แกร็บ แถลงปมถูกวินมอเตอร์ไซค์รุมกด หลังวิ่งทับซ้อนพื้นที่ ร้องยุติความรุนแรง

          สืบเนื่องจากการรายงานข่าวเกี่ยวกับกรณีผู้ขับขี่จักรยานยนต์สาธารณะทำร้ายพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่แกร็บไบค์ ที่บริเวณอาคารสาทรซิตี้ วันที่ 15 มีนาคม 2562 แกร็บ ประเทศไทย ขอประกาศให้ทราบว่าบริษัทฯ รู้สึกเสียใจที่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ติดต่อไปยังผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ ภายหลังรับทราบเหตุเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ถือเป็นสิ่งที่แกร็บให้ความสำคัญสูงสุดเสมอมา และบริษัทฯ ขอร้องให้กลุ่มที่ใช้ความรุนแรงยุติการกระทำและใช้การพูดจาเพื่อแก้ไขปัญหา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนและสอดส่องดูแลเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เนื่องด้วยเหตุการณ์ความรุนแรงเช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่าด้วยเหตุผลใด

          ในฐานะบริษัทที่มุ่งมั่นให้บริการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเดินทางขนส่ง เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ในราคาที่เข้าถึงได้  แกร็บ เล็งเห็นว่าเราสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเดินทางและการให้บริการของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ นอกจากนี้ บริการต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้ขยายเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการรับส่งผู้โดยสารผ่านบริการ แกร็บไบค์ (วิน), การรับส่งเอกสารและพัสดุผ่านบริการแกร็บเอ็กซ์เพรส (GrabExpress) รวมถึงการรับส่งอาหารผ่านบริการแกร็บฟู้ด (GrabFood) ที่สร้างโอกาสให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซต์รับจ้างมีงานและมีรายได้เพิ่มมากกว่าเดิมในช่วงเวลาที่ไม่ได้รับ-ส่งผู้โดยสาร ยิ่งไปกว่านั้น แกร็บยังเป็นแอพพลิเคชั่นรายเดียวในประเทศไทยที่มีการดูแลผู้ขับขี่ทุกท่านให้มีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการมอบประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่คุ้มครองทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงการมอบสิทธิประโยชน์อื่นๆ  อีกมากมาย เช่น การมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรของผู้ขับขี่ และดีลส่วนลดพิเศษจากแบรนด์พาร์ทเนอร์ เป็นต้น โดยล่าสุด แกร็บ ยังได้สนับสนุนการร่วมจัดระเบียบผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะ กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และกรมการขนส่งทางบก กรุงเทพมหานคร  เพื่อร่วมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจผ่านการสร้างรายได้จากการเข้าร่วมแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

          โดยบริษัทฯ กำลังเร่งทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนให้มีการทบทวนเร่งแก้ไขกฏหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประเทศไทยสามารถนำเทคโนโลยีและแนวคิดเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) มาใช้ เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการและคุณภาพชีวิตของผู้ขับขี่ ส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะของประเทศให้ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้นแก่สาธารณชนผู้ใช้บริการ และยังสามารถสนับสนุนการท่องเที่ยวและการกระจายรายได้สู่ชุมชน ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนการพัฒนาประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0  อีกทางหนึ่ง


ขอแสดงความนับถือ

แกร็บ ประเทศไทย