สลดสังคม เด็กวัย 11 ถูกสามียายข่มขืน-ขู่ฆ่าถ้าฟ้องใคร จนตั้งท้อง ถูกบังคับให้คลอดทั้งที่อยู่ระหว่างยื่นเรื่องขอทำแท้ง ตอนนี้ยังไม่มั่นใจว่าทารกจะรอดหรือไม่
![ข่มขืนเด็ก]( "ข่มขืนเด็ก")
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า เด็กหญิงวัย 11 ขวบ ได้กลายมาเป็นคุณแม่อายุน้อยอีกราย ที่เพิ่งจะให้กำเนิดทารกด้วยวิธีการผ่าคลอด ที่โรงพยาบาลอีวา เปรอน ในรัฐตูกูมัน ประเทศอาร์เจนตินา หลังจากที่เธอถูก นายเอลิสโซ วิกเตอร์ อมายา วัย 65 ปี สามีของยาย ข่มขืนกระทำชำเรา แถมยังขู่เด็กหญิงไม่ให้บอกใคร ไม่อย่างนั้นเขาจะฆ่าเธอซะ
รายงานเผยว่า ความจริงเรื่องที่เด็กตกเป็นเหยื่อถูกข่มขืนนั้น เพิ่งปรากฏหลังจากที่เด็กรู้สึกเจ็บท้อง จึงเข้ารับการตรวจร่างกายในวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา แพทย์พบว่าเด็กหญิงตั้งครรภ์ จึงได้เค้นถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ซึ่งนั่นทำให้ทางครอบครัวได้รู้ความจริง นำไปสู่การจับกุมชายชราผู้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาทั้งหมดไม่ได้จบลงเพียงการจับกุมคนร้าย เพราะเด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อนั้นกำลังตั้งครรภ์ แม่ของเด็กจึงได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขออนุญาตให้เด็กเข้ารับการทำแท้ง เนื่องจากการทำแท้งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในอาร์เจนตินา เว้นแต่จะพิจารณาแล้วว่าการตั้งครรภ์นั้นก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของผู้เป็นแม่ หรือเป็นกรณีที่การตั้งครรภ์นั้นเกิดจากการถูกข่มขืน
เป็นที่ทราบกันดีว่ากระบวนการทางกฎหมายเพื่อการทำแท้งนั้นค่อนข้างล่าช้า ต้องใช้ระยะเวลาถึง 7 สัปดาห์ แต่ในวันอังคาร (26 กุมภาพันธ์) ทางรัฐมนตรีสาธารณสุข ก็ได้ระบุว่าพวกเขาจะอนุมัติให้มีการทำแท้งฉุกเฉินแก่เด็ก อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นทางรัฐบาลท้องถิ่นกลับชี้ว่าพวกเขาจะพยายามปิดกั้นไม่ให้มีการทำแท้ง และเด็กหญิงก็ถูกนำตัวเข้าห้องคลอด เพื่อทำการผ่าคลอดในวันรุ่งขึ้น
ด้านเว็บไซต์เมโทร เผยว่า เด็กหญิงเพิ่งตั้งครรภ์ได้เพียง 23 สัปดาห์เท่านั้น ตอนที่แพทย์ดำเนินการผ่าคลอดแก่เธอ ตอนนี้ทารกยังคงมีชีวิต แต่เด็กตัวเล็กมาก น้ำหนักเพียง 589 กรัม เด็กยังคงต้องอยู่ในตู้อบ และแพทย์ก็ไม่แน่ใจว่าทารกจะรอดชีวิตหรือไม่ ส่วนแม่เด็กนั้นยังอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย
สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและสังคมในทวีปแอฟริกาใต้ หลายคนมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากการบังคับเด็กหญิงให้คลอดลูก ทั้งที่เด็กหญิงเคยระบุในเอกสารคำร้องขอทำแท้งว่า "หนูอยากให้พวกคุณ เอาสิ่งที่ชายแก่คนนั้นใส่เข้ามา ออกไปจากท้องของหนู"
ด้าน ดร.เซซิเลีย อุสเซ็ต นรีแพทย์ที่เป็นผู้ดูแลการผ่าคลอดของเด็กหญิง ได้เผยถึงความไม่พอใจของเธอ ชี้ว่าร่างกายของเด็กยังไม่มีพัฒนาการที่สำคัญแก่การตั้งครรภ์ 23 สัปดาห์ หรือต่อให้ร่างกายมีความพร้อม แต่เด็กก็ไม่พร้อมในด้านสภาพจิตใจ เนื่องจากการถูกล่วงละเมิดที่เธอได้รับ เธอเชื่อว่าเป็นฝีมือของผู้ว่าการรัฐตูกูมัน ที่เข้ามาขวางกระบวนการทางกฎหมาย และบังคับให้เด็กคนนี้ต้องคลอด
"ขาของฉันอ่อนแรงตอนที่ได้เห็นเด็กคนนี้ เหมือนฉันกำลังมองลูกสาวคนเล็กของตัวเอง เธอไม่เข้าใจเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งหมดด้วยซ้ำ" ดร.เซซิเลีย กล่าว
ด้านกลุ่มสิทธิสตรี #NiUnaMenosm ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนการรณรงค์ให้มีการทำแท้งอย่างถูกกฎหมายในอาร์เจนตินา ชี้ว่า รัฐต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการทารุณกรรมที่เด็กหญิงได้รับ
ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นอ้างว่า สิ่งที่พวกเขาดำเนินการไปนั้น เป็นไปเพื่อช่วยทั้ง 2 ชีวิตให้รอด
รายงานเผยว่า ความจริงเรื่องที่เด็กตกเป็นเหยื่อถูกข่มขืนนั้น เพิ่งปรากฏหลังจากที่เด็กรู้สึกเจ็บท้อง จึงเข้ารับการตรวจร่างกายในวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา แพทย์พบว่าเด็กหญิงตั้งครรภ์ จึงได้เค้นถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ซึ่งนั่นทำให้ทางครอบครัวได้รู้ความจริง นำไปสู่การจับกุมชายชราผู้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาทั้งหมดไม่ได้จบลงเพียงการจับกุมคนร้าย เพราะเด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อนั้นกำลังตั้งครรภ์ แม่ของเด็กจึงได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขออนุญาตให้เด็กเข้ารับการทำแท้ง เนื่องจากการทำแท้งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในอาร์เจนตินา เว้นแต่จะพิจารณาแล้วว่าการตั้งครรภ์นั้นก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของผู้เป็นแม่ หรือเป็นกรณีที่การตั้งครรภ์นั้นเกิดจากการถูกข่มขืน
เป็นที่ทราบกันดีว่ากระบวนการทางกฎหมายเพื่อการทำแท้งนั้นค่อนข้างล่าช้า ต้องใช้ระยะเวลาถึง 7 สัปดาห์ แต่ในวันอังคาร (26 กุมภาพันธ์) ทางรัฐมนตรีสาธารณสุข ก็ได้ระบุว่าพวกเขาจะอนุมัติให้มีการทำแท้งฉุกเฉินแก่เด็ก อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นทางรัฐบาลท้องถิ่นกลับชี้ว่าพวกเขาจะพยายามปิดกั้นไม่ให้มีการทำแท้ง และเด็กหญิงก็ถูกนำตัวเข้าห้องคลอด เพื่อทำการผ่าคลอดในวันรุ่งขึ้น
ด้านเว็บไซต์เมโทร เผยว่า เด็กหญิงเพิ่งตั้งครรภ์ได้เพียง 23 สัปดาห์เท่านั้น ตอนที่แพทย์ดำเนินการผ่าคลอดแก่เธอ ตอนนี้ทารกยังคงมีชีวิต แต่เด็กตัวเล็กมาก น้ำหนักเพียง 589 กรัม เด็กยังคงต้องอยู่ในตู้อบ และแพทย์ก็ไม่แน่ใจว่าทารกจะรอดชีวิตหรือไม่ ส่วนแม่เด็กนั้นยังอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย
สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและสังคมในทวีปแอฟริกาใต้ หลายคนมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากการบังคับเด็กหญิงให้คลอดลูก ทั้งที่เด็กหญิงเคยระบุในเอกสารคำร้องขอทำแท้งว่า "หนูอยากให้พวกคุณ เอาสิ่งที่ชายแก่คนนั้นใส่เข้ามา ออกไปจากท้องของหนู"
ด้าน ดร.เซซิเลีย อุสเซ็ต นรีแพทย์ที่เป็นผู้ดูแลการผ่าคลอดของเด็กหญิง ได้เผยถึงความไม่พอใจของเธอ ชี้ว่าร่างกายของเด็กยังไม่มีพัฒนาการที่สำคัญแก่การตั้งครรภ์ 23 สัปดาห์ หรือต่อให้ร่างกายมีความพร้อม แต่เด็กก็ไม่พร้อมในด้านสภาพจิตใจ เนื่องจากการถูกล่วงละเมิดที่เธอได้รับ เธอเชื่อว่าเป็นฝีมือของผู้ว่าการรัฐตูกูมัน ที่เข้ามาขวางกระบวนการทางกฎหมาย และบังคับให้เด็กคนนี้ต้องคลอด
"ขาของฉันอ่อนแรงตอนที่ได้เห็นเด็กคนนี้ เหมือนฉันกำลังมองลูกสาวคนเล็กของตัวเอง เธอไม่เข้าใจเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งหมดด้วยซ้ำ" ดร.เซซิเลีย กล่าว
ด้านกลุ่มสิทธิสตรี #NiUnaMenosm ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนการรณรงค์ให้มีการทำแท้งอย่างถูกกฎหมายในอาร์เจนตินา ชี้ว่า รัฐต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการทารุณกรรมที่เด็กหญิงได้รับ
ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นอ้างว่า สิ่งที่พวกเขาดำเนินการไปนั้น เป็นไปเพื่อช่วยทั้ง 2 ชีวิตให้รอด
