เผยคำพูดสุดท้าย พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ ก่อนถูกยิงจนมรณภาพ เผยรับรู้ความเคลื่อนไหวโจรใต้ แต่ไม่ยอมทิ้งวัด เพราะเป็นแผ่นดินเกิด ด้านพระมหาไพรวัลย์เผย เป็นยอดพระนักพัฒนา และเป็นที่ศรัทธาของทุกคน
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ กลุ่มโจรใต้กว่า 10 คน บุกกราดยิงถล่มกุฏิพระ ภายในวัดรัตนานุภาพ หรือ วัดโคกโก ในพื้นที่หมู่ 2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส คร่าชีวิตพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี เจ้าอาวาส และพระลูกวัดอีก 2 รูป โดยเหตุร้ายนี้สร้างความตกตะลึง โกรธแค้น และเสียใจไปทั่วประเทศ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่ไปนอนวัดเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้าน รวมทั้งได้สั่งการเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายแล้วนั้น (อ่านข่าว : พระมหาไพรวัลย์ ประณามกลุ่มกราดยิงพระ ก่อการอุกอาจแม้ในเขตอภัยทาน)
![ฆ่าพระสงฆ์]( "ฆ่าพระสงฆ์")
พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดีและเจ้าอาวาสวัดรัตนานุรักษ์ : ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทอง เปิดเผยว่า ตนรู้จักมักคุ้นกับพระครูประโชติฯ เป็นอย่างดี พระครูเคยบอกกับตนว่าถึงจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบ อย่างไรท่านก็ต้องอยู่ที่นี่ เพราะเป็นแผ่นดินบ้านเกิดของท่าน ถ้าจะให้ท่านหนีไปอยู่ที่อื่น ท่านไม่ไป และจะไม่หนีไปไหน อีกสิ่งที่น่ายกย่องคือ พระครูประโชติฯ เป็นพระนักพัฒนา ชาวบ้านคนพุทธต่างมีความศรัทธาในตัวท่านมาก ท่านมีนโยบายหลายอย่าง เช่น การห้ามเล่นการพนันภายในวัดอย่างเด็ดขาด ห้ามดื่มสุรา ทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน
พระมหาไพรวัลย์ เผยอีกว่า พระครูประโชติฯ ทราบดีว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้สอดส่องดูความเคลื่อนไหวของพระในวัดบ่อย ๆ เนื่องจากพระรูปหนึ่งที่รอดชีวิตมาได้ ได้บอกเล่าว่า ตอนที่พระครูประโชติฯ พบเห็นคนร้ายเข้ามาในวัด ยังหันมาพูดว่า "มันมากันอีกแล้ว" ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะกราดยิงด้วยอาวุธสงคราม โดยพวกคนร้ายกลุ่มนี้คงมาดูลาดเลาหลายครั้งแล้ว จนมั่นใจว่าตอนนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ภายในวัด และได้ลงมือก่อเหตุ
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขอให้พระสงฆ์และสามเณรในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ งดเว้นการบิณฑบาตไปก่อน หากใครเคยลงไปในพื้นที่สามจังหวัดมาแล้ว จะทราบดีว่าพระสงฆ์บางวัดไม่สามารถออกบิณฑบาตได้เลย และญาติโยมก็ต้องขอร้องไม่ให้มีการบิณฑบาตเพราะเสี่ยงอันตราย
ทางด้านคณะเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณกุฏิพระที่เกิดเหตุ 2 หลัง ภายในวัดรัตนานุภาพ พบเป็นกุฏิชั้นเดียว สร้างด้วยไม้ยกพื้น พบร่องรอยถูกยิงจนพรุน มีปลอกกระสุนปืนตกกระจายเกลื่อนพื้นเป็นจำนวนมาก และพบคราบเลือดกองบนพื้น โดยกลุ่มคนร้ายได้แฝงตัวเข้ามาในสวนยางพาราบริเวณด้านซ้ายมือของกุฏิ ก่อนยิงถล่มใส่ ส่งผลให้พระประเวศ สุขแก้ว ที่พักอยู่ด้านใน ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ที่บริเวณชายคาของศาลาการเปรียญตรงกับอุโบสถ ฝาผนังด้านข้างก็ถูกยิงเป็นรูพรุนเช่นกัน
พระลูกวัดอีกรูปที่ได้รับบาดเจ็บและรอดชีวิตจากเหตุดังกล่าว เล่าว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุ พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาส รวมทั้งตน และพระลูกวัดอีก 2 รูป รวมเป็น 3 รูป กำลังนั่งฉันน้ำชาอยู่ด้วยกันบริเวณศาลาการเปรียญ ต่อมามีกลุ่มคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 5-6 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดใกล้ ๆ พระครูประโชติฯ ได้หันหลังไปพูดกับพระรูปอื่น ๆ ว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเข้ามาอีกแล้ว ก่อนจะลุกขึ้นสอบถามไปว่า "โยมเข้ามาทำไมในยามวิกาล ทำไมไม่แจ้งให้ทางวัดทราบก่อน" จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ ก่อนจะหลบหนีออกไปทางด้านประตูหน้า โดยชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้วิ่งตามเสียงปืนเข้ามาและพบคนร้าย ทั้งสองฝ่ายยิงโต้ตอบกัน แต่คนร้ายสามารถหลบหนีไปได้
หลังเกิดเหตุ ทางวัดได้จัดพิธีรดน้ำศพพระครูประโชติฯ และพระลูกวัดที่มรณภาพจากเหตุสลดดังกล่าว โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ประชาชนเข้ามาร่วมงานกว่า 4,000 คน และใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น ทางด้านพ่อของพระครูประโชติฯ เปิดเผยว่า ลูกชายได้ตัดสินใจบวชเป็นพระตั้งแต่อายุ 20 ปี และไม่ยอมสึก รวมพรรษาทั้งหมด 26 พรรษา โดยบวชอยู่ที่วัดโคกโกมาตั้งแต่แรก ตั้งแต่ตอนที่วัดยังเป็นเพียงแค่วัดเล็ก ๆ ไม่มีโบสถ์ พระลูกชายได้พัฒนาวัดจนได้รับความศรัทธาจากญาติโยม ตนยอมรับว่ารู้สึกเสียใจมาก และยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ กลุ่มโจรใต้กว่า 10 คน บุกกราดยิงถล่มกุฏิพระ ภายในวัดรัตนานุภาพ หรือ วัดโคกโก ในพื้นที่หมู่ 2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส คร่าชีวิตพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี เจ้าอาวาส และพระลูกวัดอีก 2 รูป โดยเหตุร้ายนี้สร้างความตกตะลึง โกรธแค้น และเสียใจไปทั่วประเทศ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่ไปนอนวัดเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ชาวบ้าน รวมทั้งได้สั่งการเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายแล้วนั้น (อ่านข่าว : พระมหาไพรวัลย์ ประณามกลุ่มกราดยิงพระ ก่อการอุกอาจแม้ในเขตอภัยทาน)
พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดีและเจ้าอาวาสวัดรัตนานุรักษ์ : ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทอง เปิดเผยว่า ตนรู้จักมักคุ้นกับพระครูประโชติฯ เป็นอย่างดี พระครูเคยบอกกับตนว่าถึงจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบ อย่างไรท่านก็ต้องอยู่ที่นี่ เพราะเป็นแผ่นดินบ้านเกิดของท่าน ถ้าจะให้ท่านหนีไปอยู่ที่อื่น ท่านไม่ไป และจะไม่หนีไปไหน อีกสิ่งที่น่ายกย่องคือ พระครูประโชติฯ เป็นพระนักพัฒนา ชาวบ้านคนพุทธต่างมีความศรัทธาในตัวท่านมาก ท่านมีนโยบายหลายอย่าง เช่น การห้ามเล่นการพนันภายในวัดอย่างเด็ดขาด ห้ามดื่มสุรา ทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน
