ญาติ ธิติ ตัณฑวณิช เผยครั้งแรก รู้สึกช็อกและเสียใจมาก ไม่คิดว่าจะเลือกคิดสั้นแบบนี้ เผยก่อนตัดสินใจลาโลก ได้มายืมเงินก้อนไปจ่ายเงินเดือนพนักงาน
กระทั่งล่าสุด วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นางจรูญรัตน์ ตัณฑวณิช ลูกสะใภ้เจ้าของบ้านชินประชา และมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายธิติ เผยว่า บ้านชินประชา เกี่ยวข้องกับนายธิติแค่ในเชิงธุรกิจ โดยนายธิติ มักจะนำทัวร์เข้ามาเยี่ยมชมที่บ้านชินประชา ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้ของเด็ก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ของจังหวัดภูเก็ต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thiti Tandavanitj
จากกรณี นายธิติ ตัณฑวณิช นักธุรกิจทายาทรุ่นที่ 6
ของบ้านพระพิทักษ์ชินประชา (ตัณฑวณิช)
และเป็นผู้บริหารเรือยอชต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึงเป็นผู้อำนวยการ
บริษัท ซี เอ็กซ์เคอร์ชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
และประธานชมรมเครือข่ายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย (สบท.)
ตัดสินใจจบชีวิตลงภายในบ้านพัก เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา
สร้างความเศร้าและสะเทือนใจให้กับทางครอบครัวเป็นอย่างมาก
ซึ่งก่อนหน้านี้ทางญาติยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ
กระทั่งล่าสุด วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นางจรูญรัตน์ ตัณฑวณิช ลูกสะใภ้เจ้าของบ้านชินประชา และมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายธิติ เผยว่า บ้านชินประชา เกี่ยวข้องกับนายธิติแค่ในเชิงธุรกิจ โดยนายธิติ มักจะนำทัวร์เข้ามาเยี่ยมชมที่บ้านชินประชา ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้ของเด็ก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ของจังหวัดภูเก็ต
โดย
พระพิทักษ์ ชินประชา คุณปู่ เป็นผู้สร้างบ้านทั้ง 2 หลัง ได้แก่
บ้านชินประชา มอบให้กับลูกชายคนโต คือ ขุนชินสถานพิทักษ์
ซึ่งเป็นพ่อของสามีนางจรูญรัตน์ ส่วนบ้านพระพิทักษ์ชินประชา ที่อยู่ติดกัน
มอบให้กับ สิทธิ์ ตัณฑวณิช ซึ่งเป็นพ่อของนายธิติ
ด้วยความที่บ้านอยู่ติดกัน ตั้งแต่เด็ก หลังเลิกเรียน นายธิติก็จะเข้ามาที่บ้านชินประชา มาเล่น มากินข้าวด้วยกัน
กระทั่งแต่งงานมีครอบครัว ก็เริ่มห่างกัน แต่นายธิติก็ยังมาที่บ้านชินประชาตลอดเวลาพาลูกทัวร์มา
ภาพจาก amarintv.com
นางจรูญรัตน์ เผยว่า
เรื่องปัญหาส่วนตัวหรือเรื่องธุรกิจของนายธิติ ตนไม่ค่อยทราบ
เนื่องจากเขาไม่ค่อยเล่าหรือมาปรึกษาอะไร
แต่เมื่อช่วงครึ่งเดือนก่อนที่เขาจะตัดสินใจจบชีวิต
นายธิติได้มาขอยืมเงินก้อนหนึ่ง เพื่อนำไปจ่ายเงินเดือนแก่พนักงาน
แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งมาทราบข่าว ก็รู้สึกช็อก
และเสียใจมากที่นายธิติเลือกคิดสั้นจากไปเช่นนี้
ซึ่งส่งผลกระทบตามมามากมาย แต่หากคิดในมุมเขา คงจะถึงทางตันแล้ว
ก็ขออโหสิกรรมให้ และขอให้เขาได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี