สัตวแพทย์แชร์เรื่องเศร้า พบซากเต่าตนุตัวใหญ่ ยาว 70 เซนติเมตร ตายริมทะเล ผ่าท้องตรวจดู พบเศษขยะมากมาย เผยแต่ละปีมีสัตว์ทะเลตายเพราะขยะเป็นจำนวนมาก อยากให้ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตมีค่าเหล่านี้
เต่าดังกล่าวเป็นตัวตนุตัวผู้ ความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร เมื่อผ่าท้องก็พบเจอขยะมากมาย ทั้งเชือก โฟม และพลาสติก นอกจากนี้แล้ว สัตวแพทย์อีกคนก็ได้ทำการผ่าชันสูตรซากเต่าทะเลอายุ 4 ปี อีกตัวหนึ่ง ซึ่งภายในท้องของมันก็เต็มไปด้วยขยะเช่นกัน ทั้งถุงพลาสติกและหลอดดูดน้ำ
หมอแม็ค กล่าวว่า ตนทำงานเกี่ยวกับสัตว์ทะเลมา 4 ปี พบซากเต่าและซากโลมาที่ตายเกยตื้นเพราะขยะในทางเดินอาหารมาแล้วมากมาย ผ่าพบมาแล้วนับไม่ถ้วน บางคนว่าเต่าและโลมาโง่เอง ให้ธรรมชาติคัดสรร แต่มันไม่ใช่เลย เพราะเมื่อขยะลอยอยู่ในทะเล สัตว์จะไม่รู้ว่าเป็นอะไรและกินเข้าไป
หลายคนกล่าวว่าตัวเองอยู่ในเมืองไกล ไม่เห็นเกี่ยวข้องอะไรกับขยะในทะเล แต่มันก็มีการทิ้งขยะลงแม่น้ำ กระแสน้ำพัดพาขยะไปเรื่อย ๆ ตนเคยเก็บน้ำที่ไหลจากปากน้ำทั่วกรุงเทพมหานคร พบว่าขยะจำนวนหลายตันไหลออกสู่ทะเลภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mac Laovechprasit
"สำหรับแม็คนะ เรารู้สึกว่ามันอยู่ของมันมานานกว่ามนุษย์อีก เราในฐานะมนุษย์ จะทำลายทุกอย่างเลยเหรอ ? จะอยู่ร่วมกันแบบยั่งยืนได้ไหม ? ถ้าถามว่าท้อและเบื่อไหม บอกเลยว่ามาก อยากให้ทุกคนเข้าใจหน่อยว่าถ้าเราเริ่มลดจากตัวเอง เลิกใช้ single use material เพื่อช่วยสิ่งมีชีวิตมีค่าเหล่านี้ มันคงไม่ยากและลำบากใจเกินไป" หมอแม็ค กล่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mac Laovechprasit
หมอแม็ค ยังเปิดเผยกับ เดลินิวส์ออนไลน์ ว่า ในแต่ละปี เจ้าหน้าที่จะพบซากสัตว์ทะเลตายเป็นจำนวนมาก เช่น เต่าตาย 300 ตัว โลมา 200 ตัว พะยูน 12 ตัวและ วาฬประมาณ 3-5 ตัว หรือเฉลี่ยแล้วจะพบซากสัตว์ทะเลตาย 1-2 ตัว ต่อวัน โดยสาเหตุการตาย 30 เปอร์เซ็นต์มาจากน้ำมือของมนุษย์ที่ทิ้งเศษขยะ รวมไปถึงอวนและเชือกต่าง ๆ ลงทะเล
หมอแม็ค กล่าวอีกว่า เมื่อพบสัตว์ที่เจ็บป่วย อย่างเช่น พบเต่าที่ไม่สบายจากการกินเศษพลาสติกหรือโฟมเข้าไป ถ้าโชคดีก็จะสามารถใช้ยาขับเศษขยะเหล่านั้นออกมาได้ แต่ถ้าเป็นขยะชิ้นใหญ่ ก็สามารถทำให้ขับออกมาได้ สุดท้ายก็ต้องทนเห็นเต่าทรมานจนตายไปในที่สุด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mac Laovechprasit
ทีมสัตวแพทย์พบเรื่องแบบนี้ทุกวันนี้ ก็ไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร เพราะสิ่งที่สามารถทำได้ ก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น และตอนนี้ทีมสัตวแพทย์ก็มีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2562 เฟซบุ๊ก Mac Laovechprasit ของ นายสัตวแพทย์วีรพงษ์ เหล่าเวชประสิทธิ์ หรือ หมอแม็ค สัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ได้โพสต์แชร์เรื่องราวสุดหดหู่และสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับสัตว์ทะเลที่ต้องมาตายจากการทิ้งขยะของมนุษย์ โดยหมอแม็คลงพื้นที่หาดเจ้าหลาว จ.จันทบุรี เพื่อทำการผ่าชันสูตรเต่าตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่อายุมากแล้ว และต้องมาตายจากไปอย่างน่าเศร้า
เต่าดังกล่าวเป็นตัวตนุตัวผู้ ความยาวประมาณ 70 เซนติเมตร เมื่อผ่าท้องก็พบเจอขยะมากมาย ทั้งเชือก โฟม และพลาสติก นอกจากนี้แล้ว สัตวแพทย์อีกคนก็ได้ทำการผ่าชันสูตรซากเต่าทะเลอายุ 4 ปี อีกตัวหนึ่ง ซึ่งภายในท้องของมันก็เต็มไปด้วยขยะเช่นกัน ทั้งถุงพลาสติกและหลอดดูดน้ำ
หมอแม็ค กล่าวว่า ตนทำงานเกี่ยวกับสัตว์ทะเลมา 4 ปี พบซากเต่าและซากโลมาที่ตายเกยตื้นเพราะขยะในทางเดินอาหารมาแล้วมากมาย ผ่าพบมาแล้วนับไม่ถ้วน บางคนว่าเต่าและโลมาโง่เอง ให้ธรรมชาติคัดสรร แต่มันไม่ใช่เลย เพราะเมื่อขยะลอยอยู่ในทะเล สัตว์จะไม่รู้ว่าเป็นอะไรและกินเข้าไป
หลายคนกล่าวว่าตัวเองอยู่ในเมืองไกล ไม่เห็นเกี่ยวข้องอะไรกับขยะในทะเล แต่มันก็มีการทิ้งขยะลงแม่น้ำ กระแสน้ำพัดพาขยะไปเรื่อย ๆ ตนเคยเก็บน้ำที่ไหลจากปากน้ำทั่วกรุงเทพมหานคร พบว่าขยะจำนวนหลายตันไหลออกสู่ทะเลภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mac Laovechprasit
"สำหรับแม็คนะ เรารู้สึกว่ามันอยู่ของมันมานานกว่ามนุษย์อีก เราในฐานะมนุษย์ จะทำลายทุกอย่างเลยเหรอ ? จะอยู่ร่วมกันแบบยั่งยืนได้ไหม ? ถ้าถามว่าท้อและเบื่อไหม บอกเลยว่ามาก อยากให้ทุกคนเข้าใจหน่อยว่าถ้าเราเริ่มลดจากตัวเอง เลิกใช้ single use material เพื่อช่วยสิ่งมีชีวิตมีค่าเหล่านี้ มันคงไม่ยากและลำบากใจเกินไป" หมอแม็ค กล่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mac Laovechprasit
หมอแม็ค ยังเปิดเผยกับ เดลินิวส์ออนไลน์ ว่า ในแต่ละปี เจ้าหน้าที่จะพบซากสัตว์ทะเลตายเป็นจำนวนมาก เช่น เต่าตาย 300 ตัว โลมา 200 ตัว พะยูน 12 ตัวและ วาฬประมาณ 3-5 ตัว หรือเฉลี่ยแล้วจะพบซากสัตว์ทะเลตาย 1-2 ตัว ต่อวัน โดยสาเหตุการตาย 30 เปอร์เซ็นต์มาจากน้ำมือของมนุษย์ที่ทิ้งเศษขยะ รวมไปถึงอวนและเชือกต่าง ๆ ลงทะเล
หมอแม็ค กล่าวอีกว่า เมื่อพบสัตว์ที่เจ็บป่วย อย่างเช่น พบเต่าที่ไม่สบายจากการกินเศษพลาสติกหรือโฟมเข้าไป ถ้าโชคดีก็จะสามารถใช้ยาขับเศษขยะเหล่านั้นออกมาได้ แต่ถ้าเป็นขยะชิ้นใหญ่ ก็สามารถทำให้ขับออกมาได้ สุดท้ายก็ต้องทนเห็นเต่าทรมานจนตายไปในที่สุด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Mac Laovechprasit
ทีมสัตวแพทย์พบเรื่องแบบนี้ทุกวันนี้ ก็ไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร เพราะสิ่งที่สามารถทำได้ ก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น และตอนนี้ทีมสัตวแพทย์ก็มีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก