สาวขี่ จยย. โดนยึด อ้างแค่ไปซื้อกับข้าว ไม่ได้ขี่เล่นน้ำ พบเป็นแฟนคนดูแลรถของกลาง

 

             สาวขี่รถจักรยานยนต์โดนยึด ที่แท้เป็นแฟนเจ้าของคอกรถที่ดูแลรถของกลาง อ้างยืมรถขี่ไปซื้อกับข้าว ไม่ได้เอาไปเล่นน้ำสงกรานต์ แค่ขี่ผ่านคนเล่นน้ำระหว่างทาง ด้านทนายชี้มีความผิดทั้งตำรวจและคนเอาไปใช้
            จากกรณีชายหนุ่มคนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดรถจักรยานยนต์ แต่ขณะที่กำลังเล่นน้ำสงกรานต์อยู่ที่ เทศกาลวันไหลนาเกลือ จ.ชลบุรี กลับพบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ของตัวเองออกมาเล่นน้ำ โดยในเวลาต่อมา ทางตำรวจได้ชี้แจงว่า หญิงคนดังกล่าวคือพนักงานดูแลรถ แอบเอารถไปโดยพลการ ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ (อ่านข่าว : ตร. แจงเหตุหนุ่มเจอสาวซิ่ง จยย. ตัวเองเล่นน้ำ หลังถูกยึด ที่แท้ พนง. แอบเอาไปใช้)

            สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับประเด็นนี้ วันที่ 20 เมษายน 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้เข้าพูดคุยกับ นายสงกรานต์ นิ่มน้อย อายุ 30 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว โดย นายสงกรานต์ เล่าว่า รถตนถูกตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ ยึดไว้ในคดีแข่งรถในทางหลวง เมื่อปี 2560 ตนได้รับโทษจำคุก 1 เดือน และคดีเสร็จสิ้นแล้ว


            ตอนนี้กรรมสิทธิ์ของรถจักรยานยนต์เป็นของหลวงที่ถูกริบตามกฎหมาย แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของศาลว่าจะนำไปประมูลขายทอดตลาดหรือไม่ และสิ่งที่ตนคาใจมากที่สุดคือ ทำไมถึงมีคนเอารถออกไปใช้งานได้

            นายสงกรานต์ เผยว่า เห็นหญิงคนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์คันนี้ในงานสงกรานต์ที่หาดจอมเทียน โดยทั้งคนขี่และคนซ้อนมีอาการมึนเมาด้วยกันทั้งคู่ ตนจึงเข้าไปสอบถาม ได้คำตอบจากผู้หญิงคนขี่ บอกว่ายืมพี่ที่คอกรถมา และรู้จักตำรวจ จึงเอาออกมาได้ หลังจากนั้นก็ขี่รถหนีไป ตนจึงเดินทางไปที่ สภ.ห้วยใหญ่ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน


            ด้าน นายวิชา โคกสวัสดิ์ ผู้ดูแลคอกรถเอกชน กล่าวว่า ตนมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลรถของกลางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งรถที่ถูกตรวจยึด และรถจากอุบัติเหตุ ส่วนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ตนยอมรับว่าเป็นรถที่ถูกตรวจยึดและตนเป็นคนดูแลอยู่ 

            โดยตนได้ให้แฟนยืมรถคันดังกล่าวไปซื้อกับข้าว แต่ไม่คิดว่าจะขี่ไปเล่นน้ำสงกรานต์ โดยปกติแล้วตำรวจให้นำรถไปใช้ได้ แต่ต้องใช้ในบริเวณใกล้เคียง เช่น ขี่ไปซื้อของ หรือไปซื้อกับข้าวเท่านั้น เพราะโรงพักอยู่ไกลจากแหล่งชุมชน


            ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) หญิงผู้ใช้รถจักรยานยนต์ของกลาง อ้างว่า ตนไม่รู้ว่ารถคันนี้ติดคดีอยู่ แต่ก็ยอมรับผิดที่เอารถไปใช้ ซึ่งตอนที่เอาไปขี่ก็ดูแลดีมาก และไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ตนขอยืนยันว่านำรถออกไปซื้อกับข้าวอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้เอาไปขี่เล่นสงกรานต์อย่างที่ถูกกล่าวหา แค่ระหว่างทางขี่ผ่านจุดที่มีคนเล่นสงกรานต์เท่านั้น

            อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท. ประสิทธิ์ มั่นศรี รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.ห้วยใหญ่ ระบุว่า รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยรถดังกล่าวถูกยึดมาในคดีแข่งรถ ศาลได้ตัดสินแล้ว และมีคำสั่งให้ริบรถ เจ้าหน้าที่จึงนำรถไปฝากไว้ที่คอกรถเอกชน ระหว่างรอเอกสารจากอัยการว่าให้ขายทอดตลาดหรือไม่ หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และหากพบว่าผู้ดูแลมีความผิดจริง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

            ทางด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ให้ความเห็นว่า รถจักรยานยนต์ที่ตำรวจยึดไว้เป็นของกลาง ไม่สามารถเอาไปใช้ได้ การที่ตำรวจปล่อยของกลางให้คนภายนอกใช้ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก