พ่อน้องภาคิน ยืนยัน ปมขายลูกเป็นเพียงข่าวลือ มั่นใจเมียไม่มีทางทำแบบนั้น ด้านแม่ลั่น อยากเจอลูกไม่ว่าจะสภาพไหนก็ตาม ขณะที่คนรับเลี้ยงน้องภาคิน เผย วันเกิดเหตุแม่เด็กมารับกลับเร็วกว่าปกติ
จากกรณี ด.ช.ภาคิน หรือ น้องบิ๊ก หนูน้อยวัย 1 ขวบ 7 เดือน หายออกไปจากบ้านในพื้นที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ตั้งแต่เย็นวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา โดยสันนิษฐานว่าอาจพลัดตกคลองชลประทานใกล้บ้าน หรืออาจถูกลักพาตัว โดยเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนช่วยกันออกตามหา แต่ก็ยังไร้วี่แวว ขณะที่ แม่น้องภาคิน เผยทั้งน้ำตา ใครจะเอาลูกไปซ่อน ไม่ได้ขายลูกกิน หลังลูกคนโตให้การตำรวจ น้องถูกชายใส่แว่นดำลึกลับอุ้มขึ้นรถไปนั้น (อ่านข่าว : แม่น้องภาคิน เจอจี้ถามจนน้ำตาแตก ไม่ได้เอาลูกไปซ่อน หลังลูกคนโตให้การขัดแย้ง !)
ล่าสุด (5 เมษายน 2562) อมรินทร์ ทีวี ได้สอบถามไปยัง นายโชคชัย คิดตลอด พ่อน้องภาคิน เผยว่า กรณีที่หลายคนสงสัยเรื่องปมการขายลูกนั้น ตนยืนยันว่าเป็นเพียงข่าวลือ ตนและภรรยาไม่เคยมีความคิดที่จะขายลูก และเชื่อมั่นในตัวภรรยาว่าไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน ครอบครัวไม่ได้ขัดสนเรื่องการเงิน ถึงแม้ว่าน้องภู วัย 7 ขวบ ลูกชายคนโต จะให้ข้อมูลว่าภรรยาของตนอุ้มน้องภาคินออกไปให้ชายคนหนึ่งนั้น ตนก็ยังไม่ปักใจเชื่อ และมั่นใจว่าภรรยาไม่มีทางอุ้มลูกไปให้ใคร
ทั้งนี้ ตนเดินตามหาลูกชายพร้อมเพื่อนบ้าน เพื่อตามไปในจุดที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปไม่ถึง และไม่มีความย่อท้อที่จะเดินตามหาลูกต่อไป ตนจะตามหาลูกทุกวันจนกว่าจะเจอ ซึ่งตนมีความหวังว่าลูกยังคงมีชีวิตอยู่ เพราะหากเสียชีวิตจริงต้องพบศพแล้ว ไม่ทางน้ำก็ทางบก
ด้านนางอารยา แม่น้องภาคิน กล่าวว่า ตนไม่ได้ฆ่าลูก ไม่มีทางเอาลูกไปฝากคนอื่น และไม่ได้ส่งลูกให้กับใคร ส่วนตัวเชื่อว่าลูกตกคลองชลประทาน หรือโดนลักพาตัว แต่อยากเจอลูกไม่ว่าจะสภาพไหนก็ตาม ถ้าเจอแบบลูกมีชีวิตกลับมาก็ดีใจ แต่ถ้าเจอแบบไม่มีชีวิตแล้ว อย่างน้อยตนก็รู้แล้วว่าลูกไม่อยู่แล้ว
ขณะที่ นายบอล (นามสมมติ) กู้ภัยทีมค้นหาน้องภาคิน เผยว่า เมื่อวานนี้มีการปูพรมเดินเท้าค้นหาน้องภาคิน มีบางช่วงที่ได้กลิ่นเหม็นคล้ายของเน่า ห่างจากบ้านไปประมาณ 500 เมตร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งจะต้องมีการค้นหาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นการจมน้ำ ซึ่งผู้เป็นแม่รู้ดีที่สุด แต่ต้องรอความชัดเจน และการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ด้วย
นอกจากนี้ นางกุหลาบ คนรับเลี้ยงน้องภาคิน กล่าวว่า ปกติแม่น้องภาคินจะนำน้องมาฝากให้ตนเลี้ยงเป็นประจำ แล้วมารับกลับทุกวันในเวลาประมาณ 18.00 น. แต่วันที่เกิดเหตุกลับมารับน้องภาคินเวลา 16.00 น. ซึ่งเร็วกว่าครั้งก่อน ๆ เมื่อตนถามว่าทำไมมารับลูกเร็ว นางอารยาก็ไม่ตอบ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากกรณี ด.ช.ภาคิน หรือ น้องบิ๊ก หนูน้อยวัย 1 ขวบ 7 เดือน หายออกไปจากบ้านในพื้นที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ตั้งแต่เย็นวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา โดยสันนิษฐานว่าอาจพลัดตกคลองชลประทานใกล้บ้าน หรืออาจถูกลักพาตัว โดยเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนช่วยกันออกตามหา แต่ก็ยังไร้วี่แวว ขณะที่ แม่น้องภาคิน เผยทั้งน้ำตา ใครจะเอาลูกไปซ่อน ไม่ได้ขายลูกกิน หลังลูกคนโตให้การตำรวจ น้องถูกชายใส่แว่นดำลึกลับอุ้มขึ้นรถไปนั้น (อ่านข่าว : แม่น้องภาคิน เจอจี้ถามจนน้ำตาแตก ไม่ได้เอาลูกไปซ่อน หลังลูกคนโตให้การขัดแย้ง !)
ล่าสุด (5 เมษายน 2562) อมรินทร์ ทีวี ได้สอบถามไปยัง นายโชคชัย คิดตลอด พ่อน้องภาคิน เผยว่า กรณีที่หลายคนสงสัยเรื่องปมการขายลูกนั้น ตนยืนยันว่าเป็นเพียงข่าวลือ ตนและภรรยาไม่เคยมีความคิดที่จะขายลูก และเชื่อมั่นในตัวภรรยาว่าไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน ครอบครัวไม่ได้ขัดสนเรื่องการเงิน ถึงแม้ว่าน้องภู วัย 7 ขวบ ลูกชายคนโต จะให้ข้อมูลว่าภรรยาของตนอุ้มน้องภาคินออกไปให้ชายคนหนึ่งนั้น ตนก็ยังไม่ปักใจเชื่อ และมั่นใจว่าภรรยาไม่มีทางอุ้มลูกไปให้ใคร
ทั้งนี้ ตนเดินตามหาลูกชายพร้อมเพื่อนบ้าน เพื่อตามไปในจุดที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปไม่ถึง และไม่มีความย่อท้อที่จะเดินตามหาลูกต่อไป ตนจะตามหาลูกทุกวันจนกว่าจะเจอ ซึ่งตนมีความหวังว่าลูกยังคงมีชีวิตอยู่ เพราะหากเสียชีวิตจริงต้องพบศพแล้ว ไม่ทางน้ำก็ทางบก
ด้านนางอารยา แม่น้องภาคิน กล่าวว่า ตนไม่ได้ฆ่าลูก ไม่มีทางเอาลูกไปฝากคนอื่น และไม่ได้ส่งลูกให้กับใคร ส่วนตัวเชื่อว่าลูกตกคลองชลประทาน หรือโดนลักพาตัว แต่อยากเจอลูกไม่ว่าจะสภาพไหนก็ตาม ถ้าเจอแบบลูกมีชีวิตกลับมาก็ดีใจ แต่ถ้าเจอแบบไม่มีชีวิตแล้ว อย่างน้อยตนก็รู้แล้วว่าลูกไม่อยู่แล้ว
ขณะที่ นายบอล (นามสมมติ) กู้ภัยทีมค้นหาน้องภาคิน เผยว่า เมื่อวานนี้มีการปูพรมเดินเท้าค้นหาน้องภาคิน มีบางช่วงที่ได้กลิ่นเหม็นคล้ายของเน่า ห่างจากบ้านไปประมาณ 500 เมตร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งจะต้องมีการค้นหาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นการจมน้ำ ซึ่งผู้เป็นแม่รู้ดีที่สุด แต่ต้องรอความชัดเจน และการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ด้วย
นอกจากนี้ นางกุหลาบ คนรับเลี้ยงน้องภาคิน กล่าวว่า ปกติแม่น้องภาคินจะนำน้องมาฝากให้ตนเลี้ยงเป็นประจำ แล้วมารับกลับทุกวันในเวลาประมาณ 18.00 น. แต่วันที่เกิดเหตุกลับมารับน้องภาคินเวลา 16.00 น. ซึ่งเร็วกว่าครั้งก่อน ๆ เมื่อตนถามว่าทำไมมารับลูกเร็ว นางอารยาก็ไม่ตอบ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
