สาวเซเว่น เล่านาที ถูกแฟนหึงโหดใช้ปืนยิงกรอกปาก เคราะห์ดีกระสุนทะลุแก้ม รอดมาได้เพราะแกล้งตาย พี่ชายเผยเห็นทำร้ายน้องสาวตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ake Srisuwan
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ake Srisuwan
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ake Srisuwan
จากกรณี น.ส.อรอนงค์ อายุ 24 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อ ถูกนายธนากร อดีตแฟนหนุ่ม หึงหวง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : หนุ่มโหด บุกยิงกรอกปากสาวเซเว่น ล้มดิ้นกับพื้น หึงมีหนุ่มใหม่ ตร. ลั่นจับตายได้เลย)
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายอ๊อด (นามสมมติ) พี่ชายผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า น้องสาวของตนรู้จักกับผู้ก่อเหตุทางเฟซบุ๊ก ระหว่างที่คบกันผู้ก่อเหตุเคยมาหาน้องตน 2 ครั้ง และตบตีกันตั้งแต่ครั้งแรกที่ตนพบ แต่ไม่ทราบสาเหตุ จนครั้งที่ 2 ก็ทำร้ายร่างกายจนน้องของตนต้องเก็บเสื้อผ้าหนีกลับบ้านเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช พอตนกลับมาที่ห้องไม่เจอน้องก็ตกใจ จึงไปขอดูกล้องวงจรปิด มาทราบว่าน้องถูกทำร้ายร่างกาย เนื่องจากหึงหวงกลัวน้องตนจะไปมีคนอื่น และให้น้องสาวตนไปทำงานที่บ้าน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ake Srisuwan
นายอ๊อด เล่าอีกว่า ตั้งแต่น้องตนรู้จักกับชายคนนี้มา 6-7 เดือน ชายคนนี้ก็มีพฤติกรรมรุนแรง และมีพฤติกรรมหึงหวงมาก ถึงขั้นน้องสาวตนไม่สามารถใส่กางเกงขาสั้นได้ ผู้ก่อเหตุเคยพูดกับน้องตนว่าเคยฆ่าคนตาย แต่ไม่ต้องรับโทษ เพราะกลับไปอยู่ค่ายทหาร และขู่น้องตนว่า หากเลิกกันจะตามล่าฆ่าทั้งครอบครัว ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุโพสต์เฟซบุ๊กระบุใจความว่า "จะกลับบ้านไปฆ่าคน" คิดว่าน่าจะหมายถึงน้องสาวตน และคิดว่ามีการวางแผนมาก่อนแล้ว ส่วนอาการขณะนี้น้องสาวพ้นขีดอันตราย แต่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพราะกระสุนเข้าร่างกาย 4 นัด บริเวณแก้ม หางคิ้วถูกปืนเฉี่ยว หัวไหล่ และมีกระสุนฝังที่ขา ซึ่งน้องสาวบอกว่ารอดมาได้เพราะแกล้งตาย
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุคนร้ายได้ติดต่อพี่สาวตนมา บอกว่าสาเหตุเนื่องจากน้องสาวตนมีชายอื่น ซึ่งน้องตนก็ยอมรับว่าขณะนี้คุยกับชายอื่นอยู่ แต่ก็เลิกกับผู้ก่อเหตุแล้ว ไม่ได้คบซ้อน ส่วนเรื่องที่ผู้ก่อเหตุเป็นทหารที่ จ.ยะลา ตนไม่ทราบว่าขณะนี้เขายังคงรับราชการอยู่หรือไม่
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ake Srisuwan
ด้าน น.ส.อรอนงค์ ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ก่อนที่ตนจะโดนยิง นายธนากรได้ตบตีตนแล้วลากตัวไป แต่ตนพยายามวิ่งหนี นายธนากรจึงยิงที่ขาตนจนล้มลงที่พื้น แล้วเดินเข้ามาจ่อยิงที่ศีรษะตน แต่ตนมีสติจึงสะบัดศีรษะหนี กระสุนจึงโดนเข้าที่แก้มทะลุปาก จากนั้นตนก็แกล้งนอนตายจมกองเลือด และหลับตาสนิท รอจนกว่าจะมีกู้ภัยมาช่วย ที่ผ่านมาตนไม่ทราบมาก่อนว่านายธนากรโพสต์เฟซบุ๊กว่าจะมาก่อเหตุ เพราะช่วงนั้นตนไม่ได้เล่นเฟซบุ๊ก ซึ่งถ้าหากตนเห็นโพสต์ก่อนก็อาจจะหลบหนีและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก