พ.ต.ต. จนปัญญาทวงเงินพันตรี เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมหทาร บุกกราบป้ายหน้าโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ขอความเป็นธรรม หลังถูกโกงเงินค่าตัดชุดตำรวจ 5.2 ล้าน แจ้งความ 13 รอบคดีไม่คืบ-ต้นสังกัดนิ่ง
วันที่ 13 มีนาคม 2562 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า วานนี้ (12 มีนาคม) พ.ต.ต. วุฒิพงษ์ ตั้งมหากิจศิริ หรือ สารวัตรชิน สารวัตรฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ บก.สก. ได้เดินทางก้มกราบป้ายหน้าโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชาทหาร กรณีนายทหารยศพันตรี เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร ฉ้อโกงค่าตัดเครื่องแบบตำรวจ มูลค่ากว่า 5,200,000 บาท ซึ่งทางคู่กรณีได้เดินทางมาเข้ารับการอบรมหลักสูตรเสนาธิการทหารบกในวันนี้
พ.ต.ต. วุฒิพงษ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม 2560 เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารของตนซึ่งปัจจุบันยศ พันตรี ได้ชักชวนและหว่านล้อมให้ตนหาลูกค้ามาตัดชุดตำรวจแบบใหม่ที่ใช้ผ้ากากี สนว.01 โดยอ้างว่ามีโควตาผ้ากากี สนว.01 จำนวน 100,000 หลา สามารถตัดชุดตำรวจได้ 5,000-7,000 ชุดต่อเดือน โดยใช้แม่บ้านในค่ายกว่า 200 คน ในการตัดเย็บ ลูกค้าจะได้รับชุดภายใน 30-45 วัน หลังจากวันที่วัดตัว มีการชวนเชื่อด้วยว่าคุณภาพของชุดตำรวจที่ลูกค้าจะได้รับนั้นจะมีคุณภาพดี
ด้วยความที่ตนเห็นเป็นเพื่อนร่วมเรียนกันมาและทหารเป็นอาชีพที่มีเกียรติ จึงได้ช่วยประชาสัมพันธ์หาลูกค้าให้ โดยประชาสัมพันธ์ไปทางกลุ่มไลน์และส่งแฟ็กซ์ไปตามโรงพัก เพราะเห็นว่าราคาชุดตำรวจที่เพื่อนตัดนั้น ถูกกว่าร้านอื่นและได้รับสินค้าเร็วกว่าร้านอื่นมาก ๆ เนื่องจากขณะนั้นชุดเครื่องแบบตำรวจ ร้านอื่นขายชุดละ 2,000 ขึ้นไป และได้อย่างเร็วสุดประมาณเดือนเมษายน 2561 ซึ่งขณะนั้น พ.ต. คนนี้ ให้ตนเรียกเก็บเงินมัดจำจากลูกค้ามาก่อนชุดละ 1,000 บาท กระทั่งมีข้าราชตำรวจสนใจติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า 150 หน่วย
เมื่อมีการนัดวัดตัวลูกค้า จะมีการเก็บเงินมัดจำค่าชุดก่อน
โดยตนได้โอนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด รวมเป็นเงิน 5,200,000 บาท
แต่เมื่อถึงกำหนดรับชุดตำรวจกลับไม่ส่งชุด และขอเลื่อนหลายครั้ง
กระทั่งตนและลูกค้าพากันกดดันจนยอมตัดชุดส่งมาล็อตหนึ่ง
ซึ่งชุดล็อตนั้นส่วนใหญ่จะใส่ไม่ได้ แถมใช้ผ้าผิดประเภท
วัสดุที่นำมาตัดก็ด้อยคุณภาพ ที่สำคัญไม่ใช่ผ้ากากี สนว.01
ตามระเบียบแต่อย่างใด จนต้องส่งคืน และลูกค้าที่จ่ายเงินมัดจำมาแล้วกว่า
5,000 ราย ได้ขอรับเงินคืน ตนพยายามทวงถามแต่กลับติดต่อไม่ได้และหายหน้าไป
ตนจึงตัดสินใจกับผู้เสียหายหลายราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกง กับทั้ง 2 คนเอาไว้ก่อนหลายท้องที่ เพื่อหาทางเจรจาทวงเงินคืนมาให้ได้ แต่ปรากฏว่า คู่กรณีก็ยังนิ่งเฉย ผมทำหนังสือร้องเรียนไปที่ผู้บังคับบัญชาทางทหาร ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี กองทัพบก กระทรวงกลาโหม หน่วยงานต้นสังกัด และที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รวมแล้ว 13 ครั้ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
แต่ปรากฏว่าไม่มีแม้แต่การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้จึงตัดสินใจมาตามหาเพื่อนที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เพราะรู้ว่าเพื่อนกำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันอันทรงเกียรติแห่งนี้ แต่มีผู้บังคับบัญชาระดับพันเอก ออกมาแจ้งว่า จะติดต่อประสานงานให้พูดคุยกันภายหลัง ซึ่งผมได้แจ้งไปแล้วว่า ภายในสัปดาห์หน้าผมและผู้เสียหายจะปรึกษาทนาย เพื่อเข้าฟ้องร้องต่อศาลให้ดำเนินการกับทั้ง 2 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
พ.ต.ต. วุฒิพงษ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม 2560 เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารของตนซึ่งปัจจุบันยศ พันตรี ได้ชักชวนและหว่านล้อมให้ตนหาลูกค้ามาตัดชุดตำรวจแบบใหม่ที่ใช้ผ้ากากี สนว.01 โดยอ้างว่ามีโควตาผ้ากากี สนว.01 จำนวน 100,000 หลา สามารถตัดชุดตำรวจได้ 5,000-7,000 ชุดต่อเดือน โดยใช้แม่บ้านในค่ายกว่า 200 คน ในการตัดเย็บ ลูกค้าจะได้รับชุดภายใน 30-45 วัน หลังจากวันที่วัดตัว มีการชวนเชื่อด้วยว่าคุณภาพของชุดตำรวจที่ลูกค้าจะได้รับนั้นจะมีคุณภาพดี
ด้วยความที่ตนเห็นเป็นเพื่อนร่วมเรียนกันมาและทหารเป็นอาชีพที่มีเกียรติ จึงได้ช่วยประชาสัมพันธ์หาลูกค้าให้ โดยประชาสัมพันธ์ไปทางกลุ่มไลน์และส่งแฟ็กซ์ไปตามโรงพัก เพราะเห็นว่าราคาชุดตำรวจที่เพื่อนตัดนั้น ถูกกว่าร้านอื่นและได้รับสินค้าเร็วกว่าร้านอื่นมาก ๆ เนื่องจากขณะนั้นชุดเครื่องแบบตำรวจ ร้านอื่นขายชุดละ 2,000 ขึ้นไป และได้อย่างเร็วสุดประมาณเดือนเมษายน 2561 ซึ่งขณะนั้น พ.ต. คนนี้ ให้ตนเรียกเก็บเงินมัดจำจากลูกค้ามาก่อนชุดละ 1,000 บาท กระทั่งมีข้าราชตำรวจสนใจติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า 150 หน่วย
ตนจึงตัดสินใจกับผู้เสียหายหลายราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกง กับทั้ง 2 คนเอาไว้ก่อนหลายท้องที่ เพื่อหาทางเจรจาทวงเงินคืนมาให้ได้ แต่ปรากฏว่า คู่กรณีก็ยังนิ่งเฉย ผมทำหนังสือร้องเรียนไปที่ผู้บังคับบัญชาทางทหาร ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี กองทัพบก กระทรวงกลาโหม หน่วยงานต้นสังกัด และที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก รวมแล้ว 13 ครั้ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
แต่ปรากฏว่าไม่มีแม้แต่การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้จึงตัดสินใจมาตามหาเพื่อนที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เพราะรู้ว่าเพื่อนกำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันอันทรงเกียรติแห่งนี้ แต่มีผู้บังคับบัญชาระดับพันเอก ออกมาแจ้งว่า จะติดต่อประสานงานให้พูดคุยกันภายหลัง ซึ่งผมได้แจ้งไปแล้วว่า ภายในสัปดาห์หน้าผมและผู้เสียหายจะปรึกษาทนาย เพื่อเข้าฟ้องร้องต่อศาลให้ดำเนินการกับทั้ง 2 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สปริงนิวส์
รายงานว่า พล.อ. อภิรัชต์
คงสมพงษ์ ผู้บัญชากาทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทหารสังกัด
พล.ร.9 ที่ถูกกล่าวหาว่าโกงเงินค่าตัดชุดเครื่องแบบตำรวจดังกล่าวแล้ว
หากพบว่ามีความผิดจะถูกลงโทษสถานหนักต่อไป










