แม่ชายค้ายา เห็นใจคนขับแกร็บ ไม่เกี่ยวแต่ซวยโดนจับ-แฟนสาวงัดหลักฐานสู้

          แฟนสาวไล่เรียงเหตุการณ์ หนุ่มขับแกร็บโดนจับยาเสพติดร่วมกับลูกค้า ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง เปิดหลักฐานไลน์คุยกัน ด้านแม่คนค้ายาเห็นใจหนุ่มแกร็บ ดวงซวยโดนจับร่วมกับลูกชาย           จากกรณีสาวร้องทุกข์ แฟนหนุ่มขับแกร็บ เจอลูกค้าแอบขนยา ทำโดนคดียาเสพติดไปด้วยทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้กำลังพยายามหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อสู้คดี และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อไปนั้น (อ่านข่าว : สาวร้องทุกข์ แฟนหนุ่มขับแกร็บ เจอลูกค้าแอบขนยา ซวยติดคุกไปด้วยทั้งที่ไม่มีเอี่ยว)

          ล่าสุด (29 พฤษภาคม 2562) ข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า น.ส.สุพรรษา รานอก อายุ 26 ปี แฟนของนายสามารถ อายุ 32 ปี หนุ่มขับแกร็บ เปิดเผยว่า นายสามารถยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำจังหวัดนครราชสีมา ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนยาเสพติด โดยเหตุเกิดวันที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ระหว่างแฟนหนุ่มกำลังขับรถให้ลูกค้าอยู่นั้น ได้แชร์โลเคชั่นมาให้ตนในไลน์ บอกว่า "แชร์ให้ เผื่อเขาหลอกไปฆ่า" จากนั้นแฟนหนุ่มได้ถ่ายภาพขณะขับรถ ซึ่งติดภาพคนว่าจ้างด้วย นั่งสวมหมวกแดงอยู่เบาะหลัง เพื่อไม่ให้ตนหึงหวง เพราะตอนแรกเข้าใจว่าไปส่งผู้หญิงเพียงลำพัง
          จากนั้นไม่นาน แฟนหนุ่มโทร. บอกว่าลูกค้าที่เหมารถถูกจับยาเสพติดจำนวนมาก ตำรวจไม่ยึดรถยนต์ แต่กันแฟนหนุ่มไว้เป็นพยาน ตนก็รู้สึกโล่งใจ โดยระหว่างที่ตรวจจับกุม มีผู้ต้องหา 2 ราย วิ่งหลบหนีเข้าป่า แต่แฟนตนบริสุทธิ์ใจ ไม่หลบหนี และเข้าใจว่าถูกกันตัวเป็นพยาน แต่สุดท้ายกลับถูกแจ้งข้อหายาเสพติดไปด้วย

          ด้านนางทองสุข สิงห์อุดม แม่ของนายสุริยา ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เมื่อรู้ว่าลูกชายถูกจับยาเสพติด ถึงกับเป็นลมเข่าอ่อน ที่ผ่านมายอมรับว่าลูกชายเคยต้องคดีมาอย่างโชกโชน คดีแรกตอนอายุ 18 ปี ข้อหาพกปืนผิดกฎหมาย ต่อมาปี 2559 ถูกจับข้อหายาเสพติดและสารเสพติด จำคุกกว่า 2 ปี ก่อนพ้นโทษออกมา กระทั่งล่าสุดถูกจับกุมอีกครั้ง ตนเห็นใจคนขับแกร็บ และสงสารลูกชาย เพราะทุกครั้งที่ต้องคดี ตนไม่เคยต่อสู้คดี เนื่องจากครอบครัวยากจน ลำบากมาก หาเช้ากินค่ำ ไม่มีแม้แต่เงินไปเยี่ยมลูกชาย ได้แต่นอนร้องไห้เป็นห่วงลูก คิดถึงลูก
          ขณะที่ นายสูน สิงห์อุดม พ่อของนายสุริยา เปิดเผยว่า ลูกชายได้แต่ก้มกราบขอโทษในวันที่ถูกจับกุม พร้อมรับสารภาพว่าลักลอบขนยาเสพติดจริง ตนก็ได้แต่ร้องไห้ และให้กำลังใจ และหากคนขับแกร็บไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ตนก็ฝากขอโทษด้วย เพราะตนก็ไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด