นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว 14 แฟนพันธุ์แท้ที่ยืมหนังสือและเข้าใช้บริการอุทยานการเรียนรู้สูงสุดในปี 2561 ณ อุทยานการเรียนรู้ TK park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นายกิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ "TK park" หน่วยงานในสังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 14 ปี TK park จึงมีการจัดงานเพื่อประกาศความพร้อมในการสร้างสรรค์สังคมไทยสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ในยุค "Digital Disruption" ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 พร้อมชูแนวคิด "Learning to Learn เรียนรู้ที่จะเรียน" โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนา TK park ให้เป็นอุทยานการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยมีเป้าหมายการดำเนินการเอาไว้ 3 แนวทาง ได้แก่
1. การสร้างสรรค์พื้นที่เรียนรู้ต้นแบบแห่งศตวรรษที่ 21 มุ่งเน้นการสร้างต้นแบบและกิจกรรมการเรียนรู้ด้านนวัตกรรม เพื่อใช้พัฒนาเครือข่ายทั่วประเทศ โดยใช้ศาสตร์ของ Design Thinking & Service Design ให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัลที่เข้ามามีบทบาทสำคัญกับไลฟ์สไตล์ประจำวันเป็นอย่างมาก เพราะแม้ว่าสื่อ หรือนวัตกรรมจะเปลี่ยนแปลงไป แต่การเรียนรู้ไม่มีวันตาย จึงนับเป็นโจทย์ใหญ่เพื่อให้การเรียนรู้เดินหน้าต่อไปอย่างไร้อุปสรรค โดยกิจกรรมนับจากนี้จะสอดคล้องกับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยมุ่งให้ TK park เป็นมากกว่าพื้นที่แห่งการเรียนรู้ สู่การเป็นต้นแบบของการแก้ปัญหาโดยใช้มนุษย์เป็นศูนย์กลางผ่านโครงการ Solution Lab ที่จะช่วยประสานความร่วมมือและสร้างแนวคิดเพื่อแก้ปัญหาในสังคม
2. การสร้างความตื่นตัวในการเรียนรู้ คิดเป็น และทำเป็นให้ขยายไปทั่วประเทศ ซึ่งตามแผนของเราในปี พ.ศ. 2562 จะมีการเปิดบริการอุทยานการเรียนรู้เครือข่ายใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ อุทยานการเรียนรู้ศรีสะเกษ และอุทยานการเรียนรู้นราธิวาส มีความร่วมมือกับท้องถิ่นในการสนับสนุนการก่อตั้งอุทยานการเรียนรู้สุราษฎ์ธานี อุทยานการเรียนรู้บุรีรัมย์ และอุทยานการเรียนรู้เบตง ซึ่งการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ในภูมิภาค จะมีการพัฒนาการเชื่อมต่อ การดูแลคุณภาพ ประสิทธิภาพ โดยใช้ Digital Technology และการสร้าง Innovation Capacity ให้เครือข่ายสามารถสร้างนวัตกรรมทางการให้บริการพร้อมเน้นพัฒนาฟังก์ชันและฐานข้อมูล TK Public Online Library เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการการเรียนรู้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งในส่วนของ TK Application ที่ได้รวบรวมหนังสือเสียง นิทานภาพ และหนังสือที่อ่านสนุกเป็นภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียงพากย์ และเกมต่าง ๆ
3. การสร้างแนวร่วมและเครือข่ายการอ่านการเรียนรู้ทุกภาคส่วนให้เข้มแข็ง ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย และกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยในปีนี้ กิจกรรมเด่น ได้แก่ TK Forum งานเสวนาวิชาการนานาชาติ ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนนี้ ในหัวข้อเกี่ยวกับการออกแบบพื้นที่เรียนรู้แห่งอนาคต รวมถึงโครงการแนะให้แนว ที่จะจัดในช่วงเดือนมิถุนายน เป็นกิจกรรมที่จะช่วยให้เยาวชนค้นหาตนเองก่อนการเลือกเส้นทางการเรียนในอนาคต และทีเคแจ้งเกิด กิจกรรมบ่มเพาะเยาวชนที่สนใจในสายดนตรีและนักเขียนเพื่อเรียนรู้และสร้างสมประสบการณ์และทักษะในวิชาชีพนั้น ๆ
“ภาพรวมของอุทยานการเรียนรู้ TK park การเรียนรู้ตลอดชีวิตยังคงเป็นปัจจัยหลักของการทำงาน แต่เราจะลงลึกไปทางด้านการเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ทั้งทางด้านความรู้ ทักษะและการคิดที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในอนาคตสำหรับทุกช่วงวัย ซึ่งปัจจุบันมีแพลตฟอร์มและช่องทางการสื่อสารใหม่ ๆ ที่มีผลต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ของคนเรา แน่นอนว่าในยุคสมัยนี้ เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พฤติกรรมการเรียนรู้ผ่านการอ่านหนังสือ หรือสื่อสิ่งพิมพ์เริ่มลดลง คนหันมาเสพสื่อผ่านสมาร์ตโฟน หรือช่องทางการอ่านออนไลน์กันมากขึ้น แต่กระนั้นผมมองว่าการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมันจะต้องสามารถประสานรวมองค์ความรู้จากสื่อที่หลากหลายทั้งดิจิทัลและอนาล็อก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ฉะนั้นหัวใจของการเรียนรู้ในยุคนี้ก็คือ การรู้จักวิธีการเรียนรู้และวิธีการคิด และนำกลับมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเราได้ดีที่สุดมากกว่าครับ” ผอ.อุทยานการเรียนรู้ TK park กล่าว
