แพทย์เตือนผู้หญิงอยากสวย ฉีดฟิลเลอร์ราคาถูก ผลออกมาทำหน้าพังเสียโฉม กลายเป็นได้ความสยองมาแทน หากโชคไม่ดีผลร้ายอาจจะถึงแก่ชีวิต
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์เดอะซัน เผยเรื่องราวอุทาหรณ์เตือนใจเกี่ยวกับการเติมเสริมแต่งเพื่อความสวยความงามแบบที่ไม่มีการรับรองความปลอดภัย
โดยรายงานระบุว่า
ที่อังกฤษมีหญิงสาวหลายรายตกเป็นเหยื่อความงามจอมปลอมดังกล่าว
ผลลัพธ์คือต้องทนทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ
และในกรณีที่ร้ายแรงอาจถึงแก่ชีวิต โดยทางเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนผู้หญิงในปัจจุบัน
ที่ต่างหันไปพึ่งพาการฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ ตามจุดต่าง ๆ ของหน้า
หรือศัลยกรรมเพื่อความงามที่เสี่ยงอันตรายเช่นการดูดไขมัน
หรือการเสริมหน้าอก และมีความเสี่ยงที่จะถูกล่อลวงให้ใช้บริการราคาถูก
ซึ่งแน่นอนว่าผลที่ออกมาได้ไม่คุ้มเสีย
จากที่หวังว่าจะสวยกลายเป็นได้ความสยองมาแทน
แจ็กกี้ ดอยล์-ไพรซ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ กล่าวว่า
ผู้คนไม่ค่อยได้คำนึงถึงผลลัพธ์ที่ตามมาทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ภายหลังจากการเสริมความงาม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นกังวลมาก
ทุกคนควรตระหนักและพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าจำเป็นไหม เหมาะสมหรือไม่
และที่สำคัญปลอดภัยไหม รวมทั้งศึกษาหาข้อมูลของแหล่งต่าง ๆ ที่จะไปทำ
ก่อนที่จะตัดสินใจไปจริง ๆ และหากไปแล้วเกิดความไม่มั่นใจ
ก็อย่ากลัวที่จะก้าวเท้าเดินออกมา
รายงานระบุว่า เมื่อปีที่ผ่านมา
มีหญิงชาวอังกฤษเสียชีวิต 2 ราย หลังจากศัลยกรรมเสริมบั้นท้ายให้โด่งเด้ง
โดยรายหนึ่งไปทำที่คลีนิคในประเทศตุรกี จ่ายเงินไปจำนวน 3,000 ปอนด์ (ราว
122,000 บาท) นอกจากนี้ การเสริมความงามชนิดอื่น ๆ เช่น การฉีดปาก
ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลร้าย
หากไม่ได้ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง กรณีตัวอย่างเมื่อปีที่ผ่านมา
เรเชล แนปปิเยร์ วัย 29 ปี ฉีดฟิลเลอร์ที่ปากกับหมอกระเป๋า
ในไปปาร์ตี้โบท็อกซ์ โดยจ่ายเงินไปแค่ 220 ปอนด์ (8,900 บาท)
ผลที่ได้คือปากบวมเป่งสยอง และเจ็บปวดทรมานสุด ๆ (อ่านเพิ่มเติม : สาวปากบวมสยอง หลังลองฉีดฟิลเลอร์ในปาร์ตี้
หวังจะได้ความเซ็กซี่อวบอิ่ม...)
คริสตินา เบอร์ตัน ก่อนทำ-หลังทำ
ส่วนอีกรายชื่อว่า
คริสตินา เบอร์ตัน แมบ้านสาววัย 29 ปี
ต้องรับความทรมานจากการที่ริมฝีปากบวมประหนึ่งไส้กรอก
ภายหลังจากฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋าที่บ้านในราคาแสนถูกเพียงแค่ 75 ปอนด์
(ราว 3,000 บาท) ผลที่ได้คือเธอต้องรีบโทร. เรียกรถพยาบาล ให้ออกซิเจน
และเข้ารับการรักษาฉีดสเตียรอยด์ส เพื่อบรรเทาอาการปวด
นับว่ายังโชคดีที่เธอสามารถหายกลับมาเป็นปกติได้