ครอบครัวให้อภัย แม่วัย 15 ขุดหลุมฝังลูกทารก จะติดต่อรับเด็กมาเลี้ยงเอง แต่ห่วงคนรุมด่าแม่เด็กจนจิตตกไปอีก ด้านชาวบ้านแห่ชื่นชม เจ้าปิงปอง สุนัขฮีโร่ที่เจอเด็กทารกถูกฝังดิน
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบตัวแม่ อายุ 15 ปี ที่นำลูกทารกไปฝังดินทั้งเป็นได้แล้ว หลังชาวบ้านหนองขาม จ.นครราชสีมา เจอเด็กถูกฝังดินในไร่มันสำปะหลัง และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลชุมพวง โชคดีที่เด็กยังมีชีวิตอยู่ โดยแม่วัยใสสารภาพว่านำลูกไปทิ้ง เพราะกลัวถูกพ่อตี หากรู้ว่าตนเองท้อง (อ่านข่าว : รวบแม่วัยใส อายุ 15 ขุดหลุมฝังลูกตัวเองทั้งเป็น สารภาพ กลัวโดนพ่อตีถ้ารู้ว่าท้อง)
ล่าสุด (16 พฤษภาคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ฮีโร่ที่ทำให้เจอเด็กครั้งนี้ คือเจ้าปิงปอง สุนัขของนายอุสา นิสัยค้า อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นคนเลี้ยงวัว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงเจ้าปิงปองเห่าหลายครั้งและกำลังคุ้ยดินอยู่ จึงตามไปดู จนได้ยินเสียงเด็กร้อง ตนสังเกตเห็นเหมือนขาเด็กโผล่ออกมา จึงใช้มือโกยดินออก กระทั่งพบว่าเป็นเด็กทารกยังไม่เสียชีวิต จึงรีบช่วยเหลือ
นับเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ และน่าชื่นชมเจ้าปิงปองอย่างมาก ตอนนี้เจ้าปิงปองกลายเป็นฮีโร่ขวัญใจของคนชุมพวงไปแล้ว ซึ่งตนเลี้ยงมันมากว่า 6 ปีแล้ว เจ้าปิงปองเคยถูกรถชนจนขาพิการ แต่ตนยังคงเลี้ยงไว้ เพราะมันซื่อสัตย์ และเชื่อฟังเจ้าของ อีกทั้งชอบวิ่งตามไปช่วยตนเลี้ยงวัวเป็นประจำ
ด้านนายไตรรัตน์ วิทยานุมาศ นายอำเภอชุมพวง เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมเด็กทารกว่า ขณะนี้ เด็กอยู่ในความดูแลอย่างดีของโรงพยาบาล สุขภาพแข็งแรงดี ตอนนี้ผู้ปกครองของเด็กสาวทราบเรื่องแล้ว และเตรียมติดต่อขอรับหลานกลับไปเลี้ยงดู ส่วนแม่เด็กที่ขุดดินฝังทารก เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้สหวิชาชีพเข้าดูแลด้านจิตใจต่อไป
ขณะที่ นายลพ (นามสมมติ) น้าของเด็กสาววัย 15 ปี เผยว่า ครอบครัวไม่มีใครรู้เลยว่าหลานท้อง เนื่องจากท้องไม่โตให้เห็น แต่พอทราบเรื่องหลานมีแฟน แต่ก็นานมาแล้ว หลังมีเจ้าหน้าที่มารับตัวหลานไปโรงพยาบาล หลานก็ร้องไห้ตลอดเวลา ตนมองแววตาของหลานก็รู้สึกได้ว่า เขาเสียใจต่อสิ่งที่กระทำลงไป เรื่องนี้ถือเป็นความผิดพลาดของเขา ตนจึงไม่อยากถามว่าที่นำลูกไปฝังเพราะอะไร
ทั้งนี้ ตนไม่คาดคิดว่าหลานจะทำขนาดนี้ได้ แต่คงเป็นเพราะกลัวคนในครอบครัวด่า รวมถึงละอายใจ และกลัวคนในหมู่บ้านดูถูกต่อว่า ที่ไม่มีสามีเป็นตัวเป็นตน ซึ่งที่ผ่านมา ตนก็เคยตักเตือนหลานเช่นกันว่า เป็นผู้หญิงต้องทำตัวให้มีค่า ตอนนี้ตนเป็นห่วงว่าคนในหมู่บ้านจะรุมด่าหลาน ทำให้เครียด แต่อย่างไรก็ตาม ครอบครัวก็จะนำเด็กมาเลี้ยง และพร้อมที่จะให้อภัยหลานในการกระทำครั้งนี้
