การุณยฆาต ความตายอย่างสงบของผู้ป่วยที่หวังจะหลุดพ้นความทรมาน การยุติชีวิตที่หลายประเทศยังไม่ยอมรับ กับค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับ กว่าวาระสุดท้ายจะมาถึง
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สังคมไทยเริ่มให้ความสนใจ เกี่ยวกับเรื่องการ "การุณยฆาต" โดย การุณยฆาต (Euthanasia) คือการทำให้ผู้ป่วยตายอย่างสงบ บางครั้งภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Mercy Killing เป็นการทำให้บุคคลตายโดยเจตนาด้วยวิธีการที่ไม่รุนแรง โดยมีเป้าหมายคือการทำให้ผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสหรืออยู่ในสภาพที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ สามารถตัดสินใจจากไปอย่างสงบอย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
ในขณะที่ การุณยฆาตเชิงรุก (Active Euthanasia) ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงในด้านศีลธรรม และเป็นเรื่องผิดกฎหมายในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงที่ประเทศไทย แต่ยังมีอยู่บางประเทศที่เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการการุณยฆาตได้อย่างถูกกฎหมาย อาทิ แคนาดา, สหรัฐอเมริกา (ในบางรัฐ), โคลอมเบีย, เนเธอร์แลนด์, เบลเยียม, ลักเซมเบิร์ก, สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรเลีย (ในบางรัฐ) และญี่ปุ่น
นับเป็นเรื่องราวสะเทือนใจที่อยู่ในความสนใจของผู้คนอย่างมาก
สำหรับกรณีของหนุ่มไทยป่วยโรคเนื้องอกในสมอง
แม้ผ่านการรักษามาหลายครั้งก็ยังไม่ดีขึ้น
โรคกลับมาเป็นซ้ำหลายครั้งและมีความเสี่ยงอาจต้องนอนบนเตียงไปตลอดชีวิตที่เหลือ
ด้วยความที่เขาไม่อยากให้ญาติเดือดร้อนอีกต่อไป
จึงตัดสินใจขายเครื่องดนตรีที่รักมาก เพื่อเดินทางไปรับการการุณยฆาต
ที่สวิตเซอร์แลนด์ [อ่านข่าว : ไทม์ไลน์ชีวิต คุณก๊อป
ผู้เข้ารับการการุณยฆาต และจุดตัดสินใจจบความทรมาน]
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สังคมไทยเริ่มให้ความสนใจ เกี่ยวกับเรื่องการ "การุณยฆาต" โดย การุณยฆาต (Euthanasia) คือการทำให้ผู้ป่วยตายอย่างสงบ บางครั้งภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Mercy Killing เป็นการทำให้บุคคลตายโดยเจตนาด้วยวิธีการที่ไม่รุนแรง โดยมีเป้าหมายคือการทำให้ผู้ป่วยที่ทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสหรืออยู่ในสภาพที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ สามารถตัดสินใจจากไปอย่างสงบอย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
ในปัจจุบัน
การการุณยฆาตสามารถแบ่งได้ 2 แบบ คือ การุณยฆาตเชิงรุก (Active Euthanasia)
ซึ่งเป็นการช่วยให้ความตายมาถึงผู้ป่วยเร็วขึ้น เช่น วิธีการฉีดยา
เพื่อทำให้ผู้ป่วยหลุดพ้นจากความทรมานและจากไปอย่างสงบ ส่วนอีกแบบคือ
การุณยฆาตเชิงรับ (Passive Euthanasia)
คือการปล่อยให้ผู้ป่วยตายโดยธรรมชาติ ด้วยวิธีหยุดการรักษา
หรือไม่ใช้เทคโนโลยีใด ๆ ยืดสัญญาณชีพ ตามความต้องการของญาติหรือตัวผู้ป่วย
ปล่อยให้ผู้ป่วยค่อย ๆ จากไป
ในขณะที่ การุณยฆาตเชิงรุก (Active Euthanasia) ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงในด้านศีลธรรม และเป็นเรื่องผิดกฎหมายในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงที่ประเทศไทย แต่ยังมีอยู่บางประเทศที่เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการการุณยฆาตได้อย่างถูกกฎหมาย อาทิ แคนาดา, สหรัฐอเมริกา (ในบางรัฐ), โคลอมเบีย, เนเธอร์แลนด์, เบลเยียม, ลักเซมเบิร์ก, สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรเลีย (ในบางรัฐ) และญี่ปุ่น
แต่ถึงอย่างนั้น สวิตเซอร์แลนด์
ก็เป็นเพียงประเทศเดียวที่ยอมให้มีการทำการุณยฆาตแก่คนต่างชาติได้อย่างถูกกฎหมาย
ทำให้สวิตเซอร์แลนด์กลายมาเป็นที่หมายปลายทางสุดท้ายสำหรับผู้ป่วยจากหลายประเทศ
ที่ต้องการยุติชีวิตของตัวเองอย่างสงบ
โดยผู้ป่วยจะต้องเดินเรื่องไปยังองค์กรในสวิตเซอร์แลนด์
เพื่อแจ้งความประสงค์ โดยจะมีขั้นตอนการตรวจสอบจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ
ในการพิจารณาว่าผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่ทนทุกข์จากความเจ็บป่วย
และการตัดสินใจนี้เกิดจากความปรารถนาของผู้ป่วยเอง ก่อนจะให้ไฟเขียว
อย่างไรก็ตาม
แม้สวิตเซอร์แลนด์จะเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับชาวต่างชาติที่ปรารถนาจะตายอย่างสงบ
แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงลิบก่อนจะสามารถยุติชีวิตลงได้
โดยจากรายงานของเว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ สื่อของอังกฤษ ในปี 2560 ได้เผยข้อมูลการคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ
จากผู้ที่เดินทางมารับการการุณยฆาตในซูริก สวิตเซอร์แลนด์
พบว่ามีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราว 6,500 ปอนด์ (ราว 270,000 บาท) ถึงมากกว่า
15,000 ปอนด์ (ราว 620,000 บาท)
โดยค่าเฉลี่ยจากผู้ป่วยที่ให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าว
พบว่ามีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราว 10,000 ปอนด์ (ราว 410,000 บาท)
ซึ่งส่วนหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่สูงลิบนี้
เกิดจากการที่ผู้ป่วยบางคนจองตั๋วเครื่องบินขากลับไว้ด้วย
เป็นอีกทางเลือกเผื่อเปลี่ยนใจ
หรือต้องการลดโอกาสที่จะถูกเจ้าหน้าที่ทางการสงสัยในวัตถุประสงค์ในการเดินทางเข้าประเทศ
ข้อมูลจาก