เกิดเหตุสะเทือนขวัญที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ชาย วัย 45 ปี ชักปืนยิงเมีย 3 นัด ดับสลดข้างถนน ก่อนเข้าบ้านไปยิงตัวตายตาม เพื่อนบ้านเผย ผัวแอบจับได้ว่ามีผู้ชายมาส่งเมียทุกวัน จึงหึงหวง
วันที่ 16 มีนาคม 2562 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า พ.ต.อ. วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และ พ.ต.อ. โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปตรวจสอบริมถนนเทพารักษ์ ฝั่งขาออก บริเวณด้านหน้าห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล กวาง ง่วน เส็ง ในพื้นที่ หมู่ 9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังได้รับแจ้งเหตุ มีผู้หญิงถูกยิงเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่พบร่างผู้หญิงคนหนึ่ง สวมชุดยูนิฟอร์มโรงงานผลิตเบเกอรี่ นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้น สภาพศพพบมีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .38 ที่ขมับขวา 1 นัด ที่กลางหน้าผาก 1 นัด และที่ราวนมข้างซ้ายอีก 1 นัดรวม 3 นัด
ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นางสาวทาบ ดีแก้ว อายุ 46 ปี พื้นเพเป็นชาว จ.เพชรบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุคือชายคนรัก ทราบชื่อคือ นายวุฒิชัย ใจทน อายุ 45 ปี โดยจากการสอบถามนายบรรหาร ปัญญาศรีสกุล อายุ 50 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้ความว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งล้างศาลพระพรหมอยู่บริเวณริมรั้วของบริษัท ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 เมตร ตนพบเห็นนายวุฒิชัยและนางสาวทาบเดินมาด้วยกัน ทั้งสองมีปากเสียงทะเลาะกัน และระหว่างที่กำลังเดินข้ามถนน นายวุฒิชัยได้ชักปืนยิงนางสาวทาบจนฟุบลงไปกับพื้น ขณะนั้นได้มีพลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็น และพยายามจะเข้าช่วยเหลือ แต่ถูกใช้อาวุธปืนขู่ จนต้องรีบหนีออกไป หลังจากนั้นนายวุฒิชัย ก็เดินย้อนกลับมาที่ร่างของนางสาวทาบ ใช้เท้าเหยียบหัว ใช้ปืนจ่อยิงเข้าที่แสกหน้าและกลางหน้าอกนางสาวทาบอีก 2 นัด และเดินกลับห้องพักในซอยบางปลา 51
ห้องพักของนายวุฒิชัยห่างจากจุดที่นางสาวทาบเสียชีวิตประมาณ 500 เมตร
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำกำลังพร้อมอาวุธครบมือ
ติดตามเข้าไปยังห้องพักดังกล่าว พบเป็นอาคาร 2 ชั้น
โดยนายวุฒิชัยอยู่ในห้องหมายลข 1 ชั้นล่าง
เจ้าหน้าที่ได้เกลี้ยกล่อมให้นายวุฒิชัยทิ้งอาวุธและยอมมอบตัว
กระทั่งผ่านไปประมาณ 30 นาที ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ กลับมา
เจ้าหน้าที่จึงพังประตูเข้าไป พบนายวุฒิชัยนั่งเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ
มีอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ขนาด .38 1 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ
ตกอยู่บริเวณหว่างขา โดยนายวุฒิชัยใช้ปืนกระบอกนี้ยิงตัวตาย
เพื่อนบ้านใกล้เคียง เล่าว่า ก่อนหน้านี้นางสาวทาบเคยมีสามีแล้ว
แต่เลิกรากันไปได้ประมาณ 1 ปีเศษ และมาคบหาอยู่กินกับนายวุฒิชัยได้ไม่นาน
กระทั่งนายวุฒิชัยมาจับได้ว่า
มีผู้ชายมาส่งนางสาวทาบถึงหน้าห้องพักอยู่เป็นประจำ
จึงเกิดอาการหึงหวงอย่างมาก เมื่อมาถึงวันเกิดเหตุ (วันที่ 16 มีนาคม)
นายวุฒิชัยได้ไปดักรอนางสาวทาบที่หน้าโรงงาน
หลังจากนั้นทั้งสองได้นั่งรถมาลงที่ฝั่งตรงข้ามซอยห้องพัก
ทั้งสองมีปากเสียงทะเลาะกัน นายวุฒิชัยยิงนางสาวทาบจนเสียชีวิต
ก่อนจะกลับไปซ่อนตัวในห้อง และใช้อาวุธปืนฆ่าตัวตาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบหาหลักฐานและข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
วันที่ 16 มีนาคม 2562 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า พ.ต.อ. วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และ พ.ต.อ. โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปตรวจสอบริมถนนเทพารักษ์ ฝั่งขาออก บริเวณด้านหน้าห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล กวาง ง่วน เส็ง ในพื้นที่ หมู่ 9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังได้รับแจ้งเหตุ มีผู้หญิงถูกยิงเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่พบร่างผู้หญิงคนหนึ่ง สวมชุดยูนิฟอร์มโรงงานผลิตเบเกอรี่ นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้น สภาพศพพบมีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .38 ที่ขมับขวา 1 นัด ที่กลางหน้าผาก 1 นัด และที่ราวนมข้างซ้ายอีก 1 นัดรวม 3 นัด
ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นางสาวทาบ ดีแก้ว อายุ 46 ปี พื้นเพเป็นชาว จ.เพชรบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุคือชายคนรัก ทราบชื่อคือ นายวุฒิชัย ใจทน อายุ 45 ปี โดยจากการสอบถามนายบรรหาร ปัญญาศรีสกุล อายุ 50 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้ความว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งล้างศาลพระพรหมอยู่บริเวณริมรั้วของบริษัท ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 เมตร ตนพบเห็นนายวุฒิชัยและนางสาวทาบเดินมาด้วยกัน ทั้งสองมีปากเสียงทะเลาะกัน และระหว่างที่กำลังเดินข้ามถนน นายวุฒิชัยได้ชักปืนยิงนางสาวทาบจนฟุบลงไปกับพื้น ขณะนั้นได้มีพลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็น และพยายามจะเข้าช่วยเหลือ แต่ถูกใช้อาวุธปืนขู่ จนต้องรีบหนีออกไป หลังจากนั้นนายวุฒิชัย ก็เดินย้อนกลับมาที่ร่างของนางสาวทาบ ใช้เท้าเหยียบหัว ใช้ปืนจ่อยิงเข้าที่แสกหน้าและกลางหน้าอกนางสาวทาบอีก 2 นัด และเดินกลับห้องพักในซอยบางปลา 51
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบหาหลักฐานและข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก