กรณีสองพี่น้องลูกครึ่งรอดตกตึก พ่อและแม่ได้สิทธิ์แบ่งกันเลี้ยงดูลูก ตามความยินยอมของเด็ก ชี้ห้ามพ่อและแม่ให้สัมภาษณ์อีก เพราะจะถูกเพิกถอนสิทธิ์เลี้ยงดูบุตร
จากกรณีสองพี่น้องลูกครึ่งที่รอดชีวิตจากเหตุตกตึก หนีออกจากบ้าน อ้างว่าถูกแม่ทำร้าย และอยากไปอยู่กับพ่อ จนกระทั่งคนเป็นพ่อได้เดินทางมาพบลูก และยินดีที่จะนำลูกไปเลี้ยง โดยให้สิทธิ์ลูกในการตัดสินใจว่าอยากไปอยู่กับตนหรือไม่นั้น (อ่านข่าว : พ่อเด็กลูกครึ่ง ดีใจได้กอดลูกครั้งแรกในรอบ 5 ปี ลั่นพร้อมเอาลูกไปดูแล)
ล่าสุด (14 พฤษภาคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ขณะนี้ทางพ่อและแม่ของ น้องลูก้า อายุ 11 ปี และน้องดีดี้ อายุ 12 ปี สองพี่น้องลูกครึ่งที่รอดชีวิตจากเหตุตกตึก ได้มีการตกลงเจรจาหาข้อยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยพ่อและแม่ของเด็ก ได้มีการร่วมพูดคุยกันกับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตกลงกันว่า จะให้ทั้งคู่รับลูกไปดูแลได้ 1 คน ภายใต้ข้อตกลง ซึ่งต้องเป็นไปตามความยินยอมของเด็กด้วยว่าอยากจะไปอยู่กับใคร เช่น สัปดาห์นี้อยากไปอยู่กับพ่อหรือแม่ จึงจะได้สิทธิ์ในการดูแล และที่สำคัญคือ ห้ามพ่อกับแม่ออกมาให้สัมภาษณ์อีก มิเช่นนั้นจะมีปัญหาตามมา ถ้าหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดข้อตกลงก็จะถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร
ทั้งนี้ นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ ที่เข้ามาดูแลเรื่องนี้ เปิดเผยว่า ตอนนี้จะให้พ่อและแม่ของเด็กมีอำนาจในการดูแลลูกทั้งคู่ เพราะเป็นความต้องการของตัวเด็กเองด้วย โดยไม่ได้ระบุชี้ชัดว่าใครจะต้องไปอยู่กับใคร อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายของแม่อาจจะมีปัญหานิดหน่อย เนื่องจากจะต้องได้รับการดูแลรักษาเยียวยาจิตใจ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่มากนัก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
จากกรณีสองพี่น้องลูกครึ่งที่รอดชีวิตจากเหตุตกตึก หนีออกจากบ้าน อ้างว่าถูกแม่ทำร้าย และอยากไปอยู่กับพ่อ จนกระทั่งคนเป็นพ่อได้เดินทางมาพบลูก และยินดีที่จะนำลูกไปเลี้ยง โดยให้สิทธิ์ลูกในการตัดสินใจว่าอยากไปอยู่กับตนหรือไม่นั้น (อ่านข่าว : พ่อเด็กลูกครึ่ง ดีใจได้กอดลูกครั้งแรกในรอบ 5 ปี ลั่นพร้อมเอาลูกไปดูแล)
ล่าสุด (14 พฤษภาคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ขณะนี้ทางพ่อและแม่ของ น้องลูก้า อายุ 11 ปี และน้องดีดี้ อายุ 12 ปี สองพี่น้องลูกครึ่งที่รอดชีวิตจากเหตุตกตึก ได้มีการตกลงเจรจาหาข้อยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยพ่อและแม่ของเด็ก ได้มีการร่วมพูดคุยกันกับเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตกลงกันว่า จะให้ทั้งคู่รับลูกไปดูแลได้ 1 คน ภายใต้ข้อตกลง ซึ่งต้องเป็นไปตามความยินยอมของเด็กด้วยว่าอยากจะไปอยู่กับใคร เช่น สัปดาห์นี้อยากไปอยู่กับพ่อหรือแม่ จึงจะได้สิทธิ์ในการดูแล และที่สำคัญคือ ห้ามพ่อกับแม่ออกมาให้สัมภาษณ์อีก มิเช่นนั้นจะมีปัญหาตามมา ถ้าหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดข้อตกลงก็จะถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร
ทั้งนี้ นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ ที่เข้ามาดูแลเรื่องนี้ เปิดเผยว่า ตอนนี้จะให้พ่อและแม่ของเด็กมีอำนาจในการดูแลลูกทั้งคู่ เพราะเป็นความต้องการของตัวเด็กเองด้วย โดยไม่ได้ระบุชี้ชัดว่าใครจะต้องไปอยู่กับใคร อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายของแม่อาจจะมีปัญหานิดหน่อย เนื่องจากจะต้องได้รับการดูแลรักษาเยียวยาจิตใจ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่มากนัก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
