คืบสาวประเภทสองผูกคอดับกลางวัดป่า จ.บึงกาฬ ญาติเชื่อไม่ใช่แขวนคอ คาดจัดฉากอำพรางศพ ด้านลูกชายพระเผย ผู้ตายคิดไปเองว่าตนชอบ ชี้ก่อนเกิดเหตุถูกดักเจอ ก่อนโดนทำร้าย-กัดหู
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีชวนสะพรึง กับเหตุการณ์ที่ นายเก่ง อายุ 28 ปี สาวประเภทสอง ผูกคอตาย อยู่ภายในศาลาวัดแห่งหนึ่ง ใน ต.บัวตูม จ.บึงกาฬ โดยพบว่าผู้ตายแอบชอบลูกของพระในวัด แต่ก่อนเกิดเหตุได้มีการกระทบกระทั่งจนอีกฝ่ายรุมทำร้ายร่างกาย ก่อนผู้ตายจะโพสต์เฟซบุ๊กว่าให้มาเก็บศพตนเองที่วัด และถูกพบอีกครั้งในสภาพผูกคอตายดังกล่าวนั้น (อ่านข่าว : สะพรึง สาวสองผูกคอดับปริศนา กลางศาลาวัดดังบึงกาฬ ญาติไม่เชื่อฆ่าตัวตาย)
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 28 มกราคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ได้สอบถาม นางพลอย (นามสมมติ) อายุ 48 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานอยู่ที่เกาหลีใต้ โดยตนเคยเห็นลูกโพสต์ทำนองว่า มีพระรังแกและคนพยายามทำร้ายร่างกาย ล่าสุดเมื่อเห็นลูกโพสต์ให้มาเก็บศพที่วัดด้วย จึงเป็นห่วง และให้ญาติที่ไทยเดินทางไปที่วัด จึงพบว่าลูกผูกคอตาย คาดว่าลูกรู้อยู่แล้วว่าการเข้าวัดครั้งดังกล่าวจะไม่ได้ออกมาอีก
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ตนจึงเป็นห่วงว่าวันหนึ่งลูกจะถูกทำร้าย ที่ผ่านมาตนเคยเตือนลูกว่าอย่าไปยุ่งกับ นายตี๋ (หลานของพระ) แต่ลูกก็ไม่ฟัง บอกเพียงว่า "เพราะรักเขา ต้องการไปหาเขา" โดยตนยังไม่เคยเจอนายตี๋ แต่เคยเห็นหน้าระหว่างการวิดีโอคอลพูดคุยกับลูกชายตนในบางครั้ง และทราบว่าเด็กทั้งสองคนมีความสัมพันธ์แบบลึกซึ้ง และถูกกีดกันจากเจ้าอาวาส โดยตนเชื่อว่าการตายครั้งนี้เป็นการจัดฉากจากคนบางกลุ่ม
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะที่ นายปิง (นามสมมติ) อายุ 49 ปี อาของผู้ตาย เผยว่า หลังจากหลานโพสต์ให้เก็บศพ ตนได้ประสานจะเข้าวัดแต่ถูกกีดกันอย่างไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาเมื่อได้เข้าวัด พบจุดผิดสังเกตคือ เชือกที่ศพมีลักษณะผูกเหมือนมัดสิ่งของ ไม่ได้มีลักษณะทำเป็นบ่วงเพื่อใช้แขวนคอ ส่วนสภาพศพก็ไม่มีลิ้นจุกปาก รวมถึงจุดเกิดเหตุก็ไม่ได้มีสิ่งของที่ใช้เหยียบขึ้นไปผูกคอตาย มีเพียงหมอนสามเหลี่ยมเท่านั้น โดยพบว่ามีรอยเลือดอยู่ในบริเวณข้างห้องน้ำ ตนเชื่อว่าอาจเกิดการทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะนำไปอำพรางศพ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน นายตี๋ (นามสมมติ) คนสนิทของนายเก่ง กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตนและนายเก่งนั้นไม่มีอะไรเกินเลย ตนเลิกคุยกับนายเก่งมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่นายเก่งมักคิดไปเอง วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.00 น. นายเก่งมาดักซุ่มรอตนอยู่บริเวณต้นไม้หน้าห้องน้ำ ใกล้กับอาคารนอน โดยมีการโต้เถียงประเด็นที่ตนไม่คุยและรับสายนายเก๋ง ก่อนจะมีการทำร้ายร่างกายกัน โดยนายเก่งใช้ไม้กวาดที่อยู่ข้างห้องน้ำทุบทำร้ายร่างกายตนที่มือด้านซ้าย รวมทั้งยังกัดหูตนเป็นแผลลึก ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจแต่ไม่ถึงขั้นร้องไห้ และไม่มีอะไรฝากไปบอกอะไรกับครอบครัวคนตาย