พระมหาไพรวัลย์ เผยอีกว่า พระครูประโชติฯ ทราบดีว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้สอดส่องดูความเคลื่อนไหวของพระในวัดบ่อย ๆ เนื่องจากพระรูปหนึ่งที่รอดชีวิตมาได้ ได้บอกเล่าว่า ตอนที่พระครูประโชติฯ พบเห็นคนร้ายเข้ามาในวัด ยังหันมาพูดว่า "มันมากันอีกแล้ว" ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะกราดยิงด้วยอาวุธสงคราม โดยพวกคนร้ายกลุ่มนี้คงมาดูลาดเลาหลายครั้งแล้ว จนมั่นใจว่าตอนนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ภายในวัด และได้ลงมือก่อเหตุ
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขอให้พระสงฆ์และสามเณรในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ งดเว้นการบิณฑบาตไปก่อน หากใครเคยลงไปในพื้นที่สามจังหวัดมาแล้ว จะทราบดีว่าพระสงฆ์บางวัดไม่สามารถออกบิณฑบาตได้เลย และญาติโยมก็ต้องขอร้องไม่ให้มีการบิณฑบาตเพราะเสี่ยงอันตราย
ทางด้านคณะเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณกุฏิพระที่เกิดเหตุ 2 หลัง ภายในวัดรัตนานุภาพ พบเป็นกุฏิชั้นเดียว สร้างด้วยไม้ยกพื้น พบร่องรอยถูกยิงจนพรุน มีปลอกกระสุนปืนตกกระจายเกลื่อนพื้นเป็นจำนวนมาก และพบคราบเลือดกองบนพื้น โดยกลุ่มคนร้ายได้แฝงตัวเข้ามาในสวนยางพาราบริเวณด้านซ้ายมือของกุฏิ ก่อนยิงถล่มใส่ ส่งผลให้พระประเวศ สุขแก้ว ที่พักอยู่ด้านใน ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ที่บริเวณชายคาของศาลาการเปรียญตรงกับอุโบสถ ฝาผนังด้านข้างก็ถูกยิงเป็นรูพรุนเช่นกัน
พระลูกวัดอีกรูปที่ได้รับบาดเจ็บและรอดชีวิตจากเหตุดังกล่าว เล่าว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุ พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาส รวมทั้งตน และพระลูกวัดอีก 2 รูป รวมเป็น 3 รูป กำลังนั่งฉันน้ำชาอยู่ด้วยกันบริเวณศาลาการเปรียญ ต่อมามีกลุ่มคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 5-6 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดใกล้ ๆ พระครูประโชติฯ ได้หันหลังไปพูดกับพระรูปอื่น ๆ ว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเข้ามาอีกแล้ว ก่อนจะลุกขึ้นสอบถามไปว่า "โยมเข้ามาทำไมในยามวิกาล ทำไมไม่แจ้งให้ทางวัดทราบก่อน" จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ ก่อนจะหลบหนีออกไปทางด้านประตูหน้า โดยชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้วิ่งตามเสียงปืนเข้ามาและพบคนร้าย ทั้งสองฝ่ายยิงโต้ตอบกัน แต่คนร้ายสามารถหลบหนีไปได้
หลังเกิดเหตุ ทางวัดได้จัดพิธีรดน้ำศพพระครูประโชติฯ และพระลูกวัดที่มรณภาพจากเหตุสลดดังกล่าว โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ประชาชนเข้ามาร่วมงานกว่า 4,000 คน และใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น ทางด้านพ่อของพระครูประโชติฯ เปิดเผยว่า ลูกชายได้ตัดสินใจบวชเป็นพระตั้งแต่อายุ 20 ปี และไม่ยอมสึก รวมพรรษาทั้งหมด 26 พรรษา โดยบวชอยู่ที่วัดโคกโกมาตั้งแต่แรก ตั้งแต่ตอนที่วัดยังเป็นเพียงแค่วัดเล็ก ๆ ไม่มีโบสถ์ พระลูกชายได้พัฒนาวัดจนได้รับความศรัทธาจากญาติโยม ตนยอมรับว่ารู้สึกเสียใจมาก และยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