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบตัวแม่ อายุ 15 ปี ที่นำลูกทารกไปฝังดินทั้งเป็นได้แล้ว หลังชาวบ้านหนองขาม จ.นครราชสีมา เจอเด็กถูกฝังดินในไร่มันสำปะหลัง และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลชุมพวง โชคดีที่เด็กยังมีชีวิตอยู่ โดยแม่วัยใสสารภาพว่านำลูกไปทิ้ง เพราะกลัวถูกพ่อตี หากรู้ว่าตนเองท้อง (อ่านข่าว : รวบแม่วัยใส อายุ 15 ขุดหลุมฝังลูกตัวเองทั้งเป็น สารภาพ กลัวโดนพ่อตีถ้ารู้ว่าท้อง)
ล่าสุด (16 พฤษภาคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า ฮีโร่ที่ทำให้เจอเด็กครั้งนี้ คือเจ้าปิงปอง สุนัขของนายอุสา นิสัยค้า อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นคนเลี้ยงวัว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงเจ้าปิงปองเห่าหลายครั้งและกำลังคุ้ยดินอยู่ จึงตามไปดู จนได้ยินเสียงเด็กร้อง ตนสังเกตเห็นเหมือนขาเด็กโผล่ออกมา จึงใช้มือโกยดินออก กระทั่งพบว่าเป็นเด็กทารกยังไม่เสียชีวิต จึงรีบช่วยเหลือ
นับเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ และน่าชื่นชมเจ้าปิงปองอย่างมาก ตอนนี้เจ้าปิงปองกลายเป็นฮีโร่ขวัญใจของคนชุมพวงไปแล้ว ซึ่งตนเลี้ยงมันมากว่า 6 ปีแล้ว เจ้าปิงปองเคยถูกรถชนจนขาพิการ แต่ตนยังคงเลี้ยงไว้ เพราะมันซื่อสัตย์ และเชื่อฟังเจ้าของ อีกทั้งชอบวิ่งตามไปช่วยตนเลี้ยงวัวเป็นประจำ
ด้านนายไตรรัตน์ วิทยานุมาศ นายอำเภอชุมพวง เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมเด็กทารกว่า ขณะนี้ เด็กอยู่ในความดูแลอย่างดีของโรงพยาบาล สุขภาพแข็งแรงดี ตอนนี้ผู้ปกครองของเด็กสาวทราบเรื่องแล้ว และเตรียมติดต่อขอรับหลานกลับไปเลี้ยงดู ส่วนแม่เด็กที่ขุดดินฝังทารก เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้สหวิชาชีพเข้าดูแลด้านจิตใจต่อไป
ขณะที่ นายลพ (นามสมมติ) น้าของเด็กสาววัย 15 ปี เผยว่า ครอบครัวไม่มีใครรู้เลยว่าหลานท้อง เนื่องจากท้องไม่โตให้เห็น แต่พอทราบเรื่องหลานมีแฟน แต่ก็นานมาแล้ว หลังมีเจ้าหน้าที่มารับตัวหลานไปโรงพยาบาล หลานก็ร้องไห้ตลอดเวลา ตนมองแววตาของหลานก็รู้สึกได้ว่า เขาเสียใจต่อสิ่งที่กระทำลงไป เรื่องนี้ถือเป็นความผิดพลาดของเขา ตนจึงไม่อยากถามว่าที่นำลูกไปฝังเพราะอะไร
ทั้งนี้ ตนไม่คาดคิดว่าหลานจะทำขนาดนี้ได้ แต่คงเป็นเพราะกลัวคนในครอบครัวด่า รวมถึงละอายใจ และกลัวคนในหมู่บ้านดูถูกต่อว่า ที่ไม่มีสามีเป็นตัวเป็นตน ซึ่งที่ผ่านมา ตนก็เคยตักเตือนหลานเช่นกันว่า เป็นผู้หญิงต้องทำตัวให้มีค่า ตอนนี้ตนเป็นห่วงว่าคนในหมู่บ้านจะรุมด่าหลาน ทำให้เครียด แต่อย่างไรก็ตาม ครอบครัวก็จะนำเด็กมาเลี้ยง และพร้อมที่จะให้อภัยหลานในการกระทำครั้งนี้