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะเดียวกัน พระครูวรวงศ์วิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดซำบอน (สิริธรรมมาราม) กล่าวว่า วันเกิดเหตุได้เข้าไประงับเหตุขณะที่นายตี๋และนายเก่งทะเลาะกัน ยืนยันว่าพระและลูกศิษย์วัดที่เข้าไประงับเหตุนั้น ไม่ได้ทำร้ายร่างกายนายเก่งแต่อย่างใด ส่วนที่นายเก่งโพสต์ให้มารับศพไม่ทราบว่าเป็นการสร้างกระแสกับเพื่อนกลุ่มสาวประเภทสองด้วยกันหรือไม่ และตนก็ไม่ได้เจตนาที่จะปิดวัดเพื่อไม่ให้ใครเข้ามายุ่ง หรือต้องการซ่อนเร้นอำพรางศพ แต่ด้วยความเป็นวัดป่า จึงทำให้ต้องมีเวลาเปิด-ปิดเพื่อดูแลความปลอดภัยเท่านั้น
พระครูวรวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่ได้กีดกันหรือขัดขวางความสัมพันธ์ของนายตี๋ กับ นายเก่ง เพียงแต่ต้องการให้มีสถานะเป็นพี่น้องกันเท่านั้น ช่วงหนึ่งเคยสั่งห้ามไม่ให้นายตี๋รับโทรศัพท์ หรือตอบแชตกับนายเก่ง เพราะต้องการให้ยุติความสัมพันธ์ที่เกินเลย ยืนยันว่าไม่มีส่วนกับการเสียชีวิตของนายเก่ง และทุกครั้งที่สาวประเภทสองคนนี้ต้องการความช่วยเหลือ ตนก็จะช่วยทุกเรื่อง
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบแชตล่าสุดที่ผู้ตายส่งไปหาฝ่ายชาย ในวันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม เวลา 17.58 น. ก่อนที่จะไปที่วัด ระบุข้อความว่า "คิดถึงมาก" จากนั้น เวลา 20.34 น. ผู้ตายออกจากวัด จึงส่งข้อความส่วนตัวให้นายตี๋อีกครั้งว่า "สิ่งที่เธอมองข้าม ความรักที่ให้ สิ่งที่เก็บไว้ คือ อะไร กูจะจบเอง เพราะมึงทำให้กูรัก" ก่อนจะโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า "เก็บศพด้วย วัดซำบอน"
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีชวนสะพรึง กับเหตุการณ์ที่ นายเก่ง อายุ 28 ปี สาวประเภทสอง ผูกคอตาย อยู่ภายในศาลาวัดแห่งหนึ่ง ใน ต.บัวตูม จ.บึงกาฬ โดยพบว่าผู้ตายแอบชอบลูกของพระในวัด แต่ก่อนเกิดเหตุได้มีการกระทบกระทั่งจนอีกฝ่ายรุมทำร้ายร่างกาย ก่อนผู้ตายจะโพสต์เฟซบุ๊กว่าให้มาเก็บศพตนเองที่วัด และถูกพบอีกครั้งในสภาพผูกคอตายดังกล่าวนั้น (อ่านข่าว : สะพรึง สาวสองผูกคอดับปริศนา กลางศาลาวัดดังบึงกาฬ ญาติไม่เชื่อฆ่าตัวตาย)
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 28 มกราคม 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ได้สอบถาม นางพลอย (นามสมมติ) อายุ 48 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานอยู่ที่เกาหลีใต้ โดยตนเคยเห็นลูกโพสต์ทำนองว่า มีพระรังแกและคนพยายามทำร้ายร่างกาย ล่าสุดเมื่อเห็นลูกโพสต์ให้มาเก็บศพที่วัดด้วย จึงเป็นห่วง และให้ญาติที่ไทยเดินทางไปที่วัด จึงพบว่าลูกผูกคอตาย คาดว่าลูกรู้อยู่แล้วว่าการเข้าวัดครั้งดังกล่าวจะไม่ได้ออกมาอีก
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ตนจึงเป็นห่วงว่าวันหนึ่งลูกจะถูกทำร้าย ที่ผ่านมาตนเคยเตือนลูกว่าอย่าไปยุ่งกับ นายตี๋ (หลานของพระ) แต่ลูกก็ไม่ฟัง บอกเพียงว่า "เพราะรักเขา ต้องการไปหาเขา" โดยตนยังไม่เคยเจอนายตี๋ แต่เคยเห็นหน้าระหว่างการวิดีโอคอลพูดคุยกับลูกชายตนในบางครั้ง และทราบว่าเด็กทั้งสองคนมีความสัมพันธ์แบบลึกซึ้ง และถูกกีดกันจากเจ้าอาวาส โดยตนเชื่อว่าการตายครั้งนี้เป็นการจัดฉากจากคนบางกลุ่ม
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะที่ นายปิง (นามสมมติ) อายุ 49 ปี อาของผู้ตาย เผยว่า หลังจากหลานโพสต์ให้เก็บศพ ตนได้ประสานจะเข้าวัดแต่ถูกกีดกันอย่างไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาเมื่อได้เข้าวัด พบจุดผิดสังเกตคือ เชือกที่ศพมีลักษณะผูกเหมือนมัดสิ่งของ ไม่ได้มีลักษณะทำเป็นบ่วงเพื่อใช้แขวนคอ ส่วนสภาพศพก็ไม่มีลิ้นจุกปาก รวมถึงจุดเกิดเหตุก็ไม่ได้มีสิ่งของที่ใช้เหยียบขึ้นไปผูกคอตาย มีเพียงหมอนสามเหลี่ยมเท่านั้น โดยพบว่ามีรอยเลือดอยู่ในบริเวณข้างห้องน้ำ ตนเชื่อว่าอาจเกิดการทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะนำไปอำพรางศพ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน นายตี๋ (นามสมมติ) คนสนิทของนายเก่ง กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างตนและนายเก่งนั้นไม่มีอะไรเกินเลย ตนเลิกคุยกับนายเก่งมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่นายเก่งมักคิดไปเอง วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.00 น. นายเก่งมาดักซุ่มรอตนอยู่บริเวณต้นไม้หน้าห้องน้ำ ใกล้กับอาคารนอน โดยมีการโต้เถียงประเด็นที่ตนไม่คุยและรับสายนายเก๋ง ก่อนจะมีการทำร้ายร่างกายกัน โดยนายเก่งใช้ไม้กวาดที่อยู่ข้างห้องน้ำทุบทำร้ายร่างกายตนที่มือด้านซ้าย รวมทั้งยังกัดหูตนเป็นแผลลึก ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจแต่ไม่ถึงขั้นร้องไห้ และไม่มีอะไรฝากไปบอกอะไรกับครอบครัวคนตาย
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะเดียวกัน พระครูวรวงศ์วิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดซำบอน (สิริธรรมมาราม) กล่าวว่า วันเกิดเหตุได้เข้าไประงับเหตุขณะที่นายตี๋และนายเก่งทะเลาะกัน ยืนยันว่าพระและลูกศิษย์วัดที่เข้าไประงับเหตุนั้น ไม่ได้ทำร้ายร่างกายนายเก่งแต่อย่างใด ส่วนที่นายเก่งโพสต์ให้มารับศพไม่ทราบว่าเป็นการสร้างกระแสกับเพื่อนกลุ่มสาวประเภทสองด้วยกันหรือไม่ และตนก็ไม่ได้เจตนาที่จะปิดวัดเพื่อไม่ให้ใครเข้ามายุ่ง หรือต้องการซ่อนเร้นอำพรางศพ แต่ด้วยความเป็นวัดป่า จึงทำให้ต้องมีเวลาเปิด-ปิดเพื่อดูแลความปลอดภัยเท่านั้น
พระครูวรวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่ได้กีดกันหรือขัดขวางความสัมพันธ์ของนายตี๋ กับ นายเก่ง เพียงแต่ต้องการให้มีสถานะเป็นพี่น้องกันเท่านั้น ช่วงหนึ่งเคยสั่งห้ามไม่ให้นายตี๋รับโทรศัพท์ หรือตอบแชตกับนายเก่ง เพราะต้องการให้ยุติความสัมพันธ์ที่เกินเลย ยืนยันว่าไม่มีส่วนกับการเสียชีวิตของนายเก่ง และทุกครั้งที่สาวประเภทสองคนนี้ต้องการความช่วยเหลือ ตนก็จะช่วยทุกเรื่อง
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบแชตล่าสุดที่ผู้ตายส่งไปหาฝ่ายชาย ในวันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม เวลา 17.58 น. ก่อนที่จะไปที่วัด ระบุข้อความว่า "คิดถึงมาก" จากนั้น เวลา 20.34 น. ผู้ตายออกจากวัด จึงส่งข้อความส่วนตัวให้นายตี๋อีกครั้งว่า "สิ่งที่เธอมองข้าม ความรักที่ให้ สิ่งที่เก็บไว้ คือ อะไร กูจะจบเอง เพราะมึงทำให้กูรัก" ก่อนจะโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า "เก็บศพด้วย วัดซำบอน"