ลูกสาวสุดห่วง แม่ป่วยซึมเศร้า-อัลไซเมอร์ หายออกจากบ้าน 8 เดือน แจ้งความตำรวจเชียงรายช่วยตามหา ล่าสุดพบตัวแม่แล้ว หลังตำรวจจีน พบเดินเตร็ดเตร่อยู่ริมถนนอาร์สามเอ ห่างจากเชียงรายไปราว 600 กิโลเมตร
จากกรณีนางสุชาดา อาจอ อายุ 35 ปี ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ว่าแม่ของเธอซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า และอัลไซเมอร์ ได้หายออกจากบ้านไปอย่างไร้ร่องรอย ทางเจ้าหน้าที่มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามหาตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานไปยังสถานกงสุลไทย ณ นครคุนหมิง ประเทศจีน อีกด้วยนั้น
ล่าสุด (13 กุมภาพันธ์ 2562) รายการตีข่าวเช้า ช่อง 3 รายงานว่า ตำรวจจีนเจอแม่ของนางสุชาดาแล้ว โดยพบขณะกำลังเดินอยู่ริมถนนอาร์สามเอ ห่างจาก จ.เชียงราย ไปราว 600 กิโลเมตร ซึ่งตำรวจได้ตรวจสอบพบบัตรประจำตัวประชาชนของประเทศไทย จึงได้แจ้งไปยังสถานกงสุลไทย ณ นครคุนหมิง และนำตัวแม่ของนางสุชาดาส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวช
ทั้งนี้ จากการสอบถามประวัตินางสุชาดา ทราบว่า เป็นแคดดี้อยู่ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย มีรายได้ไม่เพียงพอที่จะไปรับตัวแม่ได้ ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจึงช่วยกันบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่าย และได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อออกหนังสือเดินทางให้ ทำให้นางสุชาดาได้ไปรับแม่ด้วยตัวเอง โดยเดินทางไปเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 15 กุมภาพันธ์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก รายการตีข่าวเช้า
ภาพจาก รายการตีข่าวเช้า
จากกรณีนางสุชาดา อาจอ อายุ 35 ปี ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ว่าแม่ของเธอซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า และอัลไซเมอร์ ได้หายออกจากบ้านไปอย่างไร้ร่องรอย ทางเจ้าหน้าที่มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามหาตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานไปยังสถานกงสุลไทย ณ นครคุนหมิง ประเทศจีน อีกด้วยนั้น
ล่าสุด (13 กุมภาพันธ์ 2562) รายการตีข่าวเช้า ช่อง 3 รายงานว่า ตำรวจจีนเจอแม่ของนางสุชาดาแล้ว โดยพบขณะกำลังเดินอยู่ริมถนนอาร์สามเอ ห่างจาก จ.เชียงราย ไปราว 600 กิโลเมตร ซึ่งตำรวจได้ตรวจสอบพบบัตรประจำตัวประชาชนของประเทศไทย จึงได้แจ้งไปยังสถานกงสุลไทย ณ นครคุนหมิง และนำตัวแม่ของนางสุชาดาส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวช
ทั้งนี้ จากการสอบถามประวัตินางสุชาดา ทราบว่า เป็นแคดดี้อยู่ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย มีรายได้ไม่เพียงพอที่จะไปรับตัวแม่ได้ ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจึงช่วยกันบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่าย และได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อออกหนังสือเดินทางให้ ทำให้นางสุชาดาได้ไปรับแม่ด้วยตัวเอง โดยเดินทางไปเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ และจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 15 กุมภาพันธ์
ภาพจาก รายการตีข่าวเช้า
ขณะที่ทางด้านมูลนิธิกระจกเงา เล็งเห็นความสำคัญของผู้ที่เสี่ยงสูญหาย เช่น
ผู้ป่วยจิตเวช และผู้สูงอายุที่มีอาการหลงลืม เป็นต้น
จึงได้พัฒนาสายรัดข้อมือที่มีคิวอาร์โค้ดและเลขรหัส
สัญลักษณ์รูปหัวใจ ภายใต้โครงการ "หาย (ไม่) ห่วง"
ซึ่งจะให้สวมใส่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงดังกล่าว
เมื่อมีพลเมืองดีพบเห็นก็ใช้โทรศัพท์มือถือสแกนและส่งข้อมูลเพื่อแจ้งเบาะแสได้ทันที