นอกจากนี้นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวเสริมว่า เป้าหมายสำหรับการทำงานของ TKpark แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจะเริ่มจากเรื่องการส่งเสริมทักษะและความรู้ให้กับบุคลากรขององค์กร ให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกันของคนในองค์กร รวมทั้งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพื่อให้ตอบโจทย์สังคมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับปรุงพื้นที่การอ่านของ TK park ชั้น 8 ในคอนเซ็ปต์ใหม่ Urban Living Room ที่ผสมผสานพื้นที่การอ่านในหลายมิติ ทั้งการเรียนรู้ด้วยตนเอง และการแบ่งปันพื้นที่เพื่อพบปะสังสรรค์ เรียนรู้ และทำงานร่วมกัน (Think-Pair-Share) คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ และช่วงต่อมาคือการหาพื้นที่ถาวรเพื่อยกระดับให้ TK park เป็นพื้นที่เรียนรู้ที่อยู่คู่สังคมไทย
โดยเป้าหมายในอีก 3 ปี คือ การทำให้ TK park เป็นผู้นำในการแก้ปัญหาด้วยความคิดสร้างสรรค์ผ่าน Solution Lab และสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศในอาเซียน ทั้งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ วิทยากร นวัตกรรม ผ่านกิจกรรมสัมมนา เสวนานานาชาติ ประชุมวิชาการ หรือแลกเปลี่ยนคณะทำงาน เพื่อจะได้แบ่งปันความรู้สำหรับการเตรียมพร้อมประชากรสู่ศตวรรษหน้าต่อไป
ผู้อำนวยการ TK park คนใหม่ ระบุอีกว่า สำหรับในช่วงวันที่ 24-27 มกราคม 2562 TK park มอบโปรโมชั่นสมัครฟรีฉลอง 14 ปี เพียงแสดงแอปพลิเคชัน TK Online Library ก็สามารถรับคูปองสมัครสมาชิก 1 ปี ทันที ส่วนสมาชิกปัจจุปัน หรือผู้ที่มีบัตรสมาชิกอายุไม่เกิน 6 เดือน สามารถต่ออายุสมาชิก TK park ฟรีทันที (เพียงแสดงบัตรประชาชนของตนเอง เพื่อรับโปรโมชั่นนี้ 1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์เท่านั้น)
ทั้งนี้ อุทยานการเรียนรู้ TK park เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดให้บริการครั้งแรกในวันที่ 24 มกราคม 2548 ช่วง 14 ปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าใช้บริการแล้วกว่า 6 ล้านคน มีการยืม-คืนหนังสือและสื่อการเรียนรู้ ประมาณ 4 แสนครั้งต่อปี ล่าสุดได้ขยายเครือข่ายอุทยานการเรียนรู้เต็มรูปแบบ จำนวน 25 แห่ง ในพื้นที่ 19 จังหวัด เครือข่ายแหล่งเรียนรู้ชุมชน Mini TK จำนวน 20 แห่ง และผนึกกำลังกับ 7 หน่วยงานภาคี นำร่องสร้างสรรค์เครือข่ายศูนย์เรียนรู้ใกล้บ้าน 202 แห่ง มุ่งลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ สนับสนุนกระบวนการเรียนรู้สาธารณะ มุ่งเพิ่มทักษะในการเรียนรู้ด้วยตนเองของเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป อันจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพชุมชนอย่างยั่งยืน
สำหรับประวัติของ นายกิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ TK park ใหม่นั้น สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สถาปัตยกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA) และด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบเมือง จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากกลับมาประเทศไทยได้เข้าทำงานเป็นอาจารย์สอนสาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เป็นเวลา 5 ปี ก่อนจะเข้ามาร่วมงานกับศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ในปี พ.ศ. 2548
โดยก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ "TK park" ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562 เคยดำรงตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อเดิม ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในด้านบริหารงานออกแบบและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548
และดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาการออกแบบและธุรกิจสร้างสรรค์ รองผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ และรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยมีส่วนผลักดันในการกำหนดทิศทาง วางแผน และจัดทำระบบการดำเนินงานสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่บุกเบิกธุรกิจในรูปแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐที่สำคัญ
ผลงานที่ผ่านมา ได้แก่ การร่วมบริหาร และศึกษาโครงการจัดตั้งศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ไปรษณีย์กลางศูนย์สร้างสรรค์ งานออกแบบเชียงใหม่และขอนแก่น รวมทั้ง TCDC COMMONS สาขาสามย่าน และ W District นอกจากนี้ยังเป็นกรรมการบริหารโครงการ University Creative Counsel Network: Innovation Hub ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อสร้างให้เกิดเครือข่ายการใช้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในส่วนภาคงานศึกษาและวิจัย รวมทั้งการร่วมกับ สพฐ. ในการพัฒนาหลักสูตรการใช้ Design Thinking ในการเรียนการสอนแบบ STEM






