ภาพจาก Instagram hungvanngo
ฮัง แวนน์โก เป็นคนที่ชื่นชอบศิลปะมาโดยตลอด งานแรกที่เขาทำคือผู้ช่วยในร้านเสริมสวย เขาได้ฝึกฝนการแต่งหน้า ได้เรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ ในการเนรมิตความงามให้กับผู้หญิง เขาหลงรักการเป็นช่างแต่งหน้าในทันที และทุ่มเทแรงใจในการเป็นช่างแต่งหน้า แวนน์โกให้ความสำคัญกับ "ความงาม" ของผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าแบบเบาบาง หรือแต่งจัดเต็ม เขาจะดึงความสวยของพวกเธอออกมา โดยที่ยังคงความเป็นตัวตนของพวกเธออยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่น เขากล่าวว่าเขาน่าจะเป็นที่รู้จักในเรื่องการแต่งตามากที่สุด โดยเขามองว่า การแต่งหน้าส่วนอื่น ๆ มันเรียบง่าย แต่ดวงตานั้นแตกต่างออกไป เพราะมันไม่ใช่แค่การแต่งให้สวย แต่มันคือการเปิดหน้าต่างของหัวใจ
"สำหรับผู้หญิงทุกคน การได้รู้สึกว่าตัวเองสวย มันเป็นเรื่องธรรมชาติ และเป็นสิ่งที่ผมอยากได้ยินอยู่เสมอ ชีวิตของผมรายล้อมด้วยผู้หญิงมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อลงมือแต่งหน้าให้ แล้วได้เห็นปฏิกิริยาของพวกเธอ มันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมาก" แวนน์โก เล่า
ภาพจาก Instagram hungvanngo
สำหรับชีวิตของเขานั้น แวนน์โกเกิดที่เวียดนาม เขามีพี่น้องร่วมท้องหลายคน เป็นผู้หญิง 4 คน และเป็นผู้ชาย 2 คน แม่ของเขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงดูลูก ๆ ตามลำพังด้วยสองมือของตัวเอง ชีวิตในช่วงนั้นเป็นไปอย่างลำบากไม่น้อย เพราะเป็นช่วงที่เวียดนามกำลังระส่ำระสาย อีกทั้งยังมีรัฐบาลที่ไม่มั่นคง ความไม่แน่นอนเหล่านี้สร้างความกังวลอย่างมากให้กับแม่ของแวนน์โก เธอจึงตัดสินใจนำเงินเก็บที่สะสมมาตลอดทั้งชีวิต หาทางส่งลูก ๆ 3 คนสุดท้อง อพยพหลบหนีไปจากเวียดนาม และคนกลางผู้รับหน้าที่นี้ ก็ให้สัญญากับเธอว่าเขาจะพาเด็ก ๆ ทุกคนไปถึงสหรัฐอเมริกาให้ได้
แวนน์โก เล่าย้อนถึงความทรงจำในตอนนั้นว่า ที่เขาจำความได้ก็คือ คนดูแลได้พาเขากับพี่น้องอีก 2 คน นั่งเรือออกจากเวียดนาม มันเป็นเรือลำเล็กที่ทุกคนต้องนั่งเรียงกันมาอย่างเบียดเสียด เรือลำนี้มาขึ้นฝั่งที่ประเทศไทย ทุกคนขึ้นจากเรือแล้วเดินเท้า แต่พวกเขาเดินไปตกบ่อโคลน ทุกคนพยายามกระเสือกกระสนหนี ซึ่งไม่สำเร็จ โคลนมันดูดร่างพวกเขาให้จมลงไปเรื่อย ๆ และแวนน์โกก็คิดว่าเขากับพี่น้องคงต้องตายแน่นอน ทว่าในตอนที่โคลนขึ้นมาถึงระดับคอนั้น ชาวบ้านคนไทยได้มาเห็นเข้า และรีบเข้ามาช่วยพวกเขาทันที แวนน์โก กล่าวว่า ชาวบ้านกลุ่มนี้โยนเชือกเส้นใหญ่มาให้พวกเขาจับเอาไว้ แล้วก็ช่วยกันลากตัวขึ้นไป จนรอดชีวิตมาได้
ภาพจาก Instagram hungvanngo
เหตุการณ์ในวันนั้นคือสิ่งที่แวนน์โกจดจำได้อย่างไม่มีวันลืม โดยช่างแต่งหน้ามากความสามารถ กล่าวจากใจว่า ในวันที่เขากับพี่น้องมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ทั้งอาชีพการงาน ทั้งในเรื่องความเป็นอยู่ และทุกครั้งที่ตระหนักได้ว่าตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว เขาจะรำลึกถึงช่วงเวลานั้นอยู่เสมอ นึกถึงตอนที่พวกเขาทุกคนต้องต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตรอด
เมื่อรอดชีวิตจากบ่อโคลนมาได้ 3 พี่น้องก็ไปอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย และรอให้มีคนเข้ามาช่วยเหลือ จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 ปี ผู้หญิงคนหนึ่งก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เธอทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่โรงแรมในแคนาดา บังเอิญได้เห็นรูปภาพของเขากับพี่น้องที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แล้วรับรู้ว่าพวกเขากำลังอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศไทย หลังจากนั้นไม่กี่เดือน พวกเขาก็เดินทางมาถึงแคนาดา ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็ให้การช่วยเหลือทุกอย่าง ทั้งหาบ้านให้อยู่ รวมทั้งส่งเข้าโรงเรียน และในท้ายที่สุด ตัวเขาก็ฝ่าฟันมาได้จนถึงจุดที่ตัวเองก็ไม่เคยวาดฝันมาก่อน แวนน์โก กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญในชีวิตของเขาก็คือ การมุ่งมั่นทำงานหนัก เพื่อให้แม่และครอบครัวภาคภูมิใจ นั่นคือสิ่งที่เขาทำอยู่ทุกวัน
"ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีวันนี้ได้ ในวันที่ผมได้แต่งหน้าออกงานสำคัญ ๆ อย่าง ออสการ์ ลูกโลกทองคำ ไปจนถึง Met Gala และได้ร่วมงานกับคนดังมากมาย ผมไม่เคยมีภาพเหล่านี้ในหัวมาก่อนเลย และผมก็ไม่เคยจินตนาการเช่นกันว่า ผมจะได้มาอยู่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นโลกทั้งใบของผม
และถ้าผมสามารถบอกอะไรบางอย่างกับเด็กชายเวียดนามตัวน้อยในวันนั้น ผมคงจะบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเป็นไปได้เสมอ ตราบใดที่เราทุ่มเทเพื่อมัน และในสักวันหนึ่ง ความสำเร็จก็จะมาถึงเอง" แวนน์โก กล่าว
ภาพจาก Instagram hungvanngo
ภาพจาก Instagram hungvanngo
ภาพจาก Instagram hungvanngo






