คนสนิท ธิติ ตัณฑวณิช เผยลางบอกเหตุก่อนเจ้าตัวตัดสินใจจบชีวิต เงียบขรึม พูดจาน้อยลง คาดสาเหตุเลือกจากไปเกิดจากพิษเศรษฐกิจ หลังเหตุการณ์เรือฟีนิกซ์ล่ม ทำธุรกิจทัวร์ซบเซา
กรณีการจบชีวิตของ นายธิติ ตัณฑวณิช นักธุรกิจทายาทรุ่นที่ 6 ของบ้านพระพิทักษ์ชินประชา (ตัณฑวณิช) และเป็นผู้บริหารเรือยอชต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึงเป็นผู้อำนวยการ บริษัท ซีเอ็กซ์เคอร์ชั่น ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และประธานชมรมเครือข่ายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย (สบท.) ซึ่งทางครอบครัวยังคงช็อกกับการจากไป แต่ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิต ตามที่รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : ครอบครัวยังช็อก ธิติ ตัณฑวณิช นักธุรกิจใหญ่ผูกคอดับ สลด..เพิ่งโพสต์ทำบุญวันเกิด)
ล่าสุด (31 มกราคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานสัมภาษณ์ นายปรีชาวุฒิ กรี่สิ้น หรือ ปราบ ประธานบริษัทในเครือพิโซน่า คนสนิทของนายธิติ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายธิติมา 10 ปีแล้ว เพราะนายธิติเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของคนภูเก็ต เขาเป็นคนภูเก็ตโดยกำเนิด และเป็นทายาทบ้านชินประชา ซึ่งเป็นบ้านแนวชิโนโปรตุกีสหลังแรกใน จ.ภูเก็ต โดยตนเพิ่งมีโอกาสได้ร่วมงานกับนายธิติได้ 4 เดือน เนื่องจากเขามาสมัครเป็นนักการตลาดของบริษัทในเครือ รับหน้าที่วางแผนงานและดูแลการตลาดเกือบทั้งหมด
ส่วนตัวตนมองว่านายธิติเป็นคนอบอุ่น อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส สุภาพ เป็นแฟมิลี่แมน และเป็นคนชอบถ่ายรูป แต่เวลาทำงานเขาเป็นคนจริงจัง เต็มร้อย มีความเป็นมืออาชีพ อีกทั้งยังเป็นคนมีจิตสาธารณะชอบช่วยเหลือผู้อื่น ตนคิดว่าสาเหตุที่นายธิติเลือกจบชีวิตตัวเอง น่าจะเป็นผลพวงจากเศรษฐกิจตั้งแต่เกิดเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม เพราะทำให้ทัวร์จีนลดลง และอุทยานฯ ก็จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวด้วย ทำให้ธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยวซบเซาลง ถือเป็นปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบกับธุรกิจอย่างหนัก
ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนหยุดชะงัก เกิดความไม่มั่นใจในการท่องเที่ยวทางทะเล และมีการยกเลิกทัวร์ไปจำนวนมาก แต่นายธิติก็มักให้กำลังใจลูกน้องและคนรอบข้างอยู่เสมอ แม้ว่าตัวเองจะซีเรียสมากขนาดไหนก็มักจะเก็บความรู้สึกไว้ในใจ และแสดงสปิริตให้คนรอบข้างได้เห็น
เมื่อถามถึงลางก่อนเกิดเหตุ นายปรีชาวุฒิ เผยว่า ช่วง 1-2 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ นายธิติไม่ค่อยเข้ามาที่ออฟฟิศ โดยจะบอกกับลูกน้องว่าป่วย และเริ่มพูดจาน้อยลง ซึ่งตนก็เป็นห่วง คอยทักไปถามไถ่อยู่ตลอด กระทั่งทราบว่านายธิติตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแบบนี้ ตนรู้สึกช็อกและเศร้ามาก และอยากเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของนายธิติ พร้อมฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคนว่า ปัญหาทุกอย่างบนโลกนี้สามารถแก้ไขได้เสมอ ขอให้ตั้งสติและคิดถึงอนาตตให้มาก ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
กรณีการจบชีวิตของ นายธิติ ตัณฑวณิช นักธุรกิจทายาทรุ่นที่ 6 ของบ้านพระพิทักษ์ชินประชา (ตัณฑวณิช) และเป็นผู้บริหารเรือยอชต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึงเป็นผู้อำนวยการ บริษัท ซีเอ็กซ์เคอร์ชั่น ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และประธานชมรมเครือข่ายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย (สบท.) ซึ่งทางครอบครัวยังคงช็อกกับการจากไป แต่ไม่ได้ติดใจการเสียชีวิต ตามที่รายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : ครอบครัวยังช็อก ธิติ ตัณฑวณิช นักธุรกิจใหญ่ผูกคอดับ สลด..เพิ่งโพสต์ทำบุญวันเกิด)
ล่าสุด (31 มกราคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานสัมภาษณ์ นายปรีชาวุฒิ กรี่สิ้น หรือ ปราบ ประธานบริษัทในเครือพิโซน่า คนสนิทของนายธิติ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายธิติมา 10 ปีแล้ว เพราะนายธิติเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของคนภูเก็ต เขาเป็นคนภูเก็ตโดยกำเนิด และเป็นทายาทบ้านชินประชา ซึ่งเป็นบ้านแนวชิโนโปรตุกีสหลังแรกใน จ.ภูเก็ต โดยตนเพิ่งมีโอกาสได้ร่วมงานกับนายธิติได้ 4 เดือน เนื่องจากเขามาสมัครเป็นนักการตลาดของบริษัทในเครือ รับหน้าที่วางแผนงานและดูแลการตลาดเกือบทั้งหมด
ส่วนตัวตนมองว่านายธิติเป็นคนอบอุ่น อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส สุภาพ เป็นแฟมิลี่แมน และเป็นคนชอบถ่ายรูป แต่เวลาทำงานเขาเป็นคนจริงจัง เต็มร้อย มีความเป็นมืออาชีพ อีกทั้งยังเป็นคนมีจิตสาธารณะชอบช่วยเหลือผู้อื่น ตนคิดว่าสาเหตุที่นายธิติเลือกจบชีวิตตัวเอง น่าจะเป็นผลพวงจากเศรษฐกิจตั้งแต่เกิดเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม เพราะทำให้ทัวร์จีนลดลง และอุทยานฯ ก็จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวด้วย ทำให้ธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยวซบเซาลง ถือเป็นปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบกับธุรกิจอย่างหนัก
ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนหยุดชะงัก เกิดความไม่มั่นใจในการท่องเที่ยวทางทะเล และมีการยกเลิกทัวร์ไปจำนวนมาก แต่นายธิติก็มักให้กำลังใจลูกน้องและคนรอบข้างอยู่เสมอ แม้ว่าตัวเองจะซีเรียสมากขนาดไหนก็มักจะเก็บความรู้สึกไว้ในใจ และแสดงสปิริตให้คนรอบข้างได้เห็น
เมื่อถามถึงลางก่อนเกิดเหตุ นายปรีชาวุฒิ เผยว่า ช่วง 1-2 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ นายธิติไม่ค่อยเข้ามาที่ออฟฟิศ โดยจะบอกกับลูกน้องว่าป่วย และเริ่มพูดจาน้อยลง ซึ่งตนก็เป็นห่วง คอยทักไปถามไถ่อยู่ตลอด กระทั่งทราบว่านายธิติตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแบบนี้ ตนรู้สึกช็อกและเศร้ามาก และอยากเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของนายธิติ พร้อมฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคนว่า ปัญหาทุกอย่างบนโลกนี้สามารถแก้ไขได้เสมอ ขอให้ตั้งสติและคิดถึงอนาตตให้มาก ๆ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
