้ผู้เสียหายรายหนึ่งทั้งหมด 3 คดีด้วยกัน ทั้งแพ่งและอาญา คือ คดีฉ้อโกงที่ค้างอยู่ที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ,คดีรับของโจรผู้เกี่ยวข้องรายอื่นซึ่งยังอยู่ที่พนักงานสอบสวน และติดตามเอาทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายคือ ต่อมามีการยกเลิกสัญญากัน และคืนเงินทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้ว

ทนายตั้ม

          สาเหตุที่ยกเลิกสัญญากัน เป็นเพราะผู้เสียหายต้องการให้เพิ่มกรรมกับจำเลย แต่ไม่สามารถยื่นหลักฐาน หรือขอความเป็นธรรมที่พนักงานอัยการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องได้ เนื่องจากจำเลยให้การสารภาพแล้ว และการติดตามทรัพย์เป็นไปได้ยาก เพราะไม่ได้มีการโอนเงินผ่านทางธนาคาร ตนจึงได้แจ้งลูกความไป และยกเลิกสัญญากันในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ต่อมาลูกความรายนี้ได้เข้าไปพูดคุยกับนายอัจฉริยะ บอกว่าทนายตั้มทำงานไม่สำเร็จ แต่คืนเงินแล้ว และมีคลิปเสียงหลักฐาน แต่นายอัจฉริยะฟังคลิปเสียงโดยไม่ได้ไตร่ตรอง และอาสาช่วยเหลือผู้เสียหายในการติดตามเงินคืน โดยมีเงื่อนไขให้ผู้เสียหายทำตามที่บอก

ทนายตั้ม

          ทนายตั้มกล่าวว่า ผู้เสียหายมารับทราบภายหลังว่าที่นายอัจฉริยะมาทำงานให้ฟรี ๆ นั้น ไม่ได้เพราะต้องการช่วยเรื่องคดี แต่เป็นเพราะต้องการโจมตีตน ผู้เสียหายจึงไปให้การที่กองปราบฯ และที่ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ว่านายอัจฉริยะไม่ได้พูดความจริง ตอนนี้ทางสภาทนายความก็ยกคำร้องข้อกล่าวหาตนแล้ว และทิ้งท้ายว่าตนอยากให้นายอัจฉริยะยุติพฤติกรรมแบบนี้ พร้อมโพสต์ภาพถ่ายคู่กัน และข้อความว่า "ผมยังรักพี่อยู่นะครับ"



          ไม่นานหลังจากนั้น นายอัจฉริยะ ก็ได้โพสต์ข้อความโต้ตอบผ่านทางเฟซบุ๊กชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งโม้" พร้อมท้าให้อีกฝ่ายไปฟ้องร้องตนได้เลย นอกจากนี้แล้ว ยังมีการแปะเอกสารที่จะยื่นอุทธรณ์ คัดค้านคำสั่งประธานกรรมทนายอีกด้วย แต่อุบไว้ ไม่ได้เปิดเผยว่าเรื่องอะไร เพราะไม่อยากพูดเยอะ เจ็บคอ เจอกันที่ศาลเลยทีเดียว

          ความขัดแย้งระหว่าง ทนายตั้ม กับ นายอัจฉริยะ คงไม่มีทางจบลงได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน และก็คงต้องติดตามกันต่อไป

ทนายตั้ม

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทนายตั้มจ่อฟ้องอัจฉริยะ แม้รักแต่ต้องทำ อีกฝ่ายท้าทันควัน ฟ้องเลยอย่ามัวโม้ โพสต์เมื่อ 19 มกราคม 2562 เวลา 17:05:18 10,649 อ่าน
TOP