โซเชียลไทยผุด #SaveTHAILAND เพื่อร่วมกันปกป้องประเทศ ในฐานะคนกลางกรณีจับกุมนายฮาคีม พร้อมดึงสติคนไทยที่ร่วมติดแฮชแท็ก #Savehakeem และ #BoycottThailand โจมตีประเทศตัวเอง
ขณะเดียวกันชาวออสเตรเลีย และคนในวงการฟุตบอลจำนวนมาก ร่วมกันติดแฮชแท็ก #Savehakeem เพื่อเป็นการกดดันให้รัฐบาลไทยให้ปล่อยตัวนายฮาคีมเป็นอิสระ โดยมาพร้อมกับ #BoycottThailand ที่เรียกร้องให้ไทยส่งตัวนายฮาคีมกลับออสเตรเลียเช่นกัน โดยแฮชแท็กดังกล่าว ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก และที่สำคัญคนไทยจำนวนมากก็ร่วมติดแฮชแท็กดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ฮิวแมนไรตส์วอตช์ ยังขู่ประเทศไทยว่าหากไม่ยอมปล่อยตัวนายฮาคีม ไทยอาจถูกคว่ำบาตรจากฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกในปี 2022 อีกด้วย
ล่าสุด (5 กุมภาพันธ์ 2562) รายงานข่าวระบุว่า
ขณะนี้มีชาวโซเชียลอีกกลุ่มหนึ่ง พยายามออกมาปกป้องประเทศไทย
ด้วยการติดแฮชแท็ก #SaveThailand
เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับประเทศไทยในฐานะคนกลางของปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง
บาร์เรน - ออสเตรเลีย
รวมทั้งเตือนสติคนไทยไม่ให้นำกระแสดังกล่าวมาใช้โจมตีหรือให้ร้ายประเทศตนเอง
นอกจากนี้
ชาวเน็ตส่วนใหญ่ยังมองว่า
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของออสเตรเลีย ที่มีการทำงานกันผิดพลาด
และเป็นฝ่ายที่มาเตือนไทยว่า นายฮาคีมมีหมายแดง แต่ตอนนี้
ทางออสเตรเลียกลับตั้งตัวเป็นฮีโร่ เป็นผู้พิทักษ์คุณธรรม ปกป้องนายฮาคีม
จนทำให้ประเทศไทยดูเป็นผู้ร้ายในสายตาชาวโลก
ภาพจาก สปริงนิวส์
กลายเป็นคดีที่ทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมาก หลังจากที่นายฮาคีม
อัล-อาไรบี อดีตนักฟุตบอลชาวบาห์เรน และผู้ลี้ภัยทางการเมืองในออสเตรเลีย
อายุ 25 ปี ถูกจับกุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ขณะเดินทางมาเที่ยวกับภรรยาที่ประเทศไทย เนื่องมาจากนายฮาคีมนั้น
ถูกหมายแดงจากอินเตอร์โพล และเป็นที่ต้องการตัวของบาห์เรน ทว่า
แม้ต่อมาทางอินเตอร์โพลจะถอนหมายแดงไปแล้ว
แต่ทางการบาห์เรนยังคงต้องการตัวนายฮาคีมอยู่
พร้อมกับดำเนินเรื่องเพื่อเรียกร้องให้ส่งตัวนายฮาคีมกลับไปรับโทษที่บาห์เรน
ขณะเดียวกันชาวออสเตรเลีย และคนในวงการฟุตบอลจำนวนมาก ร่วมกันติดแฮชแท็ก #Savehakeem เพื่อเป็นการกดดันให้รัฐบาลไทยให้ปล่อยตัวนายฮาคีมเป็นอิสระ โดยมาพร้อมกับ #BoycottThailand ที่เรียกร้องให้ไทยส่งตัวนายฮาคีมกลับออสเตรเลียเช่นกัน โดยแฮชแท็กดังกล่าว ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก และที่สำคัญคนไทยจำนวนมากก็ร่วมติดแฮชแท็กดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ฮิวแมนไรตส์วอตช์ ยังขู่ประเทศไทยว่าหากไม่ยอมปล่อยตัวนายฮาคีม ไทยอาจถูกคว่ำบาตรจากฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกในปี 2022 อีกด้วย
โดยชาวเน็ตจำนวนมากต่างแสดงความคิดเห็นว่า
ประเทศไทยไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง
แต่กลับต้องมาอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
คล้ายกับไทยต้องตกเป็นแพะให้กับความขัดแย้งระหว่างบาห์เรนและออสเตรเลียที่มีต่อนายฮาคีม
บ้างก็ระบุว่าคนไทยด้วยกันแท้ ๆ แต่กลับด่าประเทศตัวเอง
ตอนด่ารีทวีตกันเป็นหมื่น ๆ แต่พอความจริงปรากฏ กลับรีทวีตกันแค่หลักร้อย
บางคนอ่านข่าวแค่ 2-3 บรรทัด ยังไม่ทันรู้ข้อเท็จจริง ก็ร่วมติดแฮชแท็ก
#Savehakeem ตามกระแสไปด้วย
ภาพจาก สปริงนิวส์
สำหรับการพิจารณาของศาลอาญา
กรณีว่าจะส่งตัวนายฮาคีมกลับไปประเทศบาร์เรนหรือไม่นั้น
ศาลจะต้องพิจารณาจากเอกสารหลักฐานที่ทนายของนายฮาคีมจะนำมาแสดง
โดยศาลนัดตรวจเอกสารในวันที่ 22 เมษายน 2562
และขณะนี้นายฮาคีมยังคงต้องถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไปก่อน
จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก










