ครูสอนรำ เปิดใจ หลังพิธีกรในงานประกาศห้ามกะเทยรำหน้าไฟ เพราะคนตายจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ชี้เป็นการเหยียดเพศ เด็ก ๆ ที่มารำด้วยจิตอาสาสุดเสียใจ
กลายเป็นประเด็นดราม่า
เมื่อมีการเผยไลฟ์ในงานศพงานหนึ่ง ใน จ.มหาสารคาม
ซึ่งได้ก่อให้เกิดประเด็นวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
หลังนักเรียนซึ่งเป็นสาวประเภทสอง แต่งชุดนางรำ เพื่อรำหน้าไฟ
แต่พิธีกรในงานประกาศว่า ห้ามไม่ให้กะเทยรำหน้าไฟ เพราะจะทำให้คนตายไม่ได้ไปสวรรค์ (อ่านข่าว คลิก)
ล่าสุด (12 พฤษภาคม 2562) นายพิทยา แข็งฤทธิ์ ครูอัตราจ้างโรงเรียนบ้านหนองกุง ผู้ควบคุมการแสดง กล่าวว่า ทราบว่าเด็ก ๆ กลุ่มนี้เป็นนักเรียนของโรงเรียน และเป็นสาวประเภทสอง ที่มารวมกลุ่มกันแสดงความสามารถทางการฟ้อนรำแบบจิตอาสา เมื่อมีงานต่าง ๆ ทางเจ้าภาพก็จะติดต่อขอให้ไปช่วยรำในงาน โดยไม่ได้เรียกเก็บค่าใช้จ่าย แล้วแต่ทางเจ้าภาพจะสนับสนุนเป็นทุนการศึกษา ซึ่งไม่เคยมีปัญหาเกิดขึ้น กระทั่งในงานศพที่เกิดประเด็นขึ้น ขณะที่น้อง ๆ จะรำหน้าไฟ พิธีกรกลับพูดออกมาว่า "พึงสังวรไว้ว่า ห้ามกะเทยรำหน้าไฟเด็ดขาด เพราะคนตายจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ต้องเป็นสาวพรหมจรรย์เท่านั้น"
นายพิทยา กล่าวต่อว่า ทำให้มีคำถามว่ากะเทยรำหน้าไฟไม่ได้จริงหรือ ตัวเด็ก
ๆ เองก็รู้สึกเสียใจ เมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้น แต่สุดท้ายทั้ง 3
คนก็ทำหน้าที่ของตัวเองจนเสร็จสิ้น โดยส่วนตัวมองว่าการรำหน้าไฟ ใคร ๆ
ก็รำได้ ขึ้นอยู่กับจิตใจของคนรำมากกว่าเรื่องเพศ
และรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของพิธีกร เพราะเป็นเหมือนการเหยียดเพศ
ทำร้ายจิตใจ และความรู้สึกของเด็ก และตนก็เป็นเหมือนกัน
จึงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kaweesak Phaengdan
ล่าสุด (12 พฤษภาคม 2562) นายพิทยา แข็งฤทธิ์ ครูอัตราจ้างโรงเรียนบ้านหนองกุง ผู้ควบคุมการแสดง กล่าวว่า ทราบว่าเด็ก ๆ กลุ่มนี้เป็นนักเรียนของโรงเรียน และเป็นสาวประเภทสอง ที่มารวมกลุ่มกันแสดงความสามารถทางการฟ้อนรำแบบจิตอาสา เมื่อมีงานต่าง ๆ ทางเจ้าภาพก็จะติดต่อขอให้ไปช่วยรำในงาน โดยไม่ได้เรียกเก็บค่าใช้จ่าย แล้วแต่ทางเจ้าภาพจะสนับสนุนเป็นทุนการศึกษา ซึ่งไม่เคยมีปัญหาเกิดขึ้น กระทั่งในงานศพที่เกิดประเด็นขึ้น ขณะที่น้อง ๆ จะรำหน้าไฟ พิธีกรกลับพูดออกมาว่า "พึงสังวรไว้ว่า ห้ามกะเทยรำหน้าไฟเด็ดขาด เพราะคนตายจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ต้องเป็นสาวพรหมจรรย์เท่านั้น"
ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี