ทนายความชาวไนจีเรีย-อังกฤษ ก่อเหตุฆาตกรรมสามี ใช้กระทะทุบหัว แทงจนตาย ก่อนตัดเจ้าโลกยัดใส่มือศพสามี เผยระแคะระคายว่าอีกฝ่ายมีเมียน้อย แต่ไม่ยอมรับ แถมทะเบียนสมรสหายปริศนา จึงโกรธจัด
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า ยูเดเม โอทิเก-โอดิบี ทนายความชาวไนจีเรีย วัย 48 ปี ก่อเหตุฆาตกรรม ซิมโฟโรซา โอทิเก-โอดิบี สามีวัย 50 ปี ของเธอ อย่างโหดเหี้ยม หลังจากระแคะระคายว่าเขาแอบนอกใจเธอไปมีผู้หญิงคนอื่น โดยยูเดเมใช้มีดกระหน่ำแทงร่างของสามีไม่ยั้ง ก่อนจะตัดอวัยวะเพศของเขาทิ้ง และนำมายัดใส่ไว้ในมือของเขา ยูเดเมบอกกับศพสามีว่า ต้นเหตุของทุกอย่างคือสิ่งนี้ มันทำให้เขานอกลู่นอกทางไปทำความผิด ดังนั้นการตัดมันทิ้ง จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว
เหตุการณ์สยองขวัญดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านของครอบครัว ตั้งอยู่ในย่านซานโกเตโด เมืองเลกกี รัฐลากอส ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรีย โดยข้อมูลจากเวนการ์ดไนจีเรีย ระบุว่า สามีภรรยาคู่นี้เป็นครอบครัวนักกฎหมาย ซิมโฟโรซาเองก็ประกอบอาชีพทนายความเช่นเดียวกันกับภรรยา
ในช่วงหลัง ๆ ของการแต่งงาน ความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อนข้างระหองระแหง เนื่องจากยูเดเมระแคะระคายว่า สามีแอบนอกใจไปมีเมียน้อย เมื่อเธอถามเขาตรง ๆ เพื่อจะคุยกันให้รู้เรื่อง เขาก็บ่ายเบี่ยงทุกครั้ง อ้างว่ามันไม่เป็นความจริง และเธอคิดมากไปเองจนเข้าใจผิด จนทำให้เรื่องนี้คาราคาซังมาโดยตลอด
กระทั่งวันที่ 2 พฤษภาคม ปีที่แล้ว ยูเดเมได้จัดเตรียมข้าวของก่อนเดินทางไปประเทศอังกฤษ เนื่องจากเธอและสามีถือสองสัญชาติ ทั้งไนจีเรียและอังกฤษ พวกเขาจึงต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ อยู่ตลอด อีกทั้งลูกติดของสามีกับภรรยาเก่า ก็เรียนหนังสืออยู่ที่นั่นด้วย เมื่อยูเดเมเปิดลิ้นชักเพื่อจะหยิบทะเบียนสมรส แต่เธอหาไม่เจอ ค้นหาทั่วบ้านก็ไม่เจอ เธอจึงเข้าไปสอบถามสามีในห้องนอน
ขณะนั้นซิมโฟโรซากำลังนอนอยู่บนเตียง ยูเดเมนั่งลงข้าง ๆ เขา
ถามว่าทะเบียนสมรสหายไปไหน แต่เขาทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมตอบคำถามของเธอ
ยูเดเมโมโหมาก และทั้งสองก็ได้มีปากเสียงทะเลาะกัน
ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่ยูเดเมเดือดจัด
ทนายหญิงคนนี้เดินออกจากห้องนอน ปราดเข้าไปคว้ากระทะและมีดจากในครัว
และย้อนกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง
ยูเดเมเอากระทะฟาดเข้าที่หัวซิมโฟโรซา และตะโกนถามเขาไปว่า
"บอกมาสิว่าแกคิดอะไรอยู่ บอกฉันมาว่าเมียน้อยของแกมันอยู่ที่ไหน"
ซิมโฟโรซาปฏิเสธภรรยา และโทร. หาแม่ของเขา เพื่อให้แจ้งความจับเธอ
ยูเดเมจึงใช้กระทะฟาดหัวเขาอีกครั้ง เธอกระหน่ำทุบหัวเขาไม่ยั้ง
ก่อนจะใช้มีดกระหน่ำแทงเขา ทั้งบริเวณหน้าอกและลำตัว จนสามีแน่นิ่งไป
เมื่อจัดการกับสามีจนสาแก่ใจแล้ว ยูเดเมก็นั่งลงข้าง ๆ ร่างของซิมโฟโรซา เธอมองเห็นอวัยวะเพศของเขาแลบออกมาจากกางเกง จึงเอ่ยปากพูดกับศพสามีว่า "ถ้าหากเจ้าโลกอันนี้มันทำให้แกคิดไปมีคนอื่น งั้นก็ตัดมันทิ้งเสียดีกว่า" พอพูดจบ เธอก็ใช้มีดเล่มเดิมเฉือนอวัยวะเพศของสามีออก แล้วเอามายัดใส่ไว้ในมือขวาของเขา
ต่อมาในคืนนั้นเอง ยูเดเมได้ส่งข้อความแชตไปหาเพื่อน เล่าว่าตัวเองได้ทำบางอย่างที่เลวร้ายมาก แต่ไม่ได้บอกว่าทำอะไร เธอยังแชตไปหาน้องสาวของซิมโฟโรซา ระบุว่า "โปรดสวดมนต์ภาวนาให้เราด้วย ขอให้พระเจ้าให้อภัยฉันด้วย" และข้อความสุดท้ายส่งหาแม่ ระบุว่าเธอกับสามีทะเลาะกัน และเธอรู้สึกเสียใจ
ยูเดเมถูกจับกุมในเวลาต่อมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาฆาตกรรม และเฉือนทำลายศพ เธอถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในชั้นศาลครั้งแรก ในเดือนมิถุนายน 2561 ยูเดเมได้ให้การทั้งหมดว่าเธอลงมือทำอะไรลงไป แต่อย่างไรก็ตาม เธอยังคงปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา ขณะนี้เธออยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะมีการสอบสวนสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะขึ้นพิจารณาคดีในชั้นศาลอีกครั้ง ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 เว็บไซต์เดอะซัน รายงานว่า ยูเดเม โอทิเก-โอดิบี ทนายความชาวไนจีเรีย วัย 48 ปี ก่อเหตุฆาตกรรม ซิมโฟโรซา โอทิเก-โอดิบี สามีวัย 50 ปี ของเธอ อย่างโหดเหี้ยม หลังจากระแคะระคายว่าเขาแอบนอกใจเธอไปมีผู้หญิงคนอื่น โดยยูเดเมใช้มีดกระหน่ำแทงร่างของสามีไม่ยั้ง ก่อนจะตัดอวัยวะเพศของเขาทิ้ง และนำมายัดใส่ไว้ในมือของเขา ยูเดเมบอกกับศพสามีว่า ต้นเหตุของทุกอย่างคือสิ่งนี้ มันทำให้เขานอกลู่นอกทางไปทำความผิด ดังนั้นการตัดมันทิ้ง จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว
เหตุการณ์สยองขวัญดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านของครอบครัว ตั้งอยู่ในย่านซานโกเตโด เมืองเลกกี รัฐลากอส ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไนจีเรีย โดยข้อมูลจากเวนการ์ดไนจีเรีย ระบุว่า สามีภรรยาคู่นี้เป็นครอบครัวนักกฎหมาย ซิมโฟโรซาเองก็ประกอบอาชีพทนายความเช่นเดียวกันกับภรรยา
ในช่วงหลัง ๆ ของการแต่งงาน ความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อนข้างระหองระแหง เนื่องจากยูเดเมระแคะระคายว่า สามีแอบนอกใจไปมีเมียน้อย เมื่อเธอถามเขาตรง ๆ เพื่อจะคุยกันให้รู้เรื่อง เขาก็บ่ายเบี่ยงทุกครั้ง อ้างว่ามันไม่เป็นความจริง และเธอคิดมากไปเองจนเข้าใจผิด จนทำให้เรื่องนี้คาราคาซังมาโดยตลอด
กระทั่งวันที่ 2 พฤษภาคม ปีที่แล้ว ยูเดเมได้จัดเตรียมข้าวของก่อนเดินทางไปประเทศอังกฤษ เนื่องจากเธอและสามีถือสองสัญชาติ ทั้งไนจีเรียและอังกฤษ พวกเขาจึงต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ อยู่ตลอด อีกทั้งลูกติดของสามีกับภรรยาเก่า ก็เรียนหนังสืออยู่ที่นั่นด้วย เมื่อยูเดเมเปิดลิ้นชักเพื่อจะหยิบทะเบียนสมรส แต่เธอหาไม่เจอ ค้นหาทั่วบ้านก็ไม่เจอ เธอจึงเข้าไปสอบถามสามีในห้องนอน
เมื่อจัดการกับสามีจนสาแก่ใจแล้ว ยูเดเมก็นั่งลงข้าง ๆ ร่างของซิมโฟโรซา เธอมองเห็นอวัยวะเพศของเขาแลบออกมาจากกางเกง จึงเอ่ยปากพูดกับศพสามีว่า "ถ้าหากเจ้าโลกอันนี้มันทำให้แกคิดไปมีคนอื่น งั้นก็ตัดมันทิ้งเสียดีกว่า" พอพูดจบ เธอก็ใช้มีดเล่มเดิมเฉือนอวัยวะเพศของสามีออก แล้วเอามายัดใส่ไว้ในมือขวาของเขา
ต่อมาในคืนนั้นเอง ยูเดเมได้ส่งข้อความแชตไปหาเพื่อน เล่าว่าตัวเองได้ทำบางอย่างที่เลวร้ายมาก แต่ไม่ได้บอกว่าทำอะไร เธอยังแชตไปหาน้องสาวของซิมโฟโรซา ระบุว่า "โปรดสวดมนต์ภาวนาให้เราด้วย ขอให้พระเจ้าให้อภัยฉันด้วย" และข้อความสุดท้ายส่งหาแม่ ระบุว่าเธอกับสามีทะเลาะกัน และเธอรู้สึกเสียใจ
ยูเดเมถูกจับกุมในเวลาต่อมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาฆาตกรรม และเฉือนทำลายศพ เธอถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในชั้นศาลครั้งแรก ในเดือนมิถุนายน 2561 ยูเดเมได้ให้การทั้งหมดว่าเธอลงมือทำอะไรลงไป แต่อย่างไรก็ตาม เธอยังคงปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา ขณะนี้เธออยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะมีการสอบสวนสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะขึ้นพิจารณาคดีในชั้นศาลอีกครั้ง ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นี้
