ชายชราชาวไต้หวัน วัย 80 ปี ไม่ขับถ่ายอุจจาระ 1 สัปดาห์ จนเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ หมอต้องตัดลำไส้ทิ้ง 30 เซนติเมตร เพราะติดเชื้อจนเน่า
รายงานระบุว่า หลังจากที่คุณตารายนี้ไม่ได้ขับถ่ายอุจจาระมาหลายวัน เขาก็มีอาการไข้ขึ้นสูง มึนงงและเป็นลมหน้ามืด เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา แพทย์ได้ตรวจร่างกายหลายอย่าง รวมทั้งเอกซเรย์ ซึ่งผลแสดงให้เห็นว่าลำไส้ใหญ่ของคนไข้มีอุจจาระอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เขาเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ ซึ่งสามารถนำไปสู่การเจ็บป่วยที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด โดยแพทย์ได้ทำการผ่าตัดดูลำไส้ใหญ่ของเขาและพบสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าเดิม
ลำไส้ส่วนหนึ่งของคุณตามีอาการแบคทีเรียกินเนื้อ
หรือเนื้อเน่า ซึ่งหมายความว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียไปจนถึงเนื้อเยื่อ
ส่งผลให้เนื้อเยื่อตาย กลายเป็นสีดำคล้ำ
ซึ่งลำไส้ปกติที่สุขภาพดีควรเป็นสีออกชมพู
แพทย์จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตัดมันทิ้ง
โดยลำไส้ที่ถูกตัดออกไปมีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร
การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่ด้วยความที่คนไข้อายุมากแล้ว
ร่างกายจึงไม่ได้ฟื้นตัวเร็วเหมือนคนหนุ่มสาว กว่าที่เขาจะหายดีจนสามารถกลับบ้านได้
ก็ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลาร่วมครึ่งเดือน
ทั้งนี้ แพทย์ได้แนะนำไปถึงทุกคนว่า ไม่ควรปล่อยปละละเลยปัญหาท้องผูก และไม่ควรมองว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เพราะมันสามารถก่อให้เกิดอันตรายได้อย่างไม่คาดคิด ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานสะดวกขึ้น นอกจากนี้ก็ควรรับประทานอาหารที่เหมาะสม เพิ่มปริมาณอาหารที่มีกากใยหรือไฟเบอร์สูง และถ้าหากประสบปัญหาท้องผูกเป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางแก้ไข
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ
รายงานว่า ชายชราชาวไต้หวัน วัย 80 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในเทศบาลเกาสง
เกือบต้องเสียชีวิตเพราะโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ หลังจากที่เขามีอาการท้องผูก
ไม่ขับถ่ายติดต่อกันนาน 1 สัปดาห์ ส่งผลให้ของเสียสะสมทับถมกันในลำไส้
จนเกิดอาการอักเสบติดเชื้อ โดยอาการของเขารุนแรงมาก
แพทย์จำเป็นต้องตัดลำไส้บางส่วนของเขาทิ้งไป
เนื่องจากมันติดเชื้อรุนแรงไม่สามารถรักษาให้ลำไส้ส่วนนี้กลับมาเป็นปกติ
รายงานระบุว่า หลังจากที่คุณตารายนี้ไม่ได้ขับถ่ายอุจจาระมาหลายวัน เขาก็มีอาการไข้ขึ้นสูง มึนงงและเป็นลมหน้ามืด เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา แพทย์ได้ตรวจร่างกายหลายอย่าง รวมทั้งเอกซเรย์ ซึ่งผลแสดงให้เห็นว่าลำไส้ใหญ่ของคนไข้มีอุจจาระอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เขาเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ ซึ่งสามารถนำไปสู่การเจ็บป่วยที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด โดยแพทย์ได้ทำการผ่าตัดดูลำไส้ใหญ่ของเขาและพบสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าเดิม
ทั้งนี้ แพทย์ได้แนะนำไปถึงทุกคนว่า ไม่ควรปล่อยปละละเลยปัญหาท้องผูก และไม่ควรมองว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เพราะมันสามารถก่อให้เกิดอันตรายได้อย่างไม่คาดคิด ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานสะดวกขึ้น นอกจากนี้ก็ควรรับประทานอาหารที่เหมาะสม เพิ่มปริมาณอาหารที่มีกากใยหรือไฟเบอร์สูง และถ้าหากประสบปัญหาท้องผูกเป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางแก้ไข







