
เจ็ท แอร์เวย์ส ประกาศระงับเส้นทางการบินทั้งหมดอย่างไม่มีกำหนด หลังประสบภาวะเป็นหนี้หนักกว่า 3.8 หมื่นล้าน โดนยึดเครื่องบินไปเกือบหมด จากเป็นร้อยเหลือใช้งานแค่ 5 ลำ
รายงานของบีบีซี ระบุว่า ทางสายการบินประกาศว่า เที่ยวบินสุดท้ายขึ้นบินไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา โดยทางเจ็ท แอร์เวย์ส เผยว่า ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากประกาศระงับเส้นทางการบินเป็นการชั่วคราวเช่นนี้ สืบเนื่องทางสายการบินไม่มีเงินจ่ายค่าเชื้อเพลิงสำหรับบิน รวมถึงค่าบริการอื่น ๆ ที่จำเป็น ทั้งนี้ หวังว่า เจ็ท แอร์เวย์ส จะสามารถกลับมาบินได้อีกครั้งหนึ่ง
"เจ็ท แอร์เวย์ส หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถนำความสุขของการบินกลับมาให้ท่านผู้โดยสารของเราได้โดยเร็วที่สุด"
เจ็ท แอร์เวย์ส ประสบปัญหามีภาระหนี้เป็นจำนวนเงินมากถึง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 38,000 ล้านบาท) และมีการเจรจากับทางธนาคาร State Bank of India (SBI) ผู้ให้ยืมมาเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยเดิมทีเจ็ท แอร์เวย์ส มีเครื่องบินจำนวน 123 ลำ แต่ปัจจุบันถูกเจ้าหนี้ยึดไปจนเกือบหมด เหลือใช้งานเพียง 5 ลำเท่านั้น
เจ็ท แอร์เวย์ส ก่อตั้งโดย นาเรช โกยาล มาเป็นเวลานานกว่า 25 ปี มีลูกจ้างภายใต้การดูแลกว่า 23,000 คน สายการบินพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว มีเส้นทางบินในประเทศมากถึง 600 เส้นทาง และเส้นทางบินต่างประเทศ 380 เส้นทาง ก่อนช่วงหลังจะถูกแย่งส่วนแบ่งทางตลาดโดยสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง อินดิโก (IndiGo) และสไปซ์เจ็ท (SpiceJet) กระทั่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา นาเรช ได้ลงจากตำแหน่งประธาน เจ็ท แอร์เวย์ส ด้านนักบิน วิศวกร พนักงานภาคพื้น ไม่ได้รับเงินค่าจ้างมาเป็นเวลาหลายเดือน ขณะที่ผู้โดยสารจำนวนมากถูกทิ้งค้างที่สนามบินหลายแห่งทั่วโลก อันเป็นผลจากการยกเลิกเที่ยวบิน
ขณะที่ทางด้านรัฐบาลอินเดียได้ให้ทางธนาคารของรัฐเข้าไปช่วยเหลือทางสายการบิน โดยทางธนาคารกำลังมองหาผู้มาประมูลสายการบิน เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดไปได้ โดยทางสายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งปัจจุบันถือหุ้น เจ็ท แอร์เวย์ส อยู่ 24 เปอร์เซ็นต์ แสดงความสนใจที่จะเข้าครอบครองมากขึ้น






