โซเชียลผุด #SaveTHAILAND มองความจริงอีกด้าน ในฐานะที่ไทยถูกกดดัน

          โซเชียลไทยผุด #SaveTHAILAND เพื่อร่วมกันปกป้องประเทศ ในฐานะคนกลางกรณีจับกุมนายฮาคีม พร้อมดึงสติคนไทยที่ร่วมติดแฮชแท็ก #Savehakeem และ #BoycottThailand โจมตีประเทศตัวเอง


Savehakeem
ภาพจาก สปริงนิวส์

          กลายเป็นคดีที่ทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมาก หลังจากที่นายฮาคีม อัล-อาไรบี อดีตนักฟุตบอลชาวบาห์เรน และผู้ลี้ภัยทางการเมืองในออสเตรเลีย อายุ 25 ปี ถูกจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางมาเที่ยวกับภรรยาที่ประเทศไทย เนื่องมาจากนายฮาคีมนั้น ถูกหมายแดงจากอินเตอร์โพล และเป็นที่ต้องการตัวของบาห์เรน ทว่า แม้ต่อมาทางอินเตอร์โพลจะถอนหมายแดงไปแล้ว แต่ทางการบาห์เรนยังคงต้องการตัวนายฮาคีมอยู่ พร้อมกับดำเนินเรื่องเพื่อเรียกร้องให้ส่งตัวนายฮาคีมกลับไปรับโทษที่บาห์เรน

          ขณะเดียวกันชาวออสเตรเลีย และคนในวงการฟุตบอลจำนวนมาก ร่วมกันติดแฮชแท็ก #Savehakeem เพื่อเป็นการกดดันให้รัฐบาลไทยให้ปล่อยตัวนายฮาคีมเป็นอิสระ โดยมาพร้อมกับ #BoycottThailand ที่เรียกร้องให้ไทยส่งตัวนายฮาคีมกลับออสเตรเลียเช่นกัน โดยแฮชแท็กดังกล่าว ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก และที่สำคัญคนไทยจำนวนมากก็ร่วมติดแฮชแท็กดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ฮิวแมนไรตส์วอตช์ ยังขู่ประเทศไทยว่าหากไม่ยอมปล่อยตัวนายฮาคีม ไทยอาจถูกคว่ำบาตรจากฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกในปี 2022 อีกด้วย

          ล่าสุด (5 กุมภาพันธ์ 2562) รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้มีชาวโซเชียลอีกกลุ่มหนึ่ง พยายามออกมาปกป้องประเทศไทย ด้วยการติดแฮชแท็ก #SaveThailand เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับประเทศไทยในฐานะคนกลางของปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง บาร์เรน - ออสเตรเลีย รวมทั้งเตือนสติคนไทยไม่ให้นำกระแสดังกล่าวมาใช้โจมตีหรือให้ร้ายประเทศตนเอง

          โดยชาวเน็ตจำนวนมากต่างแสดงความคิดเห็นว่า ประเทศไทยไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง แต่กลับต้องมาอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คล้ายกับไทยต้องตกเป็นแพะให้กับความขัดแย้งระหว่างบาห์เรนและออสเตรเลียที่มีต่อนายฮาคีม บ้างก็ระบุว่าคนไทยด้วยกันแท้ ๆ แต่กลับด่าประเทศตัวเอง ตอนด่ารีทวีตกันเป็นหมื่น ๆ แต่พอความจริงปรากฏ กลับรีทวีตกันแค่หลักร้อย บางคนอ่านข่าวแค่ 2-3 บรรทัด ยังไม่ทันรู้ข้อเท็จจริง ก็ร่วมติดแฮชแท็ก #Savehakeem ตามกระแสไปด้วย


Savehakeem
ภาพจาก สปริงนิวส์

          นอกจากนี้ ชาวเน็ตส่วนใหญ่ยังมองว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของออสเตรเลีย ที่มีการทำงานกันผิดพลาด และเป็นฝ่ายที่มาเตือนไทยว่า นายฮาคีมมีหมายแดง แต่ตอนนี้ ทางออสเตรเลียกลับตั้งตัวเป็นฮีโร่ เป็นผู้พิทักษ์คุณธรรม ปกป้องนายฮาคีม จนทำให้ประเทศไทยดูเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลก

          สำหรับการพิจารณาของศาลอาญา กรณีว่าจะส่งตัวนายฮาคีมกลับไปประเทศบาร์เรนหรือไม่นั้น ศาลจะต้องพิจารณาจากเอกสารหลักฐานที่ทนายของนายฮาคีมจะนำมาแสดง โดยศาลนัดตรวจเอกสารในวันที่ 22 เมษายน 2562 และขณะนี้นายฮาคีมยังคงต้องถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไปก่อน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โซเชียลผุด #SaveTHAILAND มองความจริงอีกด้าน ในฐานะที่ไทยถูกกดดัน อัปเดตล่าสุด 5 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 16:55:12 21,137 อ่าน
TOP
x